7 ก.ค. – “กระติก-แซน” 2 ผู้ต้องหาคดีแตงโม พร้อมทนายความ ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด เผยอยากให้คดีเข้าสู่ชั้นศาล เพื่อพิสูจน์ตนเองต่อสังคมให้ได้รับรู้ว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดตามที่ถูกสังคมพิพากษามาหลายเดือน
ทนายเดชาโพสต์ในเพจทนายคลายทุกข์ ว่านางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ได้ยื่นถอนฟ้องสำนวนคดีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นฟ้องผู้ต้องหาบนเรือสปีดโบ๊ท ต่อศาลจังหวัดนนทบุรีไปก่อนหน้านี้ ในความผิดคดีอาญารวม 8 มาตรา ในคดีฆาตกรรมแล้วเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยจะขอเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการฟ้องในคดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายแทน
ขณะที่นายอัจฉริยะ ยอมรับว่าแม่ของแตงโมไปยื่นถอนคำฟ้องคดีฆาตกรรมที่ศาลแล้ว จากนี้ไปจะถือว่าหมดหน้าที่ของชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมแล้ว พร้อมระบุว่าที่ผ่านมาทำดีที่สุดแล้วในส่วนของคดีแตงโม จากนี้ไปยังคงเดินหน้าช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายในคดีอาชญากรรมอื่นๆ ต่อไป
ด้านกระติก และแซน 2 ผู้ต้องหาคดีแตงโม พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ที่สำนักงานอัยการสูงสุด แจ้งวัฒนะ
นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ทนายความของกระติก กล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะร้องขอความเป็นธรรม เพราะอยากให้คดีเข้าสู่ชั้นศาล เพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อสังคมให้ได้รับรู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดตามที่ถูกสังคมพิพากษามาหลายเดือน ซึ่งตั้งใจจะยื่นตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเมื่อช่วงเช้ายังไม่ได้ทราบว่าจะมีการเลื่อนฟังคำสั่งทางคดีไปเป็นวันที่ 3 ส.ค. พอมีการเลื่อนมองว่าเป็นเรื่องดีที่ได้ยื่นหนังสือเพื่อให้อัยการสูงสุดรับพิจารณา และให้เร่งรัดในการพิจารณาสำนวนเพื่อส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดโดยเร็ว
กระติก กล่าวว่า ตนถูกสังคมตัดสินไปแล้ว มีคนพยายามจะทำให้ตนเป็นฆาตกรให้ได้ ซึ่งเป็นสิทธิของเขา แต่ต้องยอมรับผลของการกระทำด้วย หากตนจะฟ้องกลับ โดยตนอยากให้คดีเข้าสู่ชั้นศาลให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งนานคนนอกยิ่งเข้ามาแทรกแซงตลอดเวลา ที่ผ่านมากว่า 4 เดือน ก็เต็มเหนี่ยวแล้ว และยังไม่หยุด ตนเลยขอใช้สิทธิในการร้องเรียนบ้าง
ส่วนการเตรียมฟ้องกลับในคดีฆาตกรรมที่มีผู้ไปฟ้องตรงต่อศาลนั้น ทนายพรศักดิ์ ระบุว่า แม้ผู้เสียหายจะถอนฟ้อง แต่มองว่าเมื่อลูกความตนถูกดำเนินการยื่นฟ้องที่เป็นเท็จและไม่เป็นความจริง เมื่อฟ้องมาแล้ว ความผิดมันเกิดขึ้นแล้ว ฝั่งผู้ต้องหาต้องปกป้องสิทธิ แม้คุณแม่แตงโมจะถอนฟ้องไปแล้ว แต่สิทธิยังมีอยู่ ซึ่งฝั่งผู้ต้องหาต้องฟ้องกลับกับคนที่ฟ้องเท็จ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใคร ยืนยันว่าหลังจากอัยการจังหวัดนนทบุรี มีคำสั่งฟ้อง คนบนเรือจะออกมาใช้สิทธิอย่างเต็มที่กับทุกคน ทุกการกระทำผิด ต่างกรรมต่างวาระ ในสิทธิที่คนบนเรือถูกโดนละเมิด โดยหากสั่งฟ้องวันที่ 3 ส.ค. วันที่ 4, 5, 6 ส.ค. จะยื่นฟ้องทันที
สำหรับประเด็นเรื่องที่ถูกพนักงานสอบสวนขอตรวจสอบโทรศัพท์มือถือเพิ่มตามคำสั่งของอัยการนั้น กระติกบอกว่าตนได้เคยให้ตรวจสอบไปแล้วตั้งแต่แรกด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตำรวจขอมาก็ให้ตลอด แต่ประเด็นอะไรก็ตามที่มองว่าเป็นการทำซ้ำซ้อน ไม่เกิดประโยชน์ ตนก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธ หากมีการเรียกสอบเพิ่มในประเด็นที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ตนพร้อมให้ความร่วมมืออยู่แล้ว แต่เรื่องโทรศัพท์มือถือขอสงวนไว้เลย เพราะโทรศัพท์คือชีวิต ตนต้องใช้ทำงาน จึงไม่สะดวกจะให้
ขณะที่แซน วิศาพัช กล่าวถึงกรณีที่อัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนขอตรวจโทรศัพท์มือถือตนและคนบนเรือเพิ่มเติมว่า พนักงานสอบสวนไม่ได้บอกเหตุผล แต่ตนปฏิเสธ เพราะหลักฐานทั้งหมดตำรวจเคยเอาไปหมดแล้ว ส่วนตัวรู้สึกเบื่อกับการที่ถูกพยายามขุดเรื่องนี้ไม่จบสักที การที่มีหน้าที่หาทั้งความบริสุทธิ์และความผิดของผู้ต้องหา แต่พอหาความผิดไม่เจอก็พยายามจะหาให้เจอให้ได้ ตนมองว่าจะเจอได้อย่างไร ในเมื่อพวกตนไม่ได้ทำอะไรผิด
ทั้งนี้ แซนได้กล่าวถึงบุคคลที่มาละเมิดตนเอง บอกว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด หากรู้ตัวว่าผิดให้ออกมาขอโทษ ไม่ใช่หาทางลงไม่ได้แล้วหาเรื่องใหม่มาปกปิดความผิดของตัวเอง ซึ่งกระติกได้พูดต่อขึ้นมาว่า เหมือนตอนนี้เขาจะหาทางลงได้แล้ว เพราะคุณแม่ถอนฟ้องแล้ว เลยไม่ต้องโชว์คลิปหลักฐานแล้ว ไปโชว์ในเมืองทิพย์แทน และแซนบอกต่อว่าให้เขาเก็บหลักฐานทิพย์ไว้โชว์ในเมืองทิพย์ของเขา และทั้งสองคนบอกว่าจะดำเนินการฟ้องกลับบุคคลนี้แน่นอน.-สำนักข่าวไทย