เครื่องบินรบเมียนมาทิ้งระเบิดตกกลางวงข้าว เปิดไทม์ไลน์ปะทะเดือดสนั่นชายแดน

ตาก 2 ก.ค. – สถานการณ์สู้รบฝั่งเมียนมายังร้อนระอุ ส่วนเหตุทิ้งระเบิดเมื่อคืน พบเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย พร้อมเปิดไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดสนั่นชายแดนไทย ชาวบ้าน อ.พบพระ ขวัญผวาเสียงระเบิด


ภาพเครื่องบินรบแบบ MiG-29 SE จำนวน 1 ลำ บินเลียบแนวชายแดนไทย-เมียนมา พร้อมยิงจรวดโจมตีบริเวณแนวสะพานพื้นที่ดอยแดง อำเภอซูการี ซึ่งอยู่ห่างแนวชายแดนเพียง 1 กิโลเมตร และอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านมอเกอร์ไทย หมู่ที่ 1 อำเภอพบพระ เสียงระเบิดดังข้ามมาถึงฝั่งไทยจนชาวบ้านฝั่งไทยขวัญผวากับเสียงระเบิดสนั่น

นอกจากนี้ ทหารเมียนมาได้ยิงลูกระเบิด ค.120 มม.จำนวนหลายลูก เพื่อสกัดแนวรบของทหารกะเหรี่ยงที่ยังคงตั้งแนวปะทะอยู่รอบฐานทหารเมียนมา ฐานอูเกรทะ โดยยิงปะทะยาวนานถึง 7 วัน นอกจากนี้ทหารเมียนมายังใช้เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ ลำเลียงอาวุธเป็นลูกระเบิด, กระสุนปืนสงคราม และกำลังพลไปส่งที่ฐานใหญ่ ฐานทีตาแหล่ บ้านวาเล่ย์ใหม่ จังหวัดเมียวดี ฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก


สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืนที่มีการทิ้งระเบิด 1 ลูก ลงใกล้ฐานทหารกะเหรี่ยงในหมู่บ้านทิบาโบ เขตจังหวัดเมียวดี แต่ลูกระเบิดพลาดเป้าหมายลอยตกกลางหมู่บ้านทิบาโบของชาวกะเหรี่ยง มีผู้เสียชีวิตทันที 2 ราย ทราบชื่อนายนาปะ ไม่มีนามสกุล อายุ 27 ปี เบื้องต้นเป็นบุคคลอยู่ระหว่างเทียบโอนสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู) เนื่องจากรายชื่อตกหล่นระหว่างการแจ้งเกิดในอดีต เสียชีวิตพร้อมญาติผู้ใหญ่ชื่อนายคะชุ ไม่มีนามสกุล สัญชาติเมียนมา ทั้งสองรายถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์เสียชีวิตกลางบ้านพักระหว่างที่ทั้ง 2 คนกำลังนั่งรับประทานอาหาร ยังมีผู้บาดเจ็บ 3 คน เป็นเชื้อสายกะเหรี่ยง ถูกลำเลียงข้ามแม่น้ำเมยมารักษาตัวที่โรงพยาบาลอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ส่วนผู้เสียชีวิตทั้งสองรายนำไปบำเพ็ญกุศลฝั่งเมียนมา

ผลกระทบจากแรงระเบิดเมื่อคืนที่ผ่านมา ตกห่างฝั่งชายแดนไทยเพียง 400 เมตร บ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านหมื่นฤาชัย หมู่ที่ 5 ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ ตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุ บ้านเรือนคนไทยถูกสะเก็ดระเบิดเสียหาย 3 หลัง ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 นำกำลังทหารเร่งซ่อมแซม ส่งทีมแพทย์สนามและทหารจิตวิทยาเข้าไปปลอบขวัญชาวบ้าน ขณะที่การยิงปะทะเริ่มลุกลามมาที่แนวชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตากแล้ว

ไทม์ไลน์เมียนมาปะทะเดือด
เหตุการณ์วันที่ 30 มิ.ย.2565
สำหรับวันนี้ (2 ก.ค.) ล่วงเลยมาเป็นวันที่ 7 แล้วนับตั้งแต่ที่เมียนมาได้ปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ของกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู หลังจากเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา กองกำลังกะเหรี่ยง พร้อมอาวุธได้บุกโจมตียิงถล่มฐานที่มั่นทหารเมียนมากองพันที่ 32 ในพื้นที่บ้านอูเกรทะ อ.ซูการี จ.เมียวดี และยิงปะทะกันอย่างดุเดือด จุดดังกล่าวอยู่ห่างจากแนวชายแดนอำเภอพบพระ เพียง 400 เมตรเท่านั้น


เหตุการณ์วันที่ 27 มิ.ย.2565
ถัดมาเพียง 1 วัน ปรากฏว่าสถานการณ์เริ่มรุนแรง มีการเปิดฉากยิงถล่มด้วยปืนเล็กยาว และเครื่องยิงลูกระเบิดเป็นระลอก อีกทั้งพบว่ามีลูกระเบิด ค.120 มม. 1 นัด ตกใส่ฝั่งไทย บริเวณบ้านวาเล่ย์ใต้ พร้อมเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลายสิบลูก เสียงดังสนั่นแนวชายแดนอำเภอพบพระ ททหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูบาดเจ็บจำนนวนมาก แต่ทหารเมียนมาก็ถูกมือสไนเปอร์อีกฝ่ายซุ่มยิง ถูกโดรนบินทิ้งระเบิดเสียชีวิตไปหลายนายเช่นกัน

เหตุการณ์วันที่ 28 มิ.ย.2565
วันที่ 3 ของการสู้รบระหว่างกะเหรี่ยงและทหารเมียนมาดุเดือด เพราะกองกำลังกะเหรี่ยงบุกประชิดฐานทหารเมียนมา แต่ถูกยิงตอบโต้ทั้งปืนเล็กยาวและปืนกลหนัก ก่อนประสานขอกำลังเฮลิคอปเตอร์ยิงจรวดใส่ทหารกะเหรี่ยง 4 ลูกซ้อน คนไทยตามแนวชายแดนเริ่มหวาดผวา เพราะเห็นกลุ่มควันจากการโจมตีได้อย่างชัดเจน ขณะที่หลายคนต้องอพยพออกจากพื้นที่เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ส่วนที่บ้านวาเล่ย์ใต้ ใกล้แนวยิงปะทะ พื้นที่เสี่ยงภัยทั้งในอดีตและปัจจุบัน ชาวบ้านหลายครอบครัวเร่งตรวจเช็กหลุมหลบภัยใต้ถุนบ้านให้พร้อมหลบภัยได้ทันที หากมีกระสุนปืนหลุดข้ามชายแดนมาตกในหมู่บ้าน

เหตุการณ์วันที่ 29 มิ.ย.2565
ขณะที่วันที่ 4 ของการสู้รบ กองทัพเมียนมาส่งเครื่องบินรบ 2 ลำ บินเลียบแนวภูเขาติดแนวชายแดนในระดับต่ำ พร้อมทิ้งลูกระเบิดขนาดใหญ่นับสิบลูกใส่ทหารกะเหรี่ยงที่หลบอยู่ในพื้นที่แนวกำบัง เสียงระเบิดดังสนั่นทั่วชายแดนอำเภอพบพระ ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่แนวระเบิดตก ไม่กล้าเข้าบ้านพัก ต้องหลบภัยป่าและพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว โดยมีทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ออกลาดตระเวนเข้มงวด

เหตุการณ์วันที่ 30 มิ.ย.2565
กระทั่งวันที่ 30 มิถุนายน เห็นเครื่องบิน MiG-29 ของเมียนมา บินรุกล้ำชายแดนเข้ามาถึง อ.พบพระ ย่านชุมชน เสียงดังทั่วชายแดนไทย-เมียนมา ชาวบ้านต้องวิ่งหาที่กำบัง ขณะที่บางคนต้องหลบภัยที่ใต้ถุนบ้าน

นอกจากนี้ มีรายงานกระสุนปืนกลทางอากาศหลายลูกหลุดข้ามชายแดนมาตกไร่ปาล์มแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ รถกระบะชาวบ้านเสียหาย ทำให้โรงเรียนในหมู่บ้านวาเล่ย์ 1 แห่ง ต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนฉุกเฉิน มีภาพครูและนักเรียนต้องวิ่งหลุมหลบภัยโกลาหล จนเหตุการณ์สงบลง ผู้ปกครองของนักเรียนรีบรับตัวบุตรหลานกลับ

ขณะที่กองทัพอากาศส่งเครื่องบิน F-16 ออกบินจากฐานทัพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ยืนยันว่าบินถึงพื้นที่ใน 5 นาที และ F-16 ทั้ง 2 ลำปฏิบัติการบินเตือน ขณะที่ MiG-29 บินกลับเข้าไปในเขตเมียนมา

เหตุการณ์วันที่ 1 ก.ค.2565
หลังเกิดเหตุเครื่องบินรบเมียนมาล้ำน่านฟ้าของไทย ทำให้กองทัพอากาศรวมถึงรัฐบาลยืนยันเมียนมาได้ขอโทษทางการไทยแล้ว เนื่องจากไม่ได้ตั้งใจ เน้นย้ำถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศของไทยว่าเป็นตามมาตรฐาน

สำหรับเครื่องบินรบ MiG-29 ของกองทัพเมียนมา และเครื่องบินรบ F-16 ของไทย ถือว่ามีสมรรถนะใกล้เคียงกัน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย