เครื่องบินรบเมียนมาทิ้งระเบิดตกกลางวงข้าว เปิดไทม์ไลน์ปะทะเดือดสนั่นชายแดน

ตาก 2 ก.ค. – สถานการณ์สู้รบฝั่งเมียนมายังร้อนระอุ ส่วนเหตุทิ้งระเบิดเมื่อคืน พบเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย พร้อมเปิดไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดสนั่นชายแดนไทย ชาวบ้าน อ.พบพระ ขวัญผวาเสียงระเบิด


ภาพเครื่องบินรบแบบ MiG-29 SE จำนวน 1 ลำ บินเลียบแนวชายแดนไทย-เมียนมา พร้อมยิงจรวดโจมตีบริเวณแนวสะพานพื้นที่ดอยแดง อำเภอซูการี ซึ่งอยู่ห่างแนวชายแดนเพียง 1 กิโลเมตร และอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านมอเกอร์ไทย หมู่ที่ 1 อำเภอพบพระ เสียงระเบิดดังข้ามมาถึงฝั่งไทยจนชาวบ้านฝั่งไทยขวัญผวากับเสียงระเบิดสนั่น

นอกจากนี้ ทหารเมียนมาได้ยิงลูกระเบิด ค.120 มม.จำนวนหลายลูก เพื่อสกัดแนวรบของทหารกะเหรี่ยงที่ยังคงตั้งแนวปะทะอยู่รอบฐานทหารเมียนมา ฐานอูเกรทะ โดยยิงปะทะยาวนานถึง 7 วัน นอกจากนี้ทหารเมียนมายังใช้เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ ลำเลียงอาวุธเป็นลูกระเบิด, กระสุนปืนสงคราม และกำลังพลไปส่งที่ฐานใหญ่ ฐานทีตาแหล่ บ้านวาเล่ย์ใหม่ จังหวัดเมียวดี ฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก


สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืนที่มีการทิ้งระเบิด 1 ลูก ลงใกล้ฐานทหารกะเหรี่ยงในหมู่บ้านทิบาโบ เขตจังหวัดเมียวดี แต่ลูกระเบิดพลาดเป้าหมายลอยตกกลางหมู่บ้านทิบาโบของชาวกะเหรี่ยง มีผู้เสียชีวิตทันที 2 ราย ทราบชื่อนายนาปะ ไม่มีนามสกุล อายุ 27 ปี เบื้องต้นเป็นบุคคลอยู่ระหว่างเทียบโอนสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู) เนื่องจากรายชื่อตกหล่นระหว่างการแจ้งเกิดในอดีต เสียชีวิตพร้อมญาติผู้ใหญ่ชื่อนายคะชุ ไม่มีนามสกุล สัญชาติเมียนมา ทั้งสองรายถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์เสียชีวิตกลางบ้านพักระหว่างที่ทั้ง 2 คนกำลังนั่งรับประทานอาหาร ยังมีผู้บาดเจ็บ 3 คน เป็นเชื้อสายกะเหรี่ยง ถูกลำเลียงข้ามแม่น้ำเมยมารักษาตัวที่โรงพยาบาลอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ส่วนผู้เสียชีวิตทั้งสองรายนำไปบำเพ็ญกุศลฝั่งเมียนมา

ผลกระทบจากแรงระเบิดเมื่อคืนที่ผ่านมา ตกห่างฝั่งชายแดนไทยเพียง 400 เมตร บ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านหมื่นฤาชัย หมู่ที่ 5 ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ ตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุ บ้านเรือนคนไทยถูกสะเก็ดระเบิดเสียหาย 3 หลัง ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 นำกำลังทหารเร่งซ่อมแซม ส่งทีมแพทย์สนามและทหารจิตวิทยาเข้าไปปลอบขวัญชาวบ้าน ขณะที่การยิงปะทะเริ่มลุกลามมาที่แนวชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตากแล้ว

ไทม์ไลน์เมียนมาปะทะเดือด
เหตุการณ์วันที่ 30 มิ.ย.2565
สำหรับวันนี้ (2 ก.ค.) ล่วงเลยมาเป็นวันที่ 7 แล้วนับตั้งแต่ที่เมียนมาได้ปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ของกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู หลังจากเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา กองกำลังกะเหรี่ยง พร้อมอาวุธได้บุกโจมตียิงถล่มฐานที่มั่นทหารเมียนมากองพันที่ 32 ในพื้นที่บ้านอูเกรทะ อ.ซูการี จ.เมียวดี และยิงปะทะกันอย่างดุเดือด จุดดังกล่าวอยู่ห่างจากแนวชายแดนอำเภอพบพระ เพียง 400 เมตรเท่านั้น


เหตุการณ์วันที่ 27 มิ.ย.2565
ถัดมาเพียง 1 วัน ปรากฏว่าสถานการณ์เริ่มรุนแรง มีการเปิดฉากยิงถล่มด้วยปืนเล็กยาว และเครื่องยิงลูกระเบิดเป็นระลอก อีกทั้งพบว่ามีลูกระเบิด ค.120 มม. 1 นัด ตกใส่ฝั่งไทย บริเวณบ้านวาเล่ย์ใต้ พร้อมเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลายสิบลูก เสียงดังสนั่นแนวชายแดนอำเภอพบพระ ททหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูบาดเจ็บจำนนวนมาก แต่ทหารเมียนมาก็ถูกมือสไนเปอร์อีกฝ่ายซุ่มยิง ถูกโดรนบินทิ้งระเบิดเสียชีวิตไปหลายนายเช่นกัน

เหตุการณ์วันที่ 28 มิ.ย.2565
วันที่ 3 ของการสู้รบระหว่างกะเหรี่ยงและทหารเมียนมาดุเดือด เพราะกองกำลังกะเหรี่ยงบุกประชิดฐานทหารเมียนมา แต่ถูกยิงตอบโต้ทั้งปืนเล็กยาวและปืนกลหนัก ก่อนประสานขอกำลังเฮลิคอปเตอร์ยิงจรวดใส่ทหารกะเหรี่ยง 4 ลูกซ้อน คนไทยตามแนวชายแดนเริ่มหวาดผวา เพราะเห็นกลุ่มควันจากการโจมตีได้อย่างชัดเจน ขณะที่หลายคนต้องอพยพออกจากพื้นที่เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ส่วนที่บ้านวาเล่ย์ใต้ ใกล้แนวยิงปะทะ พื้นที่เสี่ยงภัยทั้งในอดีตและปัจจุบัน ชาวบ้านหลายครอบครัวเร่งตรวจเช็กหลุมหลบภัยใต้ถุนบ้านให้พร้อมหลบภัยได้ทันที หากมีกระสุนปืนหลุดข้ามชายแดนมาตกในหมู่บ้าน

เหตุการณ์วันที่ 29 มิ.ย.2565
ขณะที่วันที่ 4 ของการสู้รบ กองทัพเมียนมาส่งเครื่องบินรบ 2 ลำ บินเลียบแนวภูเขาติดแนวชายแดนในระดับต่ำ พร้อมทิ้งลูกระเบิดขนาดใหญ่นับสิบลูกใส่ทหารกะเหรี่ยงที่หลบอยู่ในพื้นที่แนวกำบัง เสียงระเบิดดังสนั่นทั่วชายแดนอำเภอพบพระ ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่แนวระเบิดตก ไม่กล้าเข้าบ้านพัก ต้องหลบภัยป่าและพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว โดยมีทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ออกลาดตระเวนเข้มงวด

เหตุการณ์วันที่ 30 มิ.ย.2565
กระทั่งวันที่ 30 มิถุนายน เห็นเครื่องบิน MiG-29 ของเมียนมา บินรุกล้ำชายแดนเข้ามาถึง อ.พบพระ ย่านชุมชน เสียงดังทั่วชายแดนไทย-เมียนมา ชาวบ้านต้องวิ่งหาที่กำบัง ขณะที่บางคนต้องหลบภัยที่ใต้ถุนบ้าน

นอกจากนี้ มีรายงานกระสุนปืนกลทางอากาศหลายลูกหลุดข้ามชายแดนมาตกไร่ปาล์มแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ รถกระบะชาวบ้านเสียหาย ทำให้โรงเรียนในหมู่บ้านวาเล่ย์ 1 แห่ง ต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนฉุกเฉิน มีภาพครูและนักเรียนต้องวิ่งหลุมหลบภัยโกลาหล จนเหตุการณ์สงบลง ผู้ปกครองของนักเรียนรีบรับตัวบุตรหลานกลับ

ขณะที่กองทัพอากาศส่งเครื่องบิน F-16 ออกบินจากฐานทัพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ยืนยันว่าบินถึงพื้นที่ใน 5 นาที และ F-16 ทั้ง 2 ลำปฏิบัติการบินเตือน ขณะที่ MiG-29 บินกลับเข้าไปในเขตเมียนมา

เหตุการณ์วันที่ 1 ก.ค.2565
หลังเกิดเหตุเครื่องบินรบเมียนมาล้ำน่านฟ้าของไทย ทำให้กองทัพอากาศรวมถึงรัฐบาลยืนยันเมียนมาได้ขอโทษทางการไทยแล้ว เนื่องจากไม่ได้ตั้งใจ เน้นย้ำถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศของไทยว่าเป็นตามมาตรฐาน

สำหรับเครื่องบินรบ MiG-29 ของกองทัพเมียนมา และเครื่องบินรบ F-16 ของไทย ถือว่ามีสมรรถนะใกล้เคียงกัน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]