เครื่องบินรบเมียนมาทิ้งระเบิดตกกลางวงข้าว เปิดไทม์ไลน์ปะทะเดือดสนั่นชายแดน

ตาก 2 ก.ค. – สถานการณ์สู้รบฝั่งเมียนมายังร้อนระอุ ส่วนเหตุทิ้งระเบิดเมื่อคืน พบเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย พร้อมเปิดไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดสนั่นชายแดนไทย ชาวบ้าน อ.พบพระ ขวัญผวาเสียงระเบิด


ภาพเครื่องบินรบแบบ MiG-29 SE จำนวน 1 ลำ บินเลียบแนวชายแดนไทย-เมียนมา พร้อมยิงจรวดโจมตีบริเวณแนวสะพานพื้นที่ดอยแดง อำเภอซูการี ซึ่งอยู่ห่างแนวชายแดนเพียง 1 กิโลเมตร และอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านมอเกอร์ไทย หมู่ที่ 1 อำเภอพบพระ เสียงระเบิดดังข้ามมาถึงฝั่งไทยจนชาวบ้านฝั่งไทยขวัญผวากับเสียงระเบิดสนั่น

นอกจากนี้ ทหารเมียนมาได้ยิงลูกระเบิด ค.120 มม.จำนวนหลายลูก เพื่อสกัดแนวรบของทหารกะเหรี่ยงที่ยังคงตั้งแนวปะทะอยู่รอบฐานทหารเมียนมา ฐานอูเกรทะ โดยยิงปะทะยาวนานถึง 7 วัน นอกจากนี้ทหารเมียนมายังใช้เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ ลำเลียงอาวุธเป็นลูกระเบิด, กระสุนปืนสงคราม และกำลังพลไปส่งที่ฐานใหญ่ ฐานทีตาแหล่ บ้านวาเล่ย์ใหม่ จังหวัดเมียวดี ฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก


สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืนที่มีการทิ้งระเบิด 1 ลูก ลงใกล้ฐานทหารกะเหรี่ยงในหมู่บ้านทิบาโบ เขตจังหวัดเมียวดี แต่ลูกระเบิดพลาดเป้าหมายลอยตกกลางหมู่บ้านทิบาโบของชาวกะเหรี่ยง มีผู้เสียชีวิตทันที 2 ราย ทราบชื่อนายนาปะ ไม่มีนามสกุล อายุ 27 ปี เบื้องต้นเป็นบุคคลอยู่ระหว่างเทียบโอนสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู) เนื่องจากรายชื่อตกหล่นระหว่างการแจ้งเกิดในอดีต เสียชีวิตพร้อมญาติผู้ใหญ่ชื่อนายคะชุ ไม่มีนามสกุล สัญชาติเมียนมา ทั้งสองรายถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์เสียชีวิตกลางบ้านพักระหว่างที่ทั้ง 2 คนกำลังนั่งรับประทานอาหาร ยังมีผู้บาดเจ็บ 3 คน เป็นเชื้อสายกะเหรี่ยง ถูกลำเลียงข้ามแม่น้ำเมยมารักษาตัวที่โรงพยาบาลอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ส่วนผู้เสียชีวิตทั้งสองรายนำไปบำเพ็ญกุศลฝั่งเมียนมา

ผลกระทบจากแรงระเบิดเมื่อคืนที่ผ่านมา ตกห่างฝั่งชายแดนไทยเพียง 400 เมตร บ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านหมื่นฤาชัย หมู่ที่ 5 ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ ตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุ บ้านเรือนคนไทยถูกสะเก็ดระเบิดเสียหาย 3 หลัง ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 นำกำลังทหารเร่งซ่อมแซม ส่งทีมแพทย์สนามและทหารจิตวิทยาเข้าไปปลอบขวัญชาวบ้าน ขณะที่การยิงปะทะเริ่มลุกลามมาที่แนวชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตากแล้ว

ไทม์ไลน์เมียนมาปะทะเดือด
เหตุการณ์วันที่ 30 มิ.ย.2565
สำหรับวันนี้ (2 ก.ค.) ล่วงเลยมาเป็นวันที่ 7 แล้วนับตั้งแต่ที่เมียนมาได้ปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ของกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู หลังจากเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา กองกำลังกะเหรี่ยง พร้อมอาวุธได้บุกโจมตียิงถล่มฐานที่มั่นทหารเมียนมากองพันที่ 32 ในพื้นที่บ้านอูเกรทะ อ.ซูการี จ.เมียวดี และยิงปะทะกันอย่างดุเดือด จุดดังกล่าวอยู่ห่างจากแนวชายแดนอำเภอพบพระ เพียง 400 เมตรเท่านั้น


เหตุการณ์วันที่ 27 มิ.ย.2565
ถัดมาเพียง 1 วัน ปรากฏว่าสถานการณ์เริ่มรุนแรง มีการเปิดฉากยิงถล่มด้วยปืนเล็กยาว และเครื่องยิงลูกระเบิดเป็นระลอก อีกทั้งพบว่ามีลูกระเบิด ค.120 มม. 1 นัด ตกใส่ฝั่งไทย บริเวณบ้านวาเล่ย์ใต้ พร้อมเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลายสิบลูก เสียงดังสนั่นแนวชายแดนอำเภอพบพระ ททหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูบาดเจ็บจำนนวนมาก แต่ทหารเมียนมาก็ถูกมือสไนเปอร์อีกฝ่ายซุ่มยิง ถูกโดรนบินทิ้งระเบิดเสียชีวิตไปหลายนายเช่นกัน

เหตุการณ์วันที่ 28 มิ.ย.2565
วันที่ 3 ของการสู้รบระหว่างกะเหรี่ยงและทหารเมียนมาดุเดือด เพราะกองกำลังกะเหรี่ยงบุกประชิดฐานทหารเมียนมา แต่ถูกยิงตอบโต้ทั้งปืนเล็กยาวและปืนกลหนัก ก่อนประสานขอกำลังเฮลิคอปเตอร์ยิงจรวดใส่ทหารกะเหรี่ยง 4 ลูกซ้อน คนไทยตามแนวชายแดนเริ่มหวาดผวา เพราะเห็นกลุ่มควันจากการโจมตีได้อย่างชัดเจน ขณะที่หลายคนต้องอพยพออกจากพื้นที่เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ส่วนที่บ้านวาเล่ย์ใต้ ใกล้แนวยิงปะทะ พื้นที่เสี่ยงภัยทั้งในอดีตและปัจจุบัน ชาวบ้านหลายครอบครัวเร่งตรวจเช็กหลุมหลบภัยใต้ถุนบ้านให้พร้อมหลบภัยได้ทันที หากมีกระสุนปืนหลุดข้ามชายแดนมาตกในหมู่บ้าน

เหตุการณ์วันที่ 29 มิ.ย.2565
ขณะที่วันที่ 4 ของการสู้รบ กองทัพเมียนมาส่งเครื่องบินรบ 2 ลำ บินเลียบแนวภูเขาติดแนวชายแดนในระดับต่ำ พร้อมทิ้งลูกระเบิดขนาดใหญ่นับสิบลูกใส่ทหารกะเหรี่ยงที่หลบอยู่ในพื้นที่แนวกำบัง เสียงระเบิดดังสนั่นทั่วชายแดนอำเภอพบพระ ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่แนวระเบิดตก ไม่กล้าเข้าบ้านพัก ต้องหลบภัยป่าและพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว โดยมีทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ออกลาดตระเวนเข้มงวด

เหตุการณ์วันที่ 30 มิ.ย.2565
กระทั่งวันที่ 30 มิถุนายน เห็นเครื่องบิน MiG-29 ของเมียนมา บินรุกล้ำชายแดนเข้ามาถึง อ.พบพระ ย่านชุมชน เสียงดังทั่วชายแดนไทย-เมียนมา ชาวบ้านต้องวิ่งหาที่กำบัง ขณะที่บางคนต้องหลบภัยที่ใต้ถุนบ้าน

นอกจากนี้ มีรายงานกระสุนปืนกลทางอากาศหลายลูกหลุดข้ามชายแดนมาตกไร่ปาล์มแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ รถกระบะชาวบ้านเสียหาย ทำให้โรงเรียนในหมู่บ้านวาเล่ย์ 1 แห่ง ต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนฉุกเฉิน มีภาพครูและนักเรียนต้องวิ่งหลุมหลบภัยโกลาหล จนเหตุการณ์สงบลง ผู้ปกครองของนักเรียนรีบรับตัวบุตรหลานกลับ

ขณะที่กองทัพอากาศส่งเครื่องบิน F-16 ออกบินจากฐานทัพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ยืนยันว่าบินถึงพื้นที่ใน 5 นาที และ F-16 ทั้ง 2 ลำปฏิบัติการบินเตือน ขณะที่ MiG-29 บินกลับเข้าไปในเขตเมียนมา

เหตุการณ์วันที่ 1 ก.ค.2565
หลังเกิดเหตุเครื่องบินรบเมียนมาล้ำน่านฟ้าของไทย ทำให้กองทัพอากาศรวมถึงรัฐบาลยืนยันเมียนมาได้ขอโทษทางการไทยแล้ว เนื่องจากไม่ได้ตั้งใจ เน้นย้ำถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศของไทยว่าเป็นตามมาตรฐาน

สำหรับเครื่องบินรบ MiG-29 ของกองทัพเมียนมา และเครื่องบินรบ F-16 ของไทย ถือว่ามีสมรรถนะใกล้เคียงกัน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]