ปะทะเดือดวันที่ 2 ทหารทั้ง 2 ฝ่าย ตาย-เจ็บจำนวนมาก

ตาก 27 มิ.ย. – ชายแดนไทย-เมียนมา วันนี้ยังคงมีการยิงปะทะ จนกระสุนปืน ค.120 มม. หลุดข้ามมาตกในเขตไทย ทหารตรึงกำลังและตั้งจุดตรวจบนถนนเลียบแนวชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก การยิงปะทะรอบล่าสุดใช้เวลานานกว่า 2 ชม. ทำให้ทหารทั้ง 2 ฝ่าย เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก


สถานการณ์การสู้รบ บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา วันนี้ (27 มิ.ย.) ระหว่างทหารกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู หน่วยจู่โจมที่ 201-103 พร้อมด้วยทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นดีโอ และกลุ่มพีดีเอฟ สนธิกำลังกันมากกว่า 100 นาย พร้อมอาวุธครบมือ บุกยิงถล่มใส่ฐานที่มั่นของทหารเมียนมา กองพันที่ 32 ชุด บก.ควบคุมที่ 13 บ้านอูเกรทะ อ.ซูการี จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับห้วยแม่หม้าย หมู่ที่ 2 บ้านวาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก โดยการยิงปะทะด้วยอาวุธหนักล่วงเลยมาเป็นวันที่ 2 ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมา ทหารทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะด้วยอาวุธปืนเล็กยาวและเครื่องยิงลูกระเบิดอีกครั้ง เป็นการยิงปะทะระลอกใหม่ล่าสุด หลังตลอดคืนที่ผ่านมาไม่มีการยิงปะทะ ส่งผลให้มีลูกระเบิดแบบวิถีโค้ง หรือ ค.120 มม. จำนวน 1 นัด หลุดแนวยิงพลาดเป้าข้ามมาตกที่ฝั่งท้ายบ้านวาเล่ย์ใต้ หมู่ที่ 2 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ทำให้เกิดการระเบิดรุนแรง 1 ครั้ง โชคดีพื้นที่ที่กระสุนตกเป็นพื้นที่ทางการเกษตร ไม่มีบ้านเรือนประชาชน จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ส่วนที่บ้านมอเกอร์ไทย หมู่ที่ 1 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งอยู่ติดกับบ้านวาเล่ย์ใต้ ใกล้แนวยิงปะทะ ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ได้นำกำลังพร้อมอาวุธครบมือ ตั้งจุดตรวจบนถนนเลียบแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยไม่อนุญาตให้ชาวบ้านเข้าไปใกล้พื้นที่เสี่ยงอันตราย หลังกระสุนปืน ค.120 มม. หลุดมาตกในเขตไทย จำนวน 1 นัด ส่วนในหมู่บ้าน ซึ่งยังเป็นพื้นที่ปลอดภัย ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แต่มีการเตรียมความพร้อม และติดตามข่าวสารจากเสียงตามสายของหมู่บ้าน ซึ่งเมื่อหลายเดือนก่อน ชาวบ้านได้มีการซ้อมหนีภัยสงครามมาแล้วครั้งหนึ่ง


ด้านนายธนะพัฒน์ พรรัฐภูรีนนท์ ผู้ใหญ่บ้านมอเกอร์ไทย หมู่ที่ 1 อ.พบพระ จ.ตาก กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้มีการยิงปะทะกันอีกครั้ง ตนเองได้ประกาศเสียงตามสาย หรือหอกระจายข่าวของหมู่บ้าน แจ้งเตือนชาวบ้านไม่ให้เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงอันตรายใกล้แนวชายแดน เพื่อความปลอดภัย ส่วนภายในหมู่บ้านมีการจัดเวรยามชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านออกลาดตระเวนร่วมกับฝ่ายปกครองและฝ่ายทหาร ซึ่งขณะนี้ต้องเฝ้าจับตาสถานการณ์ต่ออีก 1 วัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย ซึ่งเป็นชาวบ้านฝั่งเมียนมา ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล อ.พบพระ จ.ตาก โดยอาการของชาวบ้านที่ถูกสะเก็ดระเบิด พ้นขีดอันตรายแล้ว

จากนั้น ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูได้ปรับยุทธวิธี โดยใช้โดรนติดลูกระเบิดบินเข้าไปทิ้งระเบิดลงกลางฐานทหารเมียนมา เสียงระเบิดดังสนั่นฐานอูเกรทะ และมองเห็นกลุ่มควันสีขาวลอยขึ้นเหนือท้องฟ้าทั่วแนวชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก โดยหลังจากใช้โดรนบินทิ้งระเบิดใส่ฐานทหารเมียนมาแล้ว ชุดเคลื่อนที่เร็วของกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ได้ระดมยิงปืนเล็กยาว ปืนกล และเครื่องยิงลูกระเบิด ถล่มเข้าใส่ทหารเมียนมาที่ตั้งรับอยู่ในแนวหน้า แต่ก็ถูกทหารเมียนมายิงตอบโต้ด้วยอาวุธหนักและปืนกล พร้อมวิทยุขอทหารเมียนมาฐานใกล้เคียงยิงอาวุธหนักใส่ทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ที่ใกล้ประชิดฐานอูเกรทะ เพื่อจะเข้ายึดฐานทหารเมียนมาให้ได้ โดยการยิงต่อสู้กันในวันนี้ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และยิงปะทะรอบล่าสุดใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ทำให้ทหารทั้ง 2 ฝ่าย เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน บริเวณแนวตะเข็บชายแดนริมลำห้วยวาเล่ย์ ท้ายหมู่บ้านวาเล่ย์ใต้ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน และมีที่พักของแรงงานต่างด้าวที่ทำงานสวนพริกเต็มแนวชายแดนใกล้กับจุดยิงปะทะ เสียงระเบิดดังสนั่นชายแดน ตามด้วยเสียงปืนกลจากการยิงปะทะของทหารทั้ง 2 ฝ่าย แม้การปะทะในวันที่ 2 ยังไม่มีกระสุนปืนและลูกระเบิดหลุดข้ามชายแดนมาตกฝั่งไทยเหมือนกับวันแรก แต่แรงระเบิดก็ทำให้แรงงานภาคเกษตรกว่า 50 คน รู้สึกไม่ปลอดภัย ต่างรีบอุ้มเด็กเล็ก พร้อมกระเป๋าสัมภาระเท่าที่จำเป็น หนีไปหลบในพื้นที่ปลอดภัย เหลือเพียงผู้ชายไว้เฝ้าทรัพย์สินอยู่ภายในบ้านพัก โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ตำรวจ สภ.พบพระ และฝ่ายปกครอง อ.พบพระ จ.ตาก พร้อมอาวุธครบมือ เข้าตรึงกำลังและลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยให้ชาวบ้านตลอดแนวชายแดนที่มีการยิงปะทะ


ล่าสุดการยิงปะทะของทหารทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยแนวยิงห่างจากแนวชายแดนเพียง 400 เมตร ท่ามกลางฝนตกหนัก แต่การปะทะยังไม่ยุติ ซึ่งฝ่ายทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู มีเป้าหมายจะยึดฐานทหารเมียนมา บ้านอูเกรทะ ให้ได้ภายในวันนี้ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ

ส่วนราษฎรชาวเมียนมา มีรายงานถูกลูกหลงจากสะเก็ดระเบิด และเหยียบกับระเบิดจนขาขาด ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย ทั้งหมดถูกลำเลียงข้ามลำห้วยวาเล่ย์ มาขึ้นฝั่งที่บ้านมอเกอร์ไทย เขต อ.พบพระ จ.ตาก หน่วยกู้ชีพ อบต.วาเล่ย์ นำตัวส่งโรงพยาบาล อ.พบพระ เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามหลักสากล คาดว่าจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บอาจเพิ่มขึ้นอีก หากสถานการณ์การสู้รบยืดเยื้อ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้