กาฬสินธุ์ 25 มิ.ย. – เปิดใจ “น้องแพม” เจ้าสาวถูกเจ้าบ่าวเทงานแต่ง เผยตกลงสินสอด 149,999 บาท ทองหนัก 2 บาท แต่พอถึงวันแต่งกลับมีแค่ 15,000 บาท ด้านเจ้าบ่าวเผยถูกญาติฝ่ายเจ้าสาวเรียกค่าสินสอดเพิ่มเป็น 200,000 บาท ไม่ทำตามข้อตกลง จึงไม่แห่ขันหมากไปแต่งงาน
มีผู้ใช้เฟซบุ๊กและ TikTok โพสต์ภาพพร้อมข้อความ “สงสารพี่สาวมาก จัดงานแต่งแต่ผู้ชายไม่มา เคยเห็นแต่คนอื่น ไม่คิดจะเจอกับครอบครัวตัวเอง” และผู้ใช้เฟซบุ๊กซึ่งเป็นบุคคลในภาพชื่อธารารัตน์ ได้แสดงความคิดเห็นว่า “เคยเห็นแต่ในข่าว เจอกับตัวเอง เจ็บโคตรๆๆๆๆๆ ค่ะ”
หลังมีการโพสต์มีผู้เข้ามากดไลค์และแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ล่าสุดน้องแพม เจ้าสาว ออกมาเปิดใจว่า ภาพและบุคคลในภาพดังกล่าวเป็นภาพงานแต่งงานของตนกับเจ้าบ่าวจริง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นภาพบรรยากาศการแต่งงานที่ไม่มีเจ้าบ่าวมาร่วมพิธี ส่วนสาเหตุเนื่องจากฝ่ายเจ้าบ่าวไม่มาแต่งงาน ทราบว่าสินสอดไม่ครบตามที่ตกลงกันไว้ ตนกับเจ้าบ่าวเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน พบรักกันที่กรุงเทพฯ ประมาณ 2 ปี ก่อนจะกลับบ้านทำพิธีหมั้นหมายตามประเพณี เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2565 สำหรับสินสอดที่ตกลงกันไว้คือ 149,999 บาท ทองหนัก 2 บาท โดยมอบให้ในวันหมั้นไว้ 1 บาท กำหนดจัดพิธีแต่งงานวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 แต่ช่วงนั้นคนในครอบครัวติดโควิด-19 จึงเลื่อนมาเป็นวันที่ 18 มิถุนายน 2565 โดยก่อนถึงวันแต่งมีการเตรียมทุกอย่างได้พร้อมแล้ว ทั้งจัดห้องหอ สถานที่ ของชำร่วยมอบให้กับญาติผู้ใหญ่และแขกที่จะมาร่วมงาน รวมทั้งว่าจ้างวงดนตรี ล้มวัว โต๊ะจีน รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 160,000 บาท
ตนสอบถามเจ้าบ่าวตลอดว่าเงินสินสอดและทองพร้อมหรือยัง เจ้าบ่าวยืนยันว่าพร้อมทุกอย่าง เงินครบทุกบาททุกสตางค์แล้ว แต่พอวันแต่งงานในช่วงเช้ามีญาติเจ้าบ่าวมาพูดกับพ่อแม่ตนว่าเงินสินสอดไม่พอ ตอนนี้รวบรวมได้แค่ 15,000 บาทเท่านั้น เมื่อได้ยินดังนั้น ตนและญาติทุกคนรู้สึกชาไปหมด ได้ยินญาติคุยกันว่าเมื่อเงินสินสอดไม่พอก็ไม่ต้องมาแต่ง
เมื่อถึงฤกษ์มงคล เวลา 09.09 น. ที่จะเข้าพิธีแต่งงาน ตนซึ่งแต่งตัวเจ้าสาวพร้อมแล้วจึงเข้าพิธีสู่ขวัญบายศรี เหมือนเข้าพิธีแต่งงานตามประเพณี ซึ่งเป็นการแต่งงานโดยไม่มีเจ้าบ่าว ตนเองรู้สึกเสียใจจนร้องไห้ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทางฝ่ายเจ้าบ่าวไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย ต่อไปนี้ความสัมพันธ์คงสิ้นสุดกัน ไม่มีวันหวนกลับมาคืนดีกันแน่นอน พร้อมเดินทางไปแจ้งความ สภ.นามน แต่ตำรวจให้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น และบอกว่าให้ไปตกลงกันก่อน ซึ่งครอบครัวของตนเรียกร้องให้เจ้าบ่าวมาชดใช้ค่าจัดงานด้วย
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อทางฝั่งเจ้าบ่าว ทราบว่าตอนนี้ทำงานอยู่กรุงเทพฯ บอกว่าเหตุที่ตนไม่เข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าสาว เนื่องจากก่อนเริ่มพิธีทางญาติผู้ใหญ่ฝ่ายตนแจ้งว่าทางญาติฝ่ายเจ้าสาวเรียกค่าสินสอดเพิ่ม จากเติมที่เคยตกลงกันไว้ 149,999 บาท กับทองหนัก 2 บาท พอถึงวันแต่งงานกลับเรียกเพิ่มเป็น 200,000 บาท ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ และหากมีไม่ครบก็ไม่ต้องแต่ง ซึ่งตนเตรียมสินสอดไว้ 149,999 บาทเท่านั้น ตนจึงไม่แห่ขันหมากไปงานแต่ง ทั้งนี้ ที่บ้านของตนมีการจัดเตรียมงานและเสียค่าใช้จ่ายเช่นกัน หลังเกิดเหตุไม่ได้ติดต่อกัน พร้อมกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ ตั้งใจทำมาหากิน ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนก็เสียใจ ไม่มีใครอยากให้เกิด และคิดว่าคงไม่กลับไปคบกันเหมือนเดิมอีกแล้ว.-สำนักข่าวไทย