ปราจีนบุรี 23 มิ.ย. – “สุนทร วิลาวัลย์” นายก อบจ.ปราจีนบุรี เปิดใจกรณีถูก ป.ป.ช. ชี้มูลรุกที่เขาใหญ่ ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยใช้อิทธิพลในการออกเอกสารสิทธิ และไม่เคยโยนให้ลูกน้องรับผิดแทน
นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี อดีต รมช.สธ. และ ส.ส. 8 สมัย เปิดใจกรณีถูก ป.ป.ช. ชี้มูลรุกที่เขาใหญ่ ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยใช้อิทธิพลในการออกเอกสารสิทธิ และไม่เคยโยนให้ลูกน้องรับผิดแทน
นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ให้คุยเปิดใจกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่บ้านพักในเทศบาลเมืองปราจีนบุรี อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร ชี้แจงข้อเท็จจริงถึงการได้มาของที่ดินที่เกิดข้อพิพาทจนไปสู่การตรวจสอบและ ป.ป.ช. ชี้มูลว่าที่ดินดังกล่าวไม่ใช่ที่เขาใหญ่ หรือบุกรุก แต่เป็นที่ดินมีเอกสารที่ดินทำกินครอบครองอยู่ก่อนแล้ว ผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนที่เห็นว่ารุกเข้าไปนั้นเป็นการปรับพื้นที่ที่อยู่ในแนวเอกสาร แต่แบ็กโฮทำอยู่นอกแนวรั้ว ทำให้มองเหมือนบุกรุก ทั้งนี้ ตนพร้อมชี้แจงและต่อสู้ตามเอกสารที่ตนมี ยืนยันไม่ใช่คนขี้โกง ที่ดินมีเยอะ ใครอยากได้ให้มาบอก ไม่จำเป็นต้องไปเอาที่เขาใหญ่
อย่างไรก็ตาม ไม่ขอตอบว่าที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลมาจากเรื่องการเมืองที่ใกล้เลือกตั้งหรือไม่ แต่ไม่ได้กังวลอะไร เพราะมีพยานหลักฐานที่เอาไปสู้ในชั้นศาล ส่วนเรื่องตำแหน่งนายก อบจ. นั้น เมื่อเช้าได้เข้าไปทำงาน ทั้งย้อนถามหากมีคำสั่งให้ยุดปฏิบัติหน้าที่ แล้วผลพิสูจน์ออกมาว่าไม่ผิด ใครจะรับผิดชอบ
นายสุนทรยังฝากขออย่าเอาเรื่องการเมืองมาใส่ความกัน และไม่เคยโยนความผิดให้ลูกน้องอย่างที่สื่อบางเอาไปเขียน ถ้าผิดก็พร้อมรับผิด
ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า การปลดนายก อบจ.ปราจีนบุรี ต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมาย การพิจารณามีขั้นตอนและกระบวนการเพื่อให้เกิดความรอบคอบรัดกุม
ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ยังขอรายงานและสำนวนการไต่สวนชี้มูลความผิดไปยัง ป.ป.ช. แต่ยังไม่ได้รับสำนวนกลับมา และหากผลการสอบข้อเท็จจริงปรากฏหลักฐานเบื้องต้นว่า มีการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 มาตรา 77 ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีจะแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการสอบสวน ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน แต่อาจขยายเวลาได้อีกไม่เกิน 30 วัน แล้วรายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาสั่งพ้นจากตำแหน่งต่อไป ในส่วนของความผิดทางอาญายังไม่ถือเป็นที่สุด ต้องมีการดำเนินการกระบวนการทางกฎหมายอาญาต่อไป กระทรวงมหาดไทยไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ ได้กำชับให้ทางจังหวัดเร่งดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จ เพื่อส่งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทยต่อไป.-สำนักข่าวไทย