fbpx

อัยการเลื่อนฟังคำสั่งคดีแตงโม

นนทบุรี 23 มิ.ย. – อัยการจังหวัดนนทบุรี นัด 6 ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ “แตงโม ภัทรธิดา” เข้ารายงานตัว พร้อมฟังคำสั่งคดี หลังเข้ารายงานตัว “กระติก-แซน” เปิดเผยว่า อัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีไปเป็นวันที่ 7 ก.ค. พร้อมฝากถึง “อัจฉริยะ” หากมีหลักฐานก็ให้นำออกมา ส่วนการที่แม่แตงโมจะถอนฟ้อง ได้ยินจากข่าว แต่ยังไม่ปักใจเชื่อ


ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ประกอบด้วย ปอ, จ๊อบ, โรเบิร์ต, กระติก และแซน ซึ่งเป็น 5 คนบนเรือ ส่วนอีก 1 คน คือ นายภีม หรือเอ็ม กุนซือที่แนะนำผู้ต้องหา 5 คนบนเรือหลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, แจ้งความเท็จ, ทำลายพยานหลักฐานในคดี, เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, เสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท หลังผลตรวจเลือดพบสารอัลปราโซแลม และ พ.ร.บ.การเดินเรือ ซึ่งอัยการจังหวัดนนทบุรีนัดทั้ง 6 ผู้ต้องหามารายงานตัว และฟังคำสั่งคดีวันนี้

ผู้ต้องหาคนแรกที่เดินทางมาถึงที่อัยการจังหวัด คือ นายจ๊อบ เดินทางมาพร้อมทนายความส่วนตัว ก่อนเดินเข้าไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด


จากนั้นเวลา 09.11 น. กระติก อดีตผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม เดินทางมาถึง ตามมาด้วยนายโรเบิร์ต ใช้จังหวะที่กระติกกำลังให้สัมภาษณ์สื่อเดินเข้าไปที่สำนักงานอัยการจังหวัด ส่วนปอและนายภีม เดินเข้าไปด้านหลังของสำนักงานอัยการก่อนขึ้นรถออกไป ส่วนคนสุดท้ายที่มาคือ แซน

หลังจากที่รายงานตัวแล้วเสร็จ กระติก-แซน และทนายความ เดินออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า อัยการมีคำสั่งเลื่อนสั่งคดีออกไป

กระติก ระบุว่า อยากเดินหน้าเข้ากระบวนการแล้ว พอเลื่อนต้องกลับมาอีก เมื่อมันยืดออกไป สุดท้ายแล้วคนนอกสำนวนจะเข้ามาพูดอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ซึ่งก็จะประเด็นงอกขึ้นมาเรื่อยๆ มองว่าล่าช้า แต่เข้าใจในกระบวนการของเจ้าหน้าที่ ที่จะทำให้เรื่องทั้งหมดสิ้นสงสัย แต่หลายประเด็นยังเป็นเรื่องเดิม ทำให้เสียเวลาของทุกฝ่าย ส่วนการที่แม่จะถอนฟ้อง ยอมรับว่าได้ยินจากข่าว แต่ยังไม่ปักใจเชื่อ ต้องรอดูว่าสุดท้ายจะถอนหรือไม่ ตนทำได้เพียงแค่ตั้งรับกับเหตุการณ์ต่างๆ ต่อไป ส่วนการฟ้องดำเนินคดีกับบุคคลให้ข่าว มีการเก็บหลักฐานอย่างต่อเนื่อง รอให้ข้อเท็จจริงนิ่ง ก็จะไปสเตปต่อไป แต่ยืนยันว่าฟ้องแน่นอน ตอนนี้รอดูหลักฐาน ถ้ามีให้นำออกมาเลย ตั้งข้อสงสัยแม่แตงโม คือผู้เสียหาย แต่ทำไมยังไม่เห็นหลักฐาน


ขณะที่ แซนบอกว่าจะมีหลักฐานได้อย่างไร เพราะว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น สิ่งที่กล่าวอ้างมามันไม่มีทั้งหมด ยืนยันว่ายังให้การเหมือนเดิม ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ก็ยังคงยืนยันเหมือนเดิม

ด้าน น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี ผู้รับผิดชอบสำนวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา ชี้แจงว่า อัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีไปเป็น 7 ก.ค.เวลา 09.00 น. เนื่องจากพนักงานอัยการส่งสำนวนไปอธิบดีภาค ต่อมาอธิบดีภาคสั่งสอบสวนเพิ่ม แจ้งให้สอบสวน ระหว่างรอ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ พนักงานสอบสวนได้ส่งผลสำนวนเพิ่มเติมมา ทำให้ระยะเวลากระชั้นชิด ซึ่งขั้นตอน คือ อัยการจังหวัดจะรวบรวมพิจารณาและส่งต่อไปที่อธิบดีอัยกาค 1 เบื้องต้นองค์คณะมีการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว หากเรียบร้อยจะรีบส่งอธิบดีอัยภาค 1 โดยเร็วที่สุด

ขณะที่ศาลจังหวัดนนทบุรี วันนี้ หลังมีกระแสข่าวว่า นางภนิดา แม่ของแตงโม จะยื่นถอนฟ้องสำนวนคดีที่อัจฉริยะยื่นฟ้องผู้ต้องหาบนเรือสปีดโบ๊ท ต่อศาลไปก่อนหน้านี้ ในความผิดคดีอาญาฐานเจตนาฆ่าผู้อื่น และมาตราอื่นรวม 8 มาตรา ทีมข่าวได้ทำการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ ทราบว่ายังไม่มีการประสานเข้ามาดำเนินการเรื่องดังกล่าว ขณะเดียวกันพยายามโทรสอบถามนางภนิดา แต่พบว่านางภนิดาตัดสายทิ้งตลอดเวลา มีเพียงคนสนิทแจ้งว่าแม่มีอาการป่วยและยังไม่ให้ข้อมูลตัดสินจะถอนฟ้องหรือไม่

ด้านนายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ที่ปรึกษาแม่แตงโม ยืนยันว่าแม่ภนิดาถอนคำฟ้องคดีแน่นอน ไม่ไปต่อ อาจเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ ซึ่งแม่อาจมาเองหรือมอบทนายก็ได้ คาดอาจเป็นทีมนายชนบท และยังไม่แน่ชัดว่าเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้ ส่วนนายชนบท เปิดเผยว่ายังไม่ทราบว่าแม่จะถอนฟ้อง

ทั้งนี้ ขั้นตอนตามกฎหมาย กรณีที่ยื่นถอนฟ้องโดยศาลยังไม่นัดไต่สวน โจทก์จะมาเองหรือมอบหมายทนายดำเนินการถอนฟ้องก็ได้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.