ชลบุรี 1 มิ.ย. – สั่งย้าย 4 นายตำรวจ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ปมบุกจับกัญชา 1 ต้น ด้านรอง ผบช.ภ.2 ยืนยัน สตช. มีนโยบายการจับกุมความผิดลักษณะดังกล่าวให้ใช้ดุลยพินิจและหลักทางรัฐศาสตร์ เพราะเป็นช่วงรอยต่อระหว่างกฎหมายเก่าและกฎหมายใหม่

จากกรณีตำรวจ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จับกุมนางพรพิมล ข้อหาปลูกกัญชา 1 ต้น ดำเนินคดีผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 โดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้นายชู อายุ 54 ปี สามี ต้องไปขอความช่วยเหลือหาเงินมาประกันตัว
เมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) ตำรวจ สภ.ศรีราชา นำเอกสารฝากขังยื่นต่อศาลจังหวัดชลบุรี ขณะที่นายชูกับทีม ส.ส.ในพื้นที่ เข้ายื่นเรื่องขอประกันตัว โดยเซ็นค้ำประกันตัวนางพรพิมล ก่อนศาลอนุญาตให้ประกันตัว
นายชูและนางพรพิม เปิดเผยว่า ตอนแรกตกใจคิดไม่ถึงว่าตำรวจจะมาจับปลูกกัญชาต้นเล็กๆ ยืนยันปลูกไว้หวังใช้รักษาโรคเบาหวาน ความดัน เพิ่งเริ่มปลูกไม่ถึงเดือน
ล่าสุด พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และย้ายตำรวจ 4 นาย ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และโฆษกตำรวจภูธรภาค 2 ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายเรื่องการจับกุมกรณีความผิดลักษณะดังกล่าวให้ใช้ดุลยพินิจและหลักทางรัฐศาสตร์ เพราะเป็นช่วงรอยต่อระหว่างกฎหมายเก่าและกฎหมายใหม่
รายละเอียดการปลูก-ใช้ “กัญชา” ในครัวเรือน ซึ่งจะปลดล็อกกฎหมาย วันที่ 9 มิ.ย.นี้ การใช้ในครัวเรือนนั้นไม่ต้องขออนุญาต เพียงจดแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน “ปลูกกัญ” ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งจะเปิดตัวในวันนี้ (1 มิ.ย.) และพร้อมออกใบรับจดแจ้งในวันที่ 9 มิ.ย. หรือจดแจ้งผ่านเว็บไซต์ “ปลูกกัญ” โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
พกติดตัวเดินทาง-นำเข้าจากต่างประเทศ การนำเข้าเมล็ด และส่วนอื่นๆ ของต้นกัญชา จะต้องขออนุญาตนำเข้ากับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก่อน
ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดกัญชา-กัญชง และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา-กัญชง รวมทั้งกรณีนำเข้าเพื่อใช้เฉพาะตัว เช่น ผู้เดินทางนำติดตัวเข้ามาในราชอาณาจักร และการส่งทางพัสดุ/ไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ต้องเป็นไปตามกฎหมายของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เช่น อาหารและเครื่องสำอาง จะห้ามนำเข้า
ส่วนกรณีของผลิตภัณฑ์สมุนไพร ปัจจุบัน อย. อยู่ระหว่างการจัดทำกฎระเบียบเพื่อห้ามนำเข้าและกรณียกเว้น
ข้อควรระวังและการใช้เพื่อสันทนาการ สารสกัดที่มีปริมาณ THC มากกว่า 0.2% ยังถือเป็นยาเสพติด แม้การนำพืชกัญชา กัญชง ไปใช้ในทางสันทนาการต่างๆ ไม่ว่าจะในครัวเรือน หรือสถานที่สาธารณะอย่างร้านอาหาร สถานบริการ และสถานบันเทิง ยังไม่มีกฎหมายควบคุมชัดเจน แต่กรมอนามัยเตรียมเสนอกฎหมายควบคุมด้านเหตุรำคาญจากกลิ่นและควันของกัญชา กัญชง และอาจกำหนดให้กลิ่นและควันกัญชา กัญชง เป็นเหตุรำคาญ
ส่วนการปลูกเพื่อจำหน่าย ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขยังไม่มีข้อกำหนดการปลูกกัญชาเชิงพาณิชย์ ในช่วงก่อนที่ พ.ร.บ. จะบังคับใช้ แต่ตามร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. … การปลูกเพื่อจำหน่ายมีแนวปฏิบัติดังนี้ ผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือขาย ต้องขออนุญาตจากเลขาธิการ อย. หรือผู้ซึ่งเลขาฯ อย. มอบหมาย ทั้งนี้ ใบอนุญาตแต่ละชนิดจะมีค่าธรรมเนียมแตกต่างกัน อาทิ ใบอนุญาตปลูก ค่าธรรมเนียม 50,000 บาท, ใบอนุญาตสกัด ค่าธรรมเนียม 50,000 บาท, ใบอนุญาตจำหน่าย ค่าธรรมเนียม 5,000 บาท เป็นต้น โดยผู้ที่ผลิต นำเข้า ส่งออก ขาย โดยไม่มีใบอนุญาต จะระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีใบอนุญาตเดิมที่ออกตามกฎกระทรวง ให้ถือเป็นใบอนุญาตตาม พ.ร.บ.ใหม่นี้ และใช้ได้จนสิ้นอายุใบอนุญาต.-สำนักข่าวไทย