แพร่ 31 พ.ค. – เด็กชายวัย 3 ขวบ หายออกจากบ้าน ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ระดมค้นหา ก่อนพบจมน้ำเสียชีวิต
เมื่อวานนี้ (30 พ.ค. 65) ตำรวจ สภ.ร้องกวาง ได้รับแจ้งเด็กหายจากบ้านใน ต.ทุ่งศรี อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ทราบชื่อคือ น้องภูผา อายุ 3 ขวบ สวมใส่เสื้อสีครีม กางเกงลายดอก รองเท้าสีเขียว เบื้องต้นชาวบ้านช่วยกันตามหาบริเวณโดยรอบและบ้านญาติแล้วแต่ไม่พบ
ที่เกิดพบเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ พบชาวบ้านช่วยกันค้นหาบริเวณรอบบ้าน และริมลำห้วยน้ำแม่คำมี ซึ่งห่างจากบ้านไม่ถึง 100 เมตร กลัวว่าเด็กจะไปเดินเล่น แต่ยังไม่พบร่องรอย จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ช่วยตามหา
จากการสอบถามนางผ่องศรี อายุ 61 ปี ยายของน้องภูผา เล่าว่า ไม่ได้ให้น้องไปโรงเรียน เนื่องจากน้องเป็นหวัด จึงให้อยู่ที่บ้าน ปู่กับย่าของน้องไปสอนหนังสือที่ จ.ลำปาง และให้ตนเลี้ยง ช่วงเช้าก็อยู่ด้วยกัน จากนั้นตนขึ้นไปพับผ้าบนบ้าน ให้น้องภูผาเล่นอยู่ด้านล่าง เมื่อพับผ้าเสร็จลงมาก็ไม่เห็นน้องภูผาจึงเรียกหาและช่วยกันตามหา ปกติน้องภูผาจะเล่นคนเดียวเป็นประจำ ไม่ไปเที่ยวไหน จะอยู่บ้านกับเดินไปบ้านอีกหลังเพียงเท่านั้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ช่วยกันตามหาบริเวณรอบบ้านและริมลำห้วย โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยพรานพิทักษ์ร้องกวาง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิพรานพิทักษ์จุดแยกหนองม่วงไข่ เพื่อขอชุดประดาน้ำหาตามลำคลอง
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณด้านหน้าวัด พบรถต้องสงสัย 3 คันที่ไม่ใช่รถของคนในหมู่บ้าน เข้าออก แต่ไม่ปรากฏภาพน้องภูผาเดินผ่านบริเวณดังกล่าวเลย
ด้านชาวบ้านได้ให้ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านทำพิธีวาไม้เจ้าที่ที่บ้าน ตั้งคำถามน้องภูผาว่าอยู่แถวไหน คำถามแรกว่าน้องอยู่บริเวณในบ้าน หรือบริเวณนอกบ้าน หากอยู่ใกล้บ้านให้ไม้ยาวออกจากเดิม ผลปรากฏว่าไม้ยาวออกประมาณ 10 เซนติเมตร คำถามที่ 2 ถามว่าอยู่ใกล้น้ำให้ยาว แต่หากไม่ได้อยู่ใกล้น้ำให้เหลือเท่าเดิม ผลปรากฏว่าไม้ยาว และคำถามที่ 3 ลักษณะที่เป็นอยู่ นอนหรือร้องไห้ ผลปรากฏว่าไม้ยาว คือนอนหลับอยู่ จากนั้นจึงระดมกำลังค้นหาอีกรอบบริเวณหนองน้ำ
เวลา 23.00 น. ของวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กสมาคมแพร่ไลฟ์การค้นหาน้องภูผา ระบุข้อความว่า “พบร่างน้องภูผา วัย 3 ขวบเศษๆ หายออกจากบ้านตั้งแต่เวลาประมาณ 08.30 น. ของวันที่ 30 พ.ค. 65 พบร่างน้องจมน้ำในน้ำแม่คำมีค่ะ ตรงจุดที่พบรองเท้าน้อง ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องด้วยนะคะ ไปเป็นเทวดาตัวน้อยนะลูก R.I.P” .-สำนักข่าวไทย