หลอกขายหวยทิพย์สูญเงินกว่า 200 ลบ. เตรียมร้อง DSI

อ่างทอง 30 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย แห่ร้องสาวใหญ่อ้างนักการเมืองระดับชาติ-ท้องถิ่น หลอกขายหวยทิพย์สูญเงินกว่า 200 ล้านบาท แจ้งความกว่า 3 เดือน คดีไม่คืบ เตรียมยกขบวนร้อง DSI


ที่จังหวัดอ่างทองผู้เสียหายหลายรายนำเอกสารโอนเงินกว่า 100 ล้านบาทและภาพถ่ายในไลน์ ซึ่งมีผู้แอบอ้างเป็นลูกน้องนักการเมืองท้องถิ่นและนักการเมืองระดับชาติหลอกให้ลงทุนจองโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลล่วงหน้า โดยอ้างว่าเป็นโควตาที่ได้รับการจัดสรรจากนายใหญ่ ทำให้มีผู้หลงเชื่อกว่า 30 ราย เข้าร่วมลงทุน ก่อนที่หญิงสาวซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการจะหนีออกจากพื้นที่และไม่สามารถติดต่อได้นานกว่า 3 เดือน จนทำให้ผู้เสียหายทั้งหมดเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สามโก้ แต่หลังจากผ่านไปกว่า 3 เดือน คดียังไม่คืบหน้า ทำให้ผู้เสียหายเกรงว่าจะสูญเงินทั้งหมดจึงนำเอกสารแจ้งผู้สื่อข่าวให้ตรวจสอบและเตรียมเข้าร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการเอง หลังจากมีผู้เสียหายหลายสิบรายและมีมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท

นางสาวปภินดา ฉิมพาลี อายุ 46 ปี หนึ่งในผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่าเมื่อปลายปี 2564 นางสาว น. ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องได้ชักชวนให้ลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากนายบัง ซึ่งอ้างว่า ได้โควตาจากนายใหญ่ เป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่น และนักการเมืองระดับชาติชื่อดัง โดยครั้งแรก ให้ลงทุนซื้อสลากมาจำหน่าย ซึ่งตนก็หลงเชื่อลงทุนไปก็ได้สลากมาจำหน่ายตามปกติ หลังจากนั้นทั้งนางสาว น. และนายบังก็หลอกล่อให้ชักชวนเพื่อนๆ และเครือญาติมาลงทุนซื้อสลากลวงหน้า โดยจัดเป็นกล่อง กล่องละ 500 ใบ ราคา 40,000 บาท จะได้กำไร 3,500 บาท ทำให้หลายคนหลงกลลงทุนไป ซึ่งในส่วนตัวเองก็ระดมทุนจากญาติๆ มาได้ 15 ล้านบาท ก็ลงทุนไปทั้งหมด รวมถึงได้ชักชวนเพื่อนๆ มาอีกจนกระทั่งยอดเงินที่โอนไป 103 ล้านบาท พอมาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ก็ไม่มีการติดต่อจากทั้งนางสาว น. และนายบัง จึงทำให้รู้ว่าถูกหลอก และสอบถามไปหลายคนก็ถูกหลอกเช่นเดียวกัน จึงรวบรวมหลักฐานเจ้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามโก้


โดยแจ้งความครั้งแรกยอดเสียหาย 80 ล้าน และแจ้งเพิ่มอีก 23 ล้านบาท และยังมีผู้เสียหายในพื้นที่อื่นๆ อีก รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท แต่หลังจากผ่านไป 3 เดือนแล้วคดียังไม่คืบจึงเตรียมที่จะรวมตัวกันเข้าไปร้อง DSI เนื่องจากคดีมีผู้เสียหายจำนวนมากและมีความเสียหายหลายร้อยล้านบาท ที่ผ่านมาทั้งสองคนสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่นำเงินมาลงทุนด้วยการนำภาพไปประชุมกับนายใหญ่ ซึ่งมีข้อความระบุว่า ร่วมประชุมกับนายใหญ่ เรื่องโควตาหวย ทำให้หลายคนเชื่อมั่นนำเงินมาร่วมลงทุนจำนวนมากแต่สุดท้ายก็ถูกหลอกจึงอยากให้ดำเนินคดี เพราะหลังจากไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามโก้ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงกับ นางสาว น. เท่านั้น ซึ่งกรณีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากและมีมูลค่าความเสียหายสูงน่าจะเป็นการฉ้อโกงประชาชนมากกว่า จึงเตรียมเดินทางไปร้อง DSI ให้รับเป็นคดีพิเศษ

ด้านนายธนาธร หรือ ปิง ภู่ธงแก้ว อายุ 32 ปี ผู้เสียหายอีกรายเปิดเผยว่า ตนเองเห็นญาติๆ มาลงทุน จึงไปกู้เงินธนาคารมาลงทุนด้วย เนื่องจากเห็นว่าได้กำไรสูงแต่กลับถูกหลอกลวง ทุกวันนี้ถูกธนาคารโทรทวงหนี้ทุกวัน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการติดตามแก๊งต้มตุ๋นแก๊งนี้มาดำเนินคดี

ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องดังกล่าวไปยัง พ.ต.อ.วรพล กนกวรจิตร์ ผกก.สภ.สามโก้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้เสียแจ้งความโดยทาง พ.ต.อ.วรพล แจ้งว่าคดีนี้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งเบื้องต้นแจ้งเป็นความผิดฐานฉ้อโกงแต่จะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ ต้องดูหลักฐานอื่นประกอบซึ่งไม่ได้เกิดเฉพาะพื้นที่ สภ.สามโก้ เท่านั้น เบื้องต้นยังไม่ได้เรียกผู้ถูกกล่าวมาสอบสวน โดยรอพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร