ตรัง 27 พ.ค. – แห่ชื่นชม “น้องเตชินท์” นักเรียนทุนแพทยศาสตร์ วัย 18 ปี รำมโนราห์โรงครูอย่างอ่อนช้อย แถมหาเงินเรียนช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง
ที่บ้านหลังหนึ่งในชุมชนควนดินแดง ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นบ้านของดาบตำรวจกล่อม พิณกลับ มีการจัดตั้งมโนราห์โรงครู เพื่อรำถวายให้กับบรรดาครูบาอาจารย์สายมโนราห์ ตามความเชื่อเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือน 6 ตามปฏิทินไทย โดยมีมโนราห์สมบูรณ์ เทพศรศิลป์ พร้อมด้วยเครื่องดนตรีต่างๆ มารำถวาย และมีบรรดาชาวบ้าน เครือญาติต่างมาร่วมชมกันเป็นจำนวนมาก ก่อนจะมีการทำพิธีไหว้ และเซ่นไหว้ครูหมอมโนราห์ ด้วยเครื่องเซ่นไหว้ ทั้งน้ำแดง อาหารคาวหวาน หลากหลายชนิด ก่อนจะมีการรำมโนราห์ถวายเป็นเวลา 1-2 วัน
ในคณะนางรำทั้งหลาย ได้พบกับ นายเตชินท์ บัวแดงดี หรือน้องชินท์ วัย 18 ปี นักเรียนทุนคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ชั้นปีที่ 1 ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของ ด.ต.กล่อม พิณกลับ เดินทางมาพร้อมกับคุณแม่ กำลังแต่งชุดมโนราห์อย่างเต็มรูปแบบ สวมเทริดมโนราห์ เล่มมือ และลูกปัดต่างๆ ก่อนจะออกมารำถวายเป็นคนแรก หรือเป็นการรำเปิดโรงมโนราห์ ด้วยท่าทางที่อ่อนช้อย สวยงามตามเสียงจังหวะดนตรี ปี่ กลองพาทย์ ก่อนน้องชินท์จะขับบทกลอนมโนราห์ หรือภาษาใต้เรียกว่า ขับบทโนราห์ ด้วยความคล่องแคล่ว เทียบเท่าได้กับผู้ใหญ่หลายคนที่มีการฝึกฝนมาอย่างยาวนาน เมื่อรำและขับบทกลอนเสร็จสิ้นแล้ว ได้รับเสียงปรบมือจากชาวบ้าน และแม่ยกเป็นจำนวนมาก
สอบถามนายเตชินท์ บัวแดงดี หรือน้องชินท์ กล่าวว่า เริ่มจากในอดีตมีความชื่นชอบ หลงใหลในศิลปวัฒนธรรมของปักษ์ใต้ แขนงมโนราห์ ซึ่งได้เรียนรู้และพบเห็นจากซีดีของคุณเอกชัย ศรีวิชัย ซึ่งเป็นศิลปินดังในช่วงตนเองอายุประมาณ 5 ขวบ ทำให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เกิดความมุ่งมั่นศึกษา ฝึกฝน และสร้างชื่อเสียงจากการรำมโนราห์ด้วยตนเอง กระทั่งอายุประมาณ 10 ขวบ ได้เข้ามาเข้าครอบครูและรำในมโนราห์ในโรงครู จนกลายมาเป็นมโนราห์อย่างเต็มตัว และได้ศึกษาผ่านจากยูทูบมาเรื่อยๆ
“น้องเตชินท์” บอกว่า ครอบครัวให้การสนับสนุนในเรื่องของมโนราห์มาโดยตลอด ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ จนกระทั่งมาทราบเอาช่วงหลังว่าครอบครัวฝ่ายคุณพ่อก็มีเชื้อสายของมโนราห์มาตั้งแต่บรรพบุรุษด้วยเช่นกัน ยืนยันว่าหากเรียนจบแพทย์ออกมาแล้ว ก็จะหาเวลาว่างมารำมโนราห์ต่อไป เพื่อร่วมสืบสานศิลปวัฒนธรรมแขนงนี้ต่อไป .-สำนักข่าวไทย