ฝนถล่ม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ น้ำท่วมขังถนนสูง 20-40 ซม.

ภูมิภาค 19 พ.ค. – เกิดฝนตกหนักใน อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นานกว่าครึ่งชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนถนนในเขตเทศบาลปราณบุรีสูง 20-40 ซม. ส่งผลให้การจราจรติดขัด ส่วนที่เชียงใหม่ น้ำป่าหลากบ้านแม่อ้อ สวนพริกเสียหาย 300 ไร่ และที่ลำปาง หลายหน่วยงานเร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก


ช่วงหัวค่ำวานนี้ (18 พ.ค.65) เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ปราณบุรี นานกว่าครึ่งชั่วโมง ส่งผลให้ถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 3168 ช่วงปราณบุรี-ปากน้ำปราณ บริเวณหน้าซอยรัฐบำรุง 7 แยกหน้าสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคปราณบุรี มีน้ำท่วมขัง เนื่องจากระบายไม่ทัน ทำให้ระดับน้ำท่วมสูงถึง 20-40 ซม. ส่งผลการจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัด รถจักรยานยนต์ที่ขับมาผ่านต้องใช้ความระมัดระวัง รถจักรยานยนต์บางคันขี่ฝ่าน้ำมาทำให้เครื่องยนต์ดับหลายสิบคัน

บริเวณถนนดังกล่าวเมื่อมีฝนตกหนักทุกครั้งจะมีน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ ทำให้มีน้ำไหลเข้าบ้านเรือนประชาชนเวลารถวิ่งผ่านด้วยความเร็ว ชาวบ้านต้องนำพลาสติกมาปิดบริเวณหน้าบ้าน พร้อมวิงวอนผู้ใช้รถใช้ถนนวิ่งช้าๆ และอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยมาดำเนินการแก้ไข เพราะเมื่อเกิดมาฝนตกหนักครั้งใดก็เกิดน้ำท่วมขังแบบนี้ทุกครั้ง


เชียงใหม่ น้ำป่าหลากบ้านแม่อ้อ สวนพริกเสียหาย 300 ไร่
ที่เชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืนวันที่ 17 พ.ค. จนถึงเช้าวันที่ 18 พ.ค. ในพื้นที่ อ.เชียงดาว ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงลำห้วยแม่อ้อ ต.เมืองนะ กระแสน้ำไหลมาอย่างรวดเร็ว นำเศษไม้ ตอไม้ไหลมาด้วย ทำให้อุดตันท่อระบายน้ำ จนทำให้น้ำล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนริมน้ำ ชาวบ้านตั้งตัวไม่ทัน ต้องขนของหนีน้ำอลหม่าน

เจ้าหน้าที่ทหาร นปค 32 ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เทศบาลตำบลเมืองนะ เจ้าหน้าที่ทหารกรมทหารราบที่ 7 ต้องระดมกำลังนับ 100 นาย เข้าไปช่วยเหลือขนย้ายทรัพย์สินมีค่าไว้บนที่สูง รวมทั้งสัตว์เลี้ยง และอุ้มคนแก่ออกจากบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้นำรถแบ็กโฮเข้ามาชักลากท่อนไม้ที่อุดตันหน้าท่อระบายน้ำ ทำให้น้ำระบายได้เร็วขึ้น

ล่าสุดช่วงบ่ายวานนี้ (18 พ.ค.65) ลดลงสู่ภาวะปกติแล้ว มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจำนวนมาก ชาวบ้านเร่งกวาดล้างทำความสะอาดบ้านเรือน และมีสวนพริกที่ชาวบ้านปลูกไว้ได้รับความเสียหายกว่า 300 ไร่ โดยวัยนี้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะเข้าไปสำรวจความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป


จากกรณีฝนตกลงมาอย่างหนักและเกิดน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านใน ต.แม่ตีบ อ.งาว จ.ลำปาง อย่างหนัก เมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายกว่า 200 หลังคาเรือน โดยเฉพาะ 2 หมู่บ้าน คือ บ้านน้ำหลง ม.3 และบ้านงิ้วงาม ม.4 น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านจนมีบ้านพังถล่มลงทั้งหลัง เนื่องจากกระแสน้ำป่าที่ไหลแรงและมีจำนวนมาก ทำให้น้ำเซาะใต้ดิน เสาบ้านล้มและบ้านพังถล่มลงมาต่อหน้าต่อตาเจ้าของบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านได้แต่นั่งกอดกับลูกสาวร้องไห้ เมื่อเห็นบ้านของตัวเองค่อยๆ พังถล่มลงมาทั้งหลัง ขณะเดียวกันบ้านที่อยู่ในบริเวณเดียวกันน้ำก็กัดเซาะเป็นพื้นที่กว้าง ทำให้ยุ้งฉางเก็บข้าวของชาวบ้านพังเสียหาย

ล่าสุดหน่วยงานต่างๆ อาทิ ฝ่ายปกครอง กาชาดอำเภอ อบต. ทหาร ตำรวจ กู้ภัย และชาวบ้านจิตอาสาในหมู่บ้าน เข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำป่าไหลหลากสร้างความเสียหายให้กับหมู่บ้าน โดยได้เข้ารื้อถอนซากบ้านที่ถล่มลงมาเพื่อรอการก่อสร้างใหม่ ช่วยซ่อมหลังคาบ้านเรือน และฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนที่น้ำได้ซัดโคลนเข้าในบ้าน

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนางสมทัด อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านที่บ้านพังถล่ม เล่าว่า คืนก่อนเกิดเหตุตนเองและลูกนอนที่บ้านตามปกติ เวลาประมาณตี 3-4 รู้ว่ามีน้ำป่าหลากเข้าหมู่บ้าน แต่ไม่คิดว่าจะแรง และคิดว่าเป็นปกติเหมือนที่เคยประสบมา กระทั่งช่วงสายเห็นว่ายุ้งข้าวที่อยู่หลังบ้านเริ่มเอียง กระทั่งเวลาประมาณ 9-10 โมงเช้า รู้สึกว่าบ้านเริ่มลั่น ตนเองจึงรีบเข้าไปหยิบเอกสารส่วนตัว โฉนดที่ดิน และรีบออกจากบ้านไปอยู่ที่บ้านญาติฝั่งตรงข้าม จากนั้นไม่นานบ้านก็เริ่มทรุดทีละข้างและเอียง สุดท้ายก็ถล่มตามที่ลูกสาวถ่ายคลิปได้ ตนเองกับลูกได้แต่กอดกันร้องไห้มองบ้านที่พังลงมา เสียดายบ้านที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง สร้างมาตั้งแต่ลูกอายุ 2 ขวบ ร่วมกว่า 30 ปีแล้ว

ขณะที่ที่บ้านงิ้วงาม ต.แม่ตีบ นายอิทธิฤทธิ์ สมสุข ชาวบ้านบ้านงิ้วงาม ได้ไลฟ์ขณะที่ตนเองพร้อมแฟนและสุนัข ติดอยู่บนหลังคาบ้าน เพราะหนีน้ำป่าที่ไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้าน

หลังจากนายอิทธิฤทธิ์ได้รับความช่วยเหลือลงมาจากหลังคาบ้านแล้ว เล่าว่า ขณะเกิดเหตุชาวบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพยายามตะโกนและส่องไฟฉายบอก แต่สุนัขไม่เห่า และตนเองก็หลับ สะดุ้งตื่นมาประมาณตี 5 น้ำก็เพิ่มระดับเกือบท่วมที่นอนแล้ว โชคดีที่ตื่นก่อน มิฉะนั้นอาจถูกไฟดูดตาย เพราะห้องที่นอนมีปลั๊กไฟ เมื่อตั้งสติได้รีบปลดคัทเอาต์และรีบออกมา พบว่ารถยนต์ถูกพัดไปกับน้ำ ข้าวของไปหมดแล้ว จึงรีบปีนขึ้นหลังคา และรออยู่บนนั้นจนกระทั่ง 7 โมงกว่า จึงมีชาวบ้านโยงเชือกมาช่วย เพราะกระแสน้ำแรงมาก ตอนนี้ตนเองหมดเนื้อหมดตัว ขณะนี้ได้รับเงินบริจาคและมีคนมาช่วยเหลือประมาณ 2,000 กว่าบาทแล้ว แต่อยากได้รับความช่วยเหลือเรื่องเครื่องนอน

สำหรับความเสียหายล่าสุด ปภ.ลำปาง สรุปว่า อ.งาว มีผู้ประสบภัย 2 ตำบล คือ ต.บ้านหวด และแม่ตีบ 6 หมู่บ้าน ราษฎรจำนวน 236 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร สัตว์เลี้ยง ทรัพย์สินของชาวบ้านที่ไม่สามรถขนย้ายได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ล่าสุดมีการตั้งจุดรับบริจาคสิ่งของบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านแม่ตีบหลวง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ตร.เข้มปราบแข่งรถบนทางด่วน เร่งสอบเหตุรถชน 11 คัน

17 ส.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำปราบปรามแข่งรถในทางอย่างเข้มงวด กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน 11 คัน บนทางด่วนศรีรัช–อุดรรัถยา เร่งตรวจสอบ พบความผิดใด ดำเนินคดีทุกกรณี วันนี้ (17 สิงหาคม 2568) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร และหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีวันที่ 16 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 00.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันหลายคัน บนทางด่วนศรีรัช – อุดรรัถยา ขาออก มุ่งหน้า จังหวัดปทุมธานี พื้นที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยการทางพิเศษเร่งเข้าตรวจสอบ พบรถยนต์เสียหายรวมทั้งสิ้น 11 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ทั้งหมด ผลการตรวจไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย อย่างไรก็ตาม จากพฤติการณ์เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการขับรถด้วยความประมาท […]

สัปดาห์หน้าถกคดี “หมอบี” รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หนี

17 ส.ค.- กองปราบเตรียมประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” สัปดาห์หน้า รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบพฤติการณ์ของนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ซึ่งอาจเข้าข่ายฉ้อโกง กรณีเปิดรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการของวัดพระบาทน้ำพุ ว่า ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า คณะทำงานจะมีการเรียกประชุมเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้ลงไปติดตามในพื้นที่ จากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาเทียบเคียงและพิจารณาว่า พฤติการณ์ของนายเสกสันน์ เข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ ส่วนจะเป็นวันใดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือ สำหรับการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้พบว่ามีความคืบหน้าไปมาก คงเหลือพยานหลักฐานบางส่วนที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลบหนีไปนั้น พ.ต.อ.เอนก บอกว่า เบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะมีใครหลบหนี มีรายงานข่าวว่า กรณีดังกล่าวหากนายเสกสันน์ หรือผู้เกี่ยวข้องมีการหลบหนีจริง ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เนื่องจากขณะนี้เจ้าตัวยังไม่ถูกดำเนินคดี รวมถึงไม่ถือเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ทำให้ตำรวจไม่สามารถขออายัด หรือมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งปัจจุบันคณะทำงาน โดยเฉพาะกองบังคับการปราบปราม อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับในกรณีที่พบการกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิด.-419-สำนักข่าวไทย

เตือนฝนฟ้าคะนองทั่วไทย – 6 จังหวัดตะวันออกหนักสุด

กทม. 17 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยฝนฟ้าคะนองทั่วไทย เตือน 6 จังหวัดภาคตะวันออก แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 17 ส.ค. นี้ไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย