ฝนถล่ม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ น้ำท่วมขังถนนสูง 20-40 ซม.

ภูมิภาค 19 พ.ค. – เกิดฝนตกหนักใน อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นานกว่าครึ่งชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนถนนในเขตเทศบาลปราณบุรีสูง 20-40 ซม. ส่งผลให้การจราจรติดขัด ส่วนที่เชียงใหม่ น้ำป่าหลากบ้านแม่อ้อ สวนพริกเสียหาย 300 ไร่ และที่ลำปาง หลายหน่วยงานเร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก


ช่วงหัวค่ำวานนี้ (18 พ.ค.65) เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ปราณบุรี นานกว่าครึ่งชั่วโมง ส่งผลให้ถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 3168 ช่วงปราณบุรี-ปากน้ำปราณ บริเวณหน้าซอยรัฐบำรุง 7 แยกหน้าสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคปราณบุรี มีน้ำท่วมขัง เนื่องจากระบายไม่ทัน ทำให้ระดับน้ำท่วมสูงถึง 20-40 ซม. ส่งผลการจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัด รถจักรยานยนต์ที่ขับมาผ่านต้องใช้ความระมัดระวัง รถจักรยานยนต์บางคันขี่ฝ่าน้ำมาทำให้เครื่องยนต์ดับหลายสิบคัน

บริเวณถนนดังกล่าวเมื่อมีฝนตกหนักทุกครั้งจะมีน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ ทำให้มีน้ำไหลเข้าบ้านเรือนประชาชนเวลารถวิ่งผ่านด้วยความเร็ว ชาวบ้านต้องนำพลาสติกมาปิดบริเวณหน้าบ้าน พร้อมวิงวอนผู้ใช้รถใช้ถนนวิ่งช้าๆ และอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยมาดำเนินการแก้ไข เพราะเมื่อเกิดมาฝนตกหนักครั้งใดก็เกิดน้ำท่วมขังแบบนี้ทุกครั้ง


เชียงใหม่ น้ำป่าหลากบ้านแม่อ้อ สวนพริกเสียหาย 300 ไร่
ที่เชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืนวันที่ 17 พ.ค. จนถึงเช้าวันที่ 18 พ.ค. ในพื้นที่ อ.เชียงดาว ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงลำห้วยแม่อ้อ ต.เมืองนะ กระแสน้ำไหลมาอย่างรวดเร็ว นำเศษไม้ ตอไม้ไหลมาด้วย ทำให้อุดตันท่อระบายน้ำ จนทำให้น้ำล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนริมน้ำ ชาวบ้านตั้งตัวไม่ทัน ต้องขนของหนีน้ำอลหม่าน

เจ้าหน้าที่ทหาร นปค 32 ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เทศบาลตำบลเมืองนะ เจ้าหน้าที่ทหารกรมทหารราบที่ 7 ต้องระดมกำลังนับ 100 นาย เข้าไปช่วยเหลือขนย้ายทรัพย์สินมีค่าไว้บนที่สูง รวมทั้งสัตว์เลี้ยง และอุ้มคนแก่ออกจากบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้นำรถแบ็กโฮเข้ามาชักลากท่อนไม้ที่อุดตันหน้าท่อระบายน้ำ ทำให้น้ำระบายได้เร็วขึ้น

ล่าสุดช่วงบ่ายวานนี้ (18 พ.ค.65) ลดลงสู่ภาวะปกติแล้ว มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจำนวนมาก ชาวบ้านเร่งกวาดล้างทำความสะอาดบ้านเรือน และมีสวนพริกที่ชาวบ้านปลูกไว้ได้รับความเสียหายกว่า 300 ไร่ โดยวัยนี้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะเข้าไปสำรวจความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป


จากกรณีฝนตกลงมาอย่างหนักและเกิดน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านใน ต.แม่ตีบ อ.งาว จ.ลำปาง อย่างหนัก เมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายกว่า 200 หลังคาเรือน โดยเฉพาะ 2 หมู่บ้าน คือ บ้านน้ำหลง ม.3 และบ้านงิ้วงาม ม.4 น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านจนมีบ้านพังถล่มลงทั้งหลัง เนื่องจากกระแสน้ำป่าที่ไหลแรงและมีจำนวนมาก ทำให้น้ำเซาะใต้ดิน เสาบ้านล้มและบ้านพังถล่มลงมาต่อหน้าต่อตาเจ้าของบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านได้แต่นั่งกอดกับลูกสาวร้องไห้ เมื่อเห็นบ้านของตัวเองค่อยๆ พังถล่มลงมาทั้งหลัง ขณะเดียวกันบ้านที่อยู่ในบริเวณเดียวกันน้ำก็กัดเซาะเป็นพื้นที่กว้าง ทำให้ยุ้งฉางเก็บข้าวของชาวบ้านพังเสียหาย

ล่าสุดหน่วยงานต่างๆ อาทิ ฝ่ายปกครอง กาชาดอำเภอ อบต. ทหาร ตำรวจ กู้ภัย และชาวบ้านจิตอาสาในหมู่บ้าน เข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำป่าไหลหลากสร้างความเสียหายให้กับหมู่บ้าน โดยได้เข้ารื้อถอนซากบ้านที่ถล่มลงมาเพื่อรอการก่อสร้างใหม่ ช่วยซ่อมหลังคาบ้านเรือน และฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนที่น้ำได้ซัดโคลนเข้าในบ้าน

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนางสมทัด อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านที่บ้านพังถล่ม เล่าว่า คืนก่อนเกิดเหตุตนเองและลูกนอนที่บ้านตามปกติ เวลาประมาณตี 3-4 รู้ว่ามีน้ำป่าหลากเข้าหมู่บ้าน แต่ไม่คิดว่าจะแรง และคิดว่าเป็นปกติเหมือนที่เคยประสบมา กระทั่งช่วงสายเห็นว่ายุ้งข้าวที่อยู่หลังบ้านเริ่มเอียง กระทั่งเวลาประมาณ 9-10 โมงเช้า รู้สึกว่าบ้านเริ่มลั่น ตนเองจึงรีบเข้าไปหยิบเอกสารส่วนตัว โฉนดที่ดิน และรีบออกจากบ้านไปอยู่ที่บ้านญาติฝั่งตรงข้าม จากนั้นไม่นานบ้านก็เริ่มทรุดทีละข้างและเอียง สุดท้ายก็ถล่มตามที่ลูกสาวถ่ายคลิปได้ ตนเองกับลูกได้แต่กอดกันร้องไห้มองบ้านที่พังลงมา เสียดายบ้านที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง สร้างมาตั้งแต่ลูกอายุ 2 ขวบ ร่วมกว่า 30 ปีแล้ว

ขณะที่ที่บ้านงิ้วงาม ต.แม่ตีบ นายอิทธิฤทธิ์ สมสุข ชาวบ้านบ้านงิ้วงาม ได้ไลฟ์ขณะที่ตนเองพร้อมแฟนและสุนัข ติดอยู่บนหลังคาบ้าน เพราะหนีน้ำป่าที่ไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้าน

หลังจากนายอิทธิฤทธิ์ได้รับความช่วยเหลือลงมาจากหลังคาบ้านแล้ว เล่าว่า ขณะเกิดเหตุชาวบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพยายามตะโกนและส่องไฟฉายบอก แต่สุนัขไม่เห่า และตนเองก็หลับ สะดุ้งตื่นมาประมาณตี 5 น้ำก็เพิ่มระดับเกือบท่วมที่นอนแล้ว โชคดีที่ตื่นก่อน มิฉะนั้นอาจถูกไฟดูดตาย เพราะห้องที่นอนมีปลั๊กไฟ เมื่อตั้งสติได้รีบปลดคัทเอาต์และรีบออกมา พบว่ารถยนต์ถูกพัดไปกับน้ำ ข้าวของไปหมดแล้ว จึงรีบปีนขึ้นหลังคา และรออยู่บนนั้นจนกระทั่ง 7 โมงกว่า จึงมีชาวบ้านโยงเชือกมาช่วย เพราะกระแสน้ำแรงมาก ตอนนี้ตนเองหมดเนื้อหมดตัว ขณะนี้ได้รับเงินบริจาคและมีคนมาช่วยเหลือประมาณ 2,000 กว่าบาทแล้ว แต่อยากได้รับความช่วยเหลือเรื่องเครื่องนอน

สำหรับความเสียหายล่าสุด ปภ.ลำปาง สรุปว่า อ.งาว มีผู้ประสบภัย 2 ตำบล คือ ต.บ้านหวด และแม่ตีบ 6 หมู่บ้าน ราษฎรจำนวน 236 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร สัตว์เลี้ยง ทรัพย์สินของชาวบ้านที่ไม่สามรถขนย้ายได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ล่าสุดมีการตั้งจุดรับบริจาคสิ่งของบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านแม่ตีบหลวง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ศาลให้ประกัน “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” เงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ

กรุงเทพฯ 17 ก.ย. – ศาลให้ประกันตัว “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” หลักทรัพย์คนละ 6 แสนบาท เงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ขณะเจ้าตัวเตรียมยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อ เชื่อศาลจะให้ความยุติธรรม ด้านอธิบดีกรมการข้าว มองเป็นกรรมของแต่ละคน ไม่ได้รู้สึกอะไร ให้เป็นตามเวรกรรม นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เปิดเผยภายหลังฟังคำตัดสินว่า ตนเองเคารพคำตัดสินของศาล ซึ่งประเด็นที่จะเป็นแนวทางการต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ คือประเด็นที่ศาลมองว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ถูกลงโทษจำคุก 6 ปี แต่ส่วนตัวมองว่าตนเองไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะการแต่งตั้งของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นการแต่งตั้งเฉพาะตัว ซึ่งศาลยังไม่ได้ดูในรายละเอียด เพราะการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น เงินเดือน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับตำแหน่งดังกล่าว แต่ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวลใจกับคำตัดสิน เพราะมองว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ขณะเดียวกันจะมีการต่อสู้ในประเด็นการเชื่อมโยงจำเลยทั้งหมดในชั้นอุทธรณ์ โดยจะชี้แจงว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความเชื่อมโยงกับจำเลยอีก 4 คน เนื่องจากไม่เคยได้รับผลประโยชน์อะไรจากจำเลยทั้งหมด และเชื่อว่าคำตัดสินในศาลชั้นสูงจะให้ความยุติธรรมกับตัวเอง คำพิพากษาในวันนี้ศาลได้นำโทษคดีคาร์ม็อบ 2 คดี ในพื้นที่เมืองพัทยา และกรุงเทพมหานครเมื่อปี พ.ศ. 2564 […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ข้ามไปหารือผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย ชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตย

สระแก้ว 17 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว เดินทางข้ามไปหารือ ผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย แก้ปัญหาชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย “บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว” บอกว่า ถ้าไม่มั่นใจ ก็ไม่ไป ก่อนเวลาประมาณ 10.00 น. นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินทางจากฝั่งคลองลึกอรัญประเทศของไทย ข้ามไปบริเวณปอยเปต ของกัมพูชา เพื่อหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ที่ตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา ปอยเปต เพื่อแก้ปัญหาชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย ในจุดหลังเส้นสีแดงบริเวณบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ข้อพิพาท แต่เป็นอธิปไตยของไทย โดยมี อุม เรีย ไต ผู้ ว่าราชการจังหวัดมันเตรียมเวนเจ มารอต้อนรับที่กลางสะพานมีการทักทายกันอย่างเป็นกันเอง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ยังได้ทักทายกับพลโทเป็กวันนา หัวหัวหน้าสำนักงานประสานงานชายแดนกัมพูชา- ไทย ความสัมพันธ์ที่ดีในช่วงที่ผ่านมาว่า พลโทเป๊กวันนา ก็เคยข้ามมารักษาพยาบาลที่ฝั่งไทย โดยก่อนเดินทางไปร่วมประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่าถ้าไม่มั่นใจก็ไม่เดินทางไปเจรจาเพราะการหารือที่ขึ้นเป็นไปตามข้อตกลงของจากการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา หรือ GBC.-สำนักข่าวไทย

ไม่รอด! ศาลสั่งจำคุก “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” กับพวก ร่วมกันรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว

17 ก.ย. – ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำพิพากษา กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา กับเจ๋ง ดอกจิก พร้อมพวกรวม 5 คน ร่วมกันเรียกรับทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ด้าน “ศรีสุวรรณ” เผยมั่นใจและเชื่อมั่นในคำพิพากษาว่าศาลจะให้กลับไปทำหน้าที่เหมือนเดิม ล่าสุดศาลพิพากษาคุก “เจ๋ง ดอกจิก” 6 ปี ด้าน “ศรีสุวรรณ” พร้อมพวกโดนด้วยคนละ 4 ปี นายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียน, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมพวกรวม 5 คน เดินทางเข้ารับฟังคำพิพากษาในข้อหาเรียกรับทรัพย์สินจากอธิบดีกรมการข้าว ก่อนขึ้นฟังคำพิพากษานายศรีสุวรรณ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า คดีนี้เป็นคดีการเมืองที่ผู้มีอำนาจต้องการเตะตัดขา เพราะไม่ต้องการให้ทำหน้าที่ตรวจสอบนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง เพราะสิ่งที่ทำมานับ 10 ปี เป็นที่หวาดผวาของนักการเมืองและข้าราชการจำนวนมาก เรื่องร้องเรียนนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองหลายพรรค จบอนาคตการเมืองของนักการเมืองดังหลายคน จึงเป็นที่มาของการหาเหตุให้ต้องคดี โดยใช้เทคนิควิธีการ ซึ่งในภาษากฎหมายเรียกว่าล่อให้กระทำความผิด โดยการเอาถุงเงินไปแขวนหน้าบ้าน หากพฤติกรรมแบบนี้ถือเป็นความผิด อนาคตอาจนำไปใช้กันทั่วประเทศและก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายต่อประชาชน นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า […]