อ่างทอง 18 พ.ค. – สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง เร่งตรวจสอบพระยึดวัดร้างสร้างสำนักสงฆ์ พร้อมจัดเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต สั่งให้ออกจากพื้นที่ทันที
ที่บริเวณวัดหนองเต่าร้าง หมู่ 5 ต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง นายศักดิ์ดนัย วรเดช ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ สภ.โพธิ์ทอง เข้าตรวจสอบภายในวัด หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่า มีพระและฆราวาสเข้าไปยึดพื้นที่สร้างสิ่งปลูกสร้าง และมีการเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงมีการทำผิดมติมหาเถรสมาคม
จากการตรวจสอบพบว่า ภายในบริเวณวัด มีการก่อสร้างอาคารและที่พักหลายจุด และที่บริเวณหน้าโบสถ์โพธิ์ล้อมเก่าแก่อายุหลายร้อยปี มีการตั้งเครื่องไหว้รูปปั้นห่มผ้าขาว และมีชุดไทย ซึ่งชาวบ้านนำมาถวายให้กับศาลเจ้าแม่เป็นจำนวนมาก โดยมีพระสมยศ นาควิจิตร อายุ 53 ปี และมีฆราวาสอีกจำนวนหนึ่งอยู่ภายในวัด
ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า มติมหาเถรสมาคม ห้ามพระเข้ามาพักในพื้นที่ที่ยังไม่ได้อนุญาตให้สร้างวัด เป็นวัดร้างอยู่ในความดูแลของสำนักพุทธฯ และไม่ได้อนุญาตให้พระสงฆ์เข้ามาอยู่ นอกจากนี้ยังมีการเรี่ยไร โดยการเชิญชวนชาวบ้านมาตั้งโรงทาน และเตรียมจัดงานฉลองศาลาการเปรียญ ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ซึ่งไม่สามารถทำได้
เจ้าอาวาสวัดโพธิ์เกรียบ เจ้าคณะตำบลบางพลับ เปิดเผยว่า เบื้องต้นต้องให้พระสมยศออกจากพื้นที่ เนื่องจากมติมหาเถรสมาคมไม่อนุญาตให้พระหรือสามเณรเข้ามาจำพรรษา หรือทำการก่อสร้างในวัดร้าง ซึ่งการเข้ามา ผิดตั้งแต่เข้ามาอยู่แล้ว ก็ต้องปฏิบัติตาม และยังมีการบอกบุญญาติโยมให้ตั้งโรงทาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด จึงต้องให้ออกจากพื้นที่ทันที
ด้านพระสมยศ เผยว่า พร้อมย้ายออกไปอยู่วัดอื่น ซึ่งได้ประสานไว้แล้ว เป็นวัดอยู่ในพื้นที่ อ.วิเศษชัยชาญ โดยอยู่ที่นี่มาได้ 2 เดือน มาเพียงรูปเดียว ความตั้งใจที่มาอยู่ เพราะอยากมาดูแลและบูรณะวัดร้างแห่งนี้ แต่เมื่อมีปัญหาก็จะย้ายออกไป
สำหรับวัดดังกล่าวเป็นวัดร้าง ที่ผ่านมาสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง ได้ให้ชาวบ้านเช่าทำประโยชน์ แต่ช่วงหลังมีการก่อสร้างและมีพระสงฆ์เข้ามาอยู่ รวมถึงมีชาวบ้านเข้าไปกราบไหว้ขอโชคลาภ จนมีการนำสิ่งของเข้าไปแก้บน เช่น ชุดไทยจำนวนมาก ซึ่งผิดวินัยสงฆ์ การทำเช่นนี้เป็นการทำให้พื้นที่เสียหาย และยังขัดมติมหาเถรสมาคม จนมีชาวบ้านร้องเรียน นำมาสู่การเข้าดำเนินการของสำนักพุทธฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง. – สำนักข่าวไทย