จุดตกเรือและพบศพแตงโมไม่มีโคลน ตามที่ระบุในผลนิติเวช

นนทบุรี 16 พ.ค. – “อัจฉริยะ” นำทีมกู้ภัยทางน้ำที่เคยร่วมภารกิจถ้ำหลวง งมค้นหาหลักฐานคดีแตงโม ยืนยันจุดตกเรือและพบศพ “แตงโม” ไม่มีโคลนเหมือนที่ระบุไว้ในผลนิติเวช เตรียมส่งหลักฐานมอบดีเอสไอ 18 พ.ค.นี้


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมนายเฉลิมพล หงษ์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำภาค 7 นำเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำที่เคยร่วมภารกิจถ้ำหลวง มาลงดำน้ำ บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 อ.เมืองนนทบุรี เพื่องมหาวัตถุพยาน ที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงชื่อดังที่พลัดตกน้ำเสียชีวิต โดยมีการใช้เรือหางยาว 4 ลำ ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาไปตามจุดต่างๆ รวม 3 จุด คือจุดที่คาดว่าจะเป็นจุดที่ดาราสาวตกน้ำ จุดที่ร่างดาราสาวโผล่ขึ้นจากน้ำ และจุดที่บริเวณท่าทรายของเอกชน

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ผลของภารกิจวันนี้ทำให้ได้พิสูจน์ว่า จุดตกเรือและจุดพบศพที่ควรจะต้องมีโคลน เพราะผลนิติเวชบอกว่าพบโคลนในปอดแตงโมนั้น ปรากฏว่าจากการดำสำรวจของนักประดาน้ำวันนี้ พบว่าทั้ง 2 จุด ไม่มีโคลน มีแต่ทราย โดยจุดแรกมีความลึกประมาณ 15-16 เมตร ส่วนจุดที่ 2 มีความลึกประมาณ 17-19 เมตร ซึ่งขัดแย้งกับผลนิติเวชที่บอกว่าแตงโมจมน้ำตื้น จึงชัดเจนว่า แตงโมไม่ได้ตกเรือที่จุดนี้แน่นอน


ขณะที่จุดที่ 3 ที่ท่าเทียบเรือทรายที่เป็นจุดที่ตนสงสัย เนื่องจากมีภาพในกล้องวงจรปิด ว่ามีการนำเรือมาจอดแวะที่จุดนี้ในช่วงเวลาใกล้กับเวลาเกิดเหตุ แต่ตำรวจไม่เคยพูดถึง ซึ่งจากการสำรวจของนักประดาน้ำวันนี้ พบว่าใต้น้ำจุดดังกล่าว มีแต่โคลน ไม่มีทราย โดยมีความลึกประมาณ 7 เมตร ซึ่งสอดคล้องกับที่พบโคลนในปอด ตนจึงสงสัยว่าแตงโมน่าจะตกเรือตรงนี้มากกว่า เพราะทรายที่พบว่ากำอยู่ในมือก็มีลักษณะเหมือนทรายบนเรือขนทรายที่จอดตรงนั้น และระดับน้ำก็ไม่ลึกด้วย ซึ่งหลักฐานเรื่องโคลนและทรายที่พบในวันนี้ ก็จะเป็นหนึ่งในหลักฐานที่ตนจะนำไปยื่นให้ดีเอสไอในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ด้วย

ทั้งนี้ การค้นหาวันนี้ ยังไม่เจอผ้ากระโปรงสีขาว หรือวัตถุโลหะใดๆ แต่นายอัจฉริยะ ระบุว่า ตอนนี้ตนทราบแล้วว่าผ้าขาวอยู่ที่ไหน เพราะมีพยานที่พบว่าผ้าขาวลอยไปอยู่ที่ท่าช้าง ซึ่งพยานจะเข้ามาพบตนในวันนี้ โดยยืนยันว่าผ้านี้เป็นของจริงแน่นอน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ส่วนอาวุธมีดพก K2 ที่ตนมีภาพว่าตอนเอาเรือไปเติมน้ำมัน มีคนบนเรือคนหนึ่งพกมีดนี้ไว้กับตัวตลอด แต่หลังเกิดเหตุมีดนี้หายไป ซึ่งแม้วันนี้จะหาไม่พบ แต่จะไปยื่นให้ดีเอสไอช่วยตรวจสอบ โดยต้องสอบปากคำคนในเรือว่าเอามีดไปทิ้งไว้ที่ไหน โดยมีดนี้มีความสำคัญ เพราะได้ทดลองนำมีดรุ่นเดียวกันมากรีดลงบนเนื้อหมูก็ได้บาดแผลใกล้เคียงกับแผลที่ต้นขาขวาของแตงโม และหมอที่ทำการทดสอบก็จะมาเป็นพยานให้ตนด้วย

นายอัจฉริยะ ยังยืนยันด้วยว่า ตนมั่นใจในพยานหลักฐานที่จะนำไปยื่นกับดีเอสไอ ว่าจะสามารถทำให้คดีนี้เข้าสู่กระบวนการของการสอบสวนคดีพิเศษได้ เพราะมีความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญประกอบ รวมถึงหมอพรทิพย์ด้วย และหากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ก็จะสามารถนับหนึ่งใหม่ ทำการสอบสวนโดยที่ไม่มีธง ซึ่งตนยังเชื่อว่าคดีนี้เป็นฆาตกรรมอำพรางแน่นอน แม้แต่ตำรวจก็ไม่มีคลิปหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าเป็นการพลัดตกเรือ ส่วนภารกิจในวันนี้ ตนทราบว่ามีหลายคนคิดว่า มาหาหลักฐานตอนนี้ สภาพในน้ำคงจะเปลี่ยนไปหลายอย่างแล้ว แต่ตนคิดว่าพอใจกับสิ่งที่ได้ เพราะทำให้เห็นเรื่องโคลนและทราย


สำหรับการขอเข้าพบอัยการ ที่ครั้งก่อนหน้านี้ไม่ได้เข้าพบนั้น นายอัจฉริยะบอกว่า ตอนนี้ตนไม่สนใจอัยการแล้ว แต่ก็ขอให้ซื่อสัตย์ไปให้ตลอด อย่าเล่นลิ้น ส่วนเรื่องเอกสารคำฟ้องที่บอกว่าเป็นของปลอมส่งไปที่บ้านอัยการโดย นาย อ. นั้น นายอัจฉริยะ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับตน แต่เอกสารนี้ ตนก็มีเหมือนกัน และเป็นเอกสารของจริงที่ถูกนำไปยื่นฟ้องศาลในวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่ศาลยกฟ้อง และคนที่จะรู้ที่อยู่ของอัยการได้ ก็ต้องไม่ใช่บุคคลทั่วไป จึงต้องไปดูท้ายคำฟ้องว่าใครเป็นผู้เรียงพิมพ์

ขณะที่ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความคดีแตงโม กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า ตนได้รับรายงานเกี่ยวกับนายอัจฉริยะ ที่ได้ไปงมหาพยานหลักฐานที่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณจุดเกิดเหตุที่แตงโมตกแม่น้ำเจ้าพระยา โดยนายอัจฉริยะ ได้ไปเจอทรายเจอโคลน เจอผ้าคาดเอว เจออะไรต่างๆ ซึ่งในเรื่องนี้ ในฐานะที่ตนเป็นทนายความของแม่น้องแตงโม ซึ่งเป็นทนายความของผู้มีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหายตามกฎหมาย ขอเรียนว่าพยานหลักฐานต่างๆ ของนายอัจฉริยะ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดีนั้น ไม่สามารถที่จะนำเข้าสู่สำนวนพนักงานสอบสวนได้ และไม่สามารถนำเข้าสู่สำนวนของพนักงานอัยการได้ เนื่องจากไม่ใช่คู่ความในคดี การจะนำไปส่งให้ดีเอสไอ ก็ไม่ได้มีผลต่อคดีแตงโมแต่อย่างใด ดังนั้น การค้นหาพยานหลักฐานของนายอัจฉริยะไม่ได้มีผลต่อรูปคดีแตงโม

อีกทั้ง ในปัจจุบันนี้การสอบสอบสวนของพนักงานสอบสวนก็เสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจสอบสวนแล้ว อีกทั้งขณะนี้คดีอยู่ที่อัยการ คาดว่าไม่เกิน 7 วัน หรือ 10 วัน น่าจะมีการออกคำสั่งฟ้องและพาตัวผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” พรุ่งนี้

ทำเนียบ 15 มิ.ย.-รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ ต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025 ร่วมโชว์พลังหญิง นำเสนอวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยในทุกมิติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568) รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ให้การต้อนรับ “โอปอล” นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World คนแรกของประเทศไทย ที่เพิ่งคว้ามงกุฎระดับโลกในการประกวด Miss World ประจำปี 2025 ที่ประเทศอินเดีย มีกำหนดการเข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเวลา 10.00 น. การพบปะกันในครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของสตรีไทย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิสตรี การศึกษา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน การเข้าเยี่ยมคารวะของ Miss World 2025 ยังเป็นการส่งสารเชิงบวกต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านความเท่าเทียมทางเพศอีกด้วย […]