จุดตกเรือและพบศพแตงโมไม่มีโคลน ตามที่ระบุในผลนิติเวช

นนทบุรี 16 พ.ค. – “อัจฉริยะ” นำทีมกู้ภัยทางน้ำที่เคยร่วมภารกิจถ้ำหลวง งมค้นหาหลักฐานคดีแตงโม ยืนยันจุดตกเรือและพบศพ “แตงโม” ไม่มีโคลนเหมือนที่ระบุไว้ในผลนิติเวช เตรียมส่งหลักฐานมอบดีเอสไอ 18 พ.ค.นี้


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมนายเฉลิมพล หงษ์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำภาค 7 นำเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำที่เคยร่วมภารกิจถ้ำหลวง มาลงดำน้ำ บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 อ.เมืองนนทบุรี เพื่องมหาวัตถุพยาน ที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงชื่อดังที่พลัดตกน้ำเสียชีวิต โดยมีการใช้เรือหางยาว 4 ลำ ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาไปตามจุดต่างๆ รวม 3 จุด คือจุดที่คาดว่าจะเป็นจุดที่ดาราสาวตกน้ำ จุดที่ร่างดาราสาวโผล่ขึ้นจากน้ำ และจุดที่บริเวณท่าทรายของเอกชน

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ผลของภารกิจวันนี้ทำให้ได้พิสูจน์ว่า จุดตกเรือและจุดพบศพที่ควรจะต้องมีโคลน เพราะผลนิติเวชบอกว่าพบโคลนในปอดแตงโมนั้น ปรากฏว่าจากการดำสำรวจของนักประดาน้ำวันนี้ พบว่าทั้ง 2 จุด ไม่มีโคลน มีแต่ทราย โดยจุดแรกมีความลึกประมาณ 15-16 เมตร ส่วนจุดที่ 2 มีความลึกประมาณ 17-19 เมตร ซึ่งขัดแย้งกับผลนิติเวชที่บอกว่าแตงโมจมน้ำตื้น จึงชัดเจนว่า แตงโมไม่ได้ตกเรือที่จุดนี้แน่นอน


ขณะที่จุดที่ 3 ที่ท่าเทียบเรือทรายที่เป็นจุดที่ตนสงสัย เนื่องจากมีภาพในกล้องวงจรปิด ว่ามีการนำเรือมาจอดแวะที่จุดนี้ในช่วงเวลาใกล้กับเวลาเกิดเหตุ แต่ตำรวจไม่เคยพูดถึง ซึ่งจากการสำรวจของนักประดาน้ำวันนี้ พบว่าใต้น้ำจุดดังกล่าว มีแต่โคลน ไม่มีทราย โดยมีความลึกประมาณ 7 เมตร ซึ่งสอดคล้องกับที่พบโคลนในปอด ตนจึงสงสัยว่าแตงโมน่าจะตกเรือตรงนี้มากกว่า เพราะทรายที่พบว่ากำอยู่ในมือก็มีลักษณะเหมือนทรายบนเรือขนทรายที่จอดตรงนั้น และระดับน้ำก็ไม่ลึกด้วย ซึ่งหลักฐานเรื่องโคลนและทรายที่พบในวันนี้ ก็จะเป็นหนึ่งในหลักฐานที่ตนจะนำไปยื่นให้ดีเอสไอในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ด้วย

ทั้งนี้ การค้นหาวันนี้ ยังไม่เจอผ้ากระโปรงสีขาว หรือวัตถุโลหะใดๆ แต่นายอัจฉริยะ ระบุว่า ตอนนี้ตนทราบแล้วว่าผ้าขาวอยู่ที่ไหน เพราะมีพยานที่พบว่าผ้าขาวลอยไปอยู่ที่ท่าช้าง ซึ่งพยานจะเข้ามาพบตนในวันนี้ โดยยืนยันว่าผ้านี้เป็นของจริงแน่นอน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ส่วนอาวุธมีดพก K2 ที่ตนมีภาพว่าตอนเอาเรือไปเติมน้ำมัน มีคนบนเรือคนหนึ่งพกมีดนี้ไว้กับตัวตลอด แต่หลังเกิดเหตุมีดนี้หายไป ซึ่งแม้วันนี้จะหาไม่พบ แต่จะไปยื่นให้ดีเอสไอช่วยตรวจสอบ โดยต้องสอบปากคำคนในเรือว่าเอามีดไปทิ้งไว้ที่ไหน โดยมีดนี้มีความสำคัญ เพราะได้ทดลองนำมีดรุ่นเดียวกันมากรีดลงบนเนื้อหมูก็ได้บาดแผลใกล้เคียงกับแผลที่ต้นขาขวาของแตงโม และหมอที่ทำการทดสอบก็จะมาเป็นพยานให้ตนด้วย

นายอัจฉริยะ ยังยืนยันด้วยว่า ตนมั่นใจในพยานหลักฐานที่จะนำไปยื่นกับดีเอสไอ ว่าจะสามารถทำให้คดีนี้เข้าสู่กระบวนการของการสอบสวนคดีพิเศษได้ เพราะมีความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญประกอบ รวมถึงหมอพรทิพย์ด้วย และหากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ก็จะสามารถนับหนึ่งใหม่ ทำการสอบสวนโดยที่ไม่มีธง ซึ่งตนยังเชื่อว่าคดีนี้เป็นฆาตกรรมอำพรางแน่นอน แม้แต่ตำรวจก็ไม่มีคลิปหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าเป็นการพลัดตกเรือ ส่วนภารกิจในวันนี้ ตนทราบว่ามีหลายคนคิดว่า มาหาหลักฐานตอนนี้ สภาพในน้ำคงจะเปลี่ยนไปหลายอย่างแล้ว แต่ตนคิดว่าพอใจกับสิ่งที่ได้ เพราะทำให้เห็นเรื่องโคลนและทราย


สำหรับการขอเข้าพบอัยการ ที่ครั้งก่อนหน้านี้ไม่ได้เข้าพบนั้น นายอัจฉริยะบอกว่า ตอนนี้ตนไม่สนใจอัยการแล้ว แต่ก็ขอให้ซื่อสัตย์ไปให้ตลอด อย่าเล่นลิ้น ส่วนเรื่องเอกสารคำฟ้องที่บอกว่าเป็นของปลอมส่งไปที่บ้านอัยการโดย นาย อ. นั้น นายอัจฉริยะ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับตน แต่เอกสารนี้ ตนก็มีเหมือนกัน และเป็นเอกสารของจริงที่ถูกนำไปยื่นฟ้องศาลในวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่ศาลยกฟ้อง และคนที่จะรู้ที่อยู่ของอัยการได้ ก็ต้องไม่ใช่บุคคลทั่วไป จึงต้องไปดูท้ายคำฟ้องว่าใครเป็นผู้เรียงพิมพ์

ขณะที่ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความคดีแตงโม กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า ตนได้รับรายงานเกี่ยวกับนายอัจฉริยะ ที่ได้ไปงมหาพยานหลักฐานที่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณจุดเกิดเหตุที่แตงโมตกแม่น้ำเจ้าพระยา โดยนายอัจฉริยะ ได้ไปเจอทรายเจอโคลน เจอผ้าคาดเอว เจออะไรต่างๆ ซึ่งในเรื่องนี้ ในฐานะที่ตนเป็นทนายความของแม่น้องแตงโม ซึ่งเป็นทนายความของผู้มีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหายตามกฎหมาย ขอเรียนว่าพยานหลักฐานต่างๆ ของนายอัจฉริยะ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดีนั้น ไม่สามารถที่จะนำเข้าสู่สำนวนพนักงานสอบสวนได้ และไม่สามารถนำเข้าสู่สำนวนของพนักงานอัยการได้ เนื่องจากไม่ใช่คู่ความในคดี การจะนำไปส่งให้ดีเอสไอ ก็ไม่ได้มีผลต่อคดีแตงโมแต่อย่างใด ดังนั้น การค้นหาพยานหลักฐานของนายอัจฉริยะไม่ได้มีผลต่อรูปคดีแตงโม

อีกทั้ง ในปัจจุบันนี้การสอบสอบสวนของพนักงานสอบสวนก็เสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจสอบสวนแล้ว อีกทั้งขณะนี้คดีอยู่ที่อัยการ คาดว่าไม่เกิน 7 วัน หรือ 10 วัน น่าจะมีการออกคำสั่งฟ้องและพาตัวผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติปมชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน

5 ก.ค. – โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน เพื่อชี้แจงท่าทีของประเทศไทย ตามที่มีการสอบถามจากสื่อต่าง ๆ เรื่องในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับหนังสือของเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ถึงเลขาธิการสหประชาชาติต้องการจะฟ้องร้องประเด็นชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อ ICJ หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า

ปลัด อบต. ถูกหลอกลงทุน สูญ 4 ล้าน

บุรีรัมย์ 5 ก.ค. – ปลัด อบต.สาวชาว ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นหมอเกษียณ ทักมาจีบ แล้วหลอกร่วมลงทุนอ้างผลตอบแทนสูง หลงเชื่อสูญ 4 ล้าน นำที่ดินไปจำนอง รถเข้าไฟแนนซ์ นส.ปลา ปลัด อบต.สาว แห่งหนึ่ง ในจังหวัดศรีสะเกษ นำข้อความแชตสนทนาและรูปโปร์ไฟล์ของชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นแพทย์ รพ.ชื่อดัง ชื่อ เจ ซึ่งปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้วออกมาร้องสื่อมวลชน ในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอความช่วยเหลือโดยอ้างว่า ถูก นายแพทย์คนดังกล่าวหลอกลวง ด้วยวิธีการทักเฟซบุ๊กมาจีบ เมื่อ 21 พ.ย.67 ก่อนจะขอแอดไลน์ระหว่างนั้นมีการพูดคุยวิดีโอคอนสานสัมพันธ์กัน ผ่านไปไม่นานก็หลอกล่อให้ร่วมลงทุนผ่านแอปฯ อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูงยิ่งลงทุนมากยิ่งผลตอบแทนมาก จนหลงเชื่อร่วมลงทุน     ครั้งแรก หมอเจ ชักชวนให้ลองลงทุน เป็นเงิน 50,000 บาท มีการเติมเงินเข้าระบบ และลองเล่นที่ห้องที่ 1 ตามที่หมอเจแนะนำ จนเสร็จสิ้นขั้นตอนการเล่น ปรากฏว่าได้ผลตอนแทน เป็นเงิน 54,000 บาทจริง ต่อมาหมอเจ ก็โน้มน้าวต่อ หากอยากเล่นแบบมีรายได้เยอะกว่านี้ ก็ให้เติมเงินเข้าระบบไปเล่นที่ห้อง 2-10 ตนเห็นว่าครั้งแรกได้เงินจริง […]

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]