เพชรบุรี 15 พ.ค.- เมื่อวานนี้ (14 พ.ค.) ที่บ้านหมอปลามีพิธีขอขมาหลวงปู่แสง ซึ่งมีทิดไพรวัลย์และทิดสมปองมาช่วยทำพิธี กลายเป็นดราม่าว่าเลือกฝั่ง ซึ่งทั้ง 2 ทิดออกมาเผยว่าไม่ใช่เป็นตัวกลาง แต่อะไรที่มีประเด็นหรือปัญหาจึงมาแนะนำหมอปลาและทีมงานว่าอะไรควรทำและต้องทำ
หลังจากที่เมื่อวานนี้ หมอปลาพร้อมทีมงาน จัดพิธีขอขมาหลวงปู่แสงและแถลงข่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้ว พร้อมประกาศขอยุติบทบาทปราบพระชั่วคราว ต่อมาทิดไพรวัลย์และทิดสมปองก็ได้ร่วมกันชี้แจงว่า ตนไม่ใช่ตัวกลาง แต่มองว่าการขอขมาคืออารยะวิธีที่สังคมพุทธใช้กันทั่วไป ตนจึงให้หมอปลาและทีมงานได้กราบขอขมา เพราะว่าตัวของทุกคนก็ยืนยันว่าบริสุทธิ์ใจ เมื่อสิ่งที่ทำลงไปแล้วถูกสังคมมองว่าไม่เหมาะสม ก็แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการขอขมา ไม่ได้ต้องการให้หมอปลาทำเพื่อลดกระแสวิจารณ์ แต่คิดว่าทำในฐานะที่ผิดพลาดและยอมรับว่าสิ่งที่ทำลงไปมีข้อผิดพลาดจริงๆ ส่วนสังคมและลูกศิษย์ของหลวงปู่จะให้อภัย หรือจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ก็เป็นสิทธิ์ของเขา
หากสังคมจากประณามการกระทำของหมอปลาก็สามารถทำได้ แต่ต้องไม่ลืมปัญหาใหญ่ๆ 2 อย่างที่เกิดขึ้น คือ เรื่องการใช้งานพระผู้ใหญ่เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีหลายกรณีแล้ว และเรื่องเงินต้องตามไปจัดการคณะสงฆ์ ว่าตกลงเงินมีกี่ล้านบาท และจะจัดการอย่างไรในกรณีที่หลวงปู่เป็นผู้ไร้ความสามารถที่ไม่สามารถจัดการปัจจัยที่มีญาติโยมมาถวายได้ ทำอย่างไรให้เงินก้อนนั้นตกมา เป็นศาสนาสมบัติส่วนกลาง เพื่อนำไปใช้สอยในทางพระศาสนาแบบที่หลวงปู่ในสมัยที่ท่านยังรู้สึกตัวให้เป็น ดังนั้น เรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน หากทำอะไรผิดแล้ว ก็มีเปิดโอกาสการขอโทษกัน ตนไม่ได้ปกป้องหมอปลา เขาทำไม่ดีก็ต่อว่า กรณีที่เกิดขึ้นหมอปลาผิดก็นำมาปรับปรุงแก้ไข
ด้านทิดสมปอง บอกว่า การให้ที่ไม่เสียอะไรเลยก็คือ การให้อภัยซึ่งตนก็ได้พูดคุยกับ หมอปลา และทีมงานแล้วเมื่อรู้ว่าผิดพลาดตรงไหนก็สามารถขอโทษได้อย่างกล้าหาญ ตนมองว่าสังคมให้อภัยได้ ส่วนกรณีของลูกศิษย์รอบตัวหลวงปู่นั้น ตนมองว่าเหมือนเป็นการสอบตก การได้ดูแลหลวงปู่ หรือพระอาจารย์ ควรจะมีการสอบหรือดูความเหมาะสมว่าสามารถทำได้หรือไม่ จะได้มีมาตรฐานเดียวกันเพราะมีผลต่อความศรัทธาของญาติโยม.-สำนักข่าวไทย