รวบแล้วพี่ชายโหด ยิงน้องชายดับคาสวนผลไม้-คุมตัวทำแผน

จันทบุรี 13 พ.ค. – รวบแล้วพี่ชายยิงน้องชายเสียชีวิตคาสวนผลไม้ ขณะลูกชายพยายามพาหลบหนีออกจาก จ.จันทบุรี ก่อนคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่สวนผลไม้ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี


ความคืบหน้ากรณีนายบุญมี พี่ชายแท้ๆ วัย 68 ปี บุกใช้อาวุธปืนยิงนายเฉลิม น้องชาย วัย 61 ปี 3 นัด เสียชีวิตคาสวนผลไม้ หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปที่บ้านพักในสวนยาง พื้นที่ตำบลแก่งหางแมว อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี พร้อมอาวุธปืน 2 กระบอก

มีรายงานว่าช่วงเย็นวานนี้ (12 พ.ค.) นายบุญมีได้หลบหนีออกจากพื้นที่จันทบุรีไปแล้ว โดยมีลูกชายอีกคนซึ่งทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการ ขับรถมารับที่บ้านที่จังหวัดจันทบุรี มุ่งหน้าเดินทางไปจังหวัดปราจีนบุรี แต่ระหว่างทางรถได้ประสบอุบัติเหตุในพื้นที่อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา จนลูกชายได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะนายบุญมีอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป


ล่าสุดได้รับรายงานว่าตำรวจชุดสืบสวนสามารถตามจับกุมตัวนายบุญมีได้ในพื้นที่แปดริ้ว อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ขณะพยายามหนีลงไปซ่อนตัวในน้ำ และแอบขึ้นมาเดินทางบนบก ลัดเลาะตามชายป่าในรุ่งเช้า แต่ถูกเจ้าหน้าที่บุกจับกุมตัวได้สำเร็จ

ต่อมาชุดจับกุมได้คุมตัวนายบุญมีเดินทางกลับไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เพื่อสอบสวน เบื้องต้นทราบข้อมูลว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีลูกชายนายบุญมีสมรู้ร่วมคิดก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย

ขณะนี้ตำรวจชุดจับกุมได้แบ่งกำลังไปจับกุมตัวลูกชายนายบุญมีที่อำเภอแก่งหางแมว และนำพาไปเอาอาวุธปืนของกลางที่นำไปซ่อนไว้ในป่า ก่อนจะคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ชนวนเหตุมาจากปัญหาพิพาทเรื่องมรดกแบ่งที่ดินไม่ลงตัว ซึ่งมีปัญหากันมานานแล้ว

ล่าสุดตำรวจควบคุมตัวนายบุญมี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงนายเฉลิม น้องชาย เสียชีวิต มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังสวนผลไม้พื้นที่บ้านบึงบอน หมู่ 7 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนชุดปฏิบัติการพิเศษ กระจายกำลังกันไม่ให้ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตทำร้ายประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พานายบุญมีไปชี้จุดแนวหลักเขตแดนที่เกิดข้อพิพาทกับผู้เสียชีวิต โดยได้นำพาไปชี้จุดบริเวณที่มีการใช้รถที่ผู้ตายว่าจ้างรถแบ็กโฮมาขุดปรับพื้นที่ บริเวณที่ทับซ้อนพิพาทระหว่างของผู้ต้องหากับผู้เสียชีวิต โดยผู้ต้องหากล่าวยืนยันว่าในวันเกิดเหตุได้เดินมาสอบถามนายเฉลิมว่ามีการนำรถแบ็กโฮมาขุดในที่ดินของตัวเอง ซึ่งทำให้เกิดการโต้เถียงกัน และทำให้นายเฉลิม ผู้เสียชีวิต ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ลงในหลุมที่ใช้รถแบ็กโฮขุด จึงเกิดความโมโห ในวันเดียวกันในขณะที่นายเฉลิมเดินมาเปิดแผงควบคุมมอเตอร์เพื่อปล่อยน้ำในสวน ผู้ต้องหาได้เดินมาพูดคุยกับน้องชาย เพื่อสอบถามเรื่องแนวเขตอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งสองจะเกิดปะทะคารมกัน และในขณะที่ผู้เสียชีวิตล้วงมือไปหยิบขยับกระเป๋า ทำให้ผู้ต้องหาเกิดความระแวงว่าผู้เสียชีวิตจะใช้อาวุธปืนมายิง จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนพกที่ตัวเองเตรียมมาและขึ้นลำไว้ยกขึ้นมายิงสวนเข้าใส่ผู้ตาย ยอมรับว่าไม่แน่ใจว่าได้ยิงผู้ตายไปกี่นัด หลังเห็นผู้ตายล้มลงจึงยกร่างของผู้ตายทิ้งลงไปในสระน้ำเพื่ออำพราง ก่อนจะขับรถหลบหนีไปที่อำเภอแก่งหางแมว

ผู้ต้องหาบอกว่าหากย้อนเวลากลับได้จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ด้วยอารมณ์โมโหที่ผู้ตายมีปัญหาขัดแย้งเรื่องที่ดินกับตนเองและไม่ยอมอ่อนข้อปล่อยวาง

รองผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยว่า ตำรวจแกะรอยจากการใช้สัญญาณโทรศัพท์ติดตามไปอย่างต่อเนื่อง พบผู้ต้องหาปลอมตัวเป็นคนเร่ร่อนเดินอยู่ริมทางบริเวณจุดจับกุม จึงลองส่งเสียงเรียกชื่อนายมี ขณะนั้นผู้ต้องหาเผลอหันกลับมา ทำให้ชุดสืบสวนแน่ใจว่าเป็นผู้ต้องหา จึงใช้กำลังเข้าจับกุมตัวได้

ด้านลูกชายคนเล็กของนายเฉลิม ผู้เสียชีวิต เปิดเผยความในใจว่า ไม่คิดว่าผู้ที่ลงมือก่อเหตุฆ่าพ่อของตนเองจะเป็นลุงแท้ๆ ที่ผ่านมาตนเองกับลุงมีการพูดคุยกันปกติ แต่ลุงกับพ่อมักมีปากเสียงทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง เรื่องปัญหาพิพาทที่ดินทับซ้อนกัน จากนิสัยส่วนตัวของลุง ภายนอกเป็นคนอารมณ์แปรปรวน พูดจาโผงผาง แต่ไม่คิดว่าจะกล้าถึงขนาดใช้อาวุธปืนยิงพ่อของตนเองได้อย่างลงคอ ทั้งนี้ ยังอยากอโหสิกรรมให้กับลุง แต่ให้ทางตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อลังการเคาท์ดาวน์เชียงใหม่ดึงดูดผู้คนทั่วโลก

ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่เชียงใหม่กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่จะไปร่วมเฉลิมฉลองกันที่นั่นไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน ซึ่งมีการจัดกิจกรรมนับถอยหลังสู่ปีใหม่ในหลายจุด โดยเฉพาะที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ซึ่งเต็มไปด้วยความสวยงามของดอกไม้และแสงไฟ เรียกว่าเป็นจุดเคาท์ดาวน์ที่สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน

พ่อช็อก ลูกสาวเสียชีวิตเหตุเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์

พ่อช็อก น้ำตาคลอรู้ข่าวลูกสาวเสียชีวิตเหตุเครื่องบินเชจูแอร์ ไถลออกนอกรันเวย์ เผยเป็นลาง ลูกยื่นเงินหมื่นให้พ่อจ่ายเงินฌาปนกิจศพให้ตัวเอง

Jeju Air CEO apologises for plane crash at airport in South Korea

ซีอีโอเชจูแอร์ขอขมาผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินชน

โซล 29 ธ.ค.- ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ของสายการบินเชจูแอร์ (Jeju AIr) ขอขมาต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินชนรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 124 คน จากจำนวนคนบนเครื่องบินทั้งหมด 181 คน นายคิม อีแบ ซีอีโอเชจูแอร์ แถลงต่อสื่อสั้น ๆ ว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอขมาต่อผู้โดยสารที่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ รวมถึงครอบครัว บริษัทจะแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็วและให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้โดยสาร นอกจากนี้จะพยายามอย่างเต็มที่ในการหาสาเหตุร่วมกับรัฐบาล นายคิม กล่าวว่า บริษัทให้บริการเครื่องบินลำนี้โดยได้มีการซ่อมบำรุงตามปกติ และไม่พบสัญญาณใด ๆ ว่าเครื่องบินมีความผิดปกติ เชจูแอร์เป็นสายการบินต้นทุนต่ำของเกาหลีใต้ที่ตั้งขึ้นในปี 2548 ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศไปยังญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และไทย และมีเที่ยวบินในประเทศจำนวนมาก ด้านโบอิง บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐ แถลงว่า กำลังประสานกับเชจูแอร์ กรณีเครื่องบินโบอิง 737-800 แบบ 2 เครื่องยนต์ เที่ยวบิน 7ซี2216 (7C2216) ชนที่ท่าอากาศยานทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ และพร้อมให้ความช่วยเหลือสายการบิน ขณะที่กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ ระบุว่า เครื่องบินลำนี้ผลิตในปี 2552 […]

ข่าวแห่งปี 2567 : สุดอาลัย…ดาวลับฟ้า ปี 2567

ตลอดปี 2567 นับเป็นปีที่สูญเสียบุคคลมีชื่อเสียง ทั้งในแวดวงบันเทิง ศิลปินแห่งชาติ และวงการสื่อสารมวลชน ที่มีคุณูปการต่อประเทศชาติ