เชียงใหม่ 11 พ.ค.- ช่วงใกล้เปิดเทอม ผู้ปกครองชาวเชียงใหม่หลายบ้านหมุนเงินไม่ทัน จำเป็นต้องเข้าโรงรับจำนำ เพื่อหาเงินค่าเทอม-ค่าเสื้อผ้าให้บุตรหลาน
สถานธนานุบาล หรือ โรงรับจำนำ กลายเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ที่ผู้ปกครองนึกถึง และนำสิ่งของมีค่า โดยเฉพาะทองรูปพรรณไปจำนำ เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายให้บุตรหลานในช่วงเปิดเทอมนี้ ผู้จัดการโรงรับจำนำแห่งที่ 1 และแห่งที่ 3 ของเชียงใหม่ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าแม้เปิดเทอมปีนี้ คนที่มาจำนำจะยังมีไม่มากนัก แต่ก็คาดการณ์ว่าจะช่วงใกล้วันเปิดเทอมจะมีคนนำของมาจำนำมากกว่านี้ จึงได้เตรียมเงินสำรองหมุนเวียนไว้ 100 ล้านบาท และมากถึง 180 ล้านบาท เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่มาใช้บริการในช่วงเปิดเทอมนี้ ส่วนดอกเบี้ยยังคงอัตราเดิม คือของราคาไม่เกิน 5 พันบาท ดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 0.25 หากเกิน 5 พันบาท ร้อยละ 1 โดยขยายเวลาให้ไถ่ถอนได้ภายใน 4 เดือน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 แล้ว
สำหรับสิ่งของที่พบว่าคนนิยมมาจำนำมากที่สุดยังคงเป็นทองรูปพรรณ เพราะซื้อง่ายขายคล่องและจำนำได้ราคาดี แต่หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านมาเข้าปีที่ 3 แล้ว ทำให้พบเห็นคนนำสิ่งของที่ใช้ในการทำมาหากินมาจำนำมากขึ้น อย่างเช่น เตาแก๊ส เตาขนมครกโบราณ เตาปิ้งบาร์บีคิว เครื่องสไลด์เนื้อหมู ครกสาก หม้อหุงข้าว หรือแม้กระทั่งเครื่องตัดหญ้า แต่ที่แปลกที่สุด คือ พราหมณ์นำอุปกรณ์ทำพิธีอย่างพานทองเหลือง มาจำนำ
ขณะที่ประชาชนที่มาจำนำบอกเหตุผลว่า ที่เลือกนำทรัพย์สินมาจำนำเพราะมีความจำเป็น เนื่องจากลูกหลานจะเปิดเทอมแล้ว มีค่าใช้จ่ายทั้งค่าเทอมและค่าชุด รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะตามมาอีก การนำของมาจำนำก็ทำให้มีเงินใช้หมุนเวียน และดอกเบี้ยก็ไม่แพง หากพอมีกำลังทรัพย์มากขึ้นเมื่อไหร่ก็จะมาไถ่ถอนออกไป พร้อมทั้งเห็นว่าการจำนำดีกว่าการกู้เงินนอกระบบหรือกดบัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยสูงกว่าหลายเท่า และบางส่วนก็มองว่าทรัพย์สินเป็นของนอกกาย หากมีก็เอามาจำนำเพื่อหาเงินช่วยเหลือคนในครอบครัวให้ผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้ก่อน .-สำนักข่าวไทย