พระบิดาแสดงอิทธิฤทธิ์ “ล่องหน” หลังศาลปล่อยตัว

ชัยภูมิ 10 พ.ค. – “พระบิดา” เจ้าลัทธิประหลาด ล่องหน หลังได้ประกันตัว คาดไปอยู่กับลูกศิษย์ที่อุดรธานี ด้านป่าไม้แจ้งจับเอาผิดบุกรุกป่า


หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบุกตรวจสำนักฤาษีประหลาด พื้นที่บ้านกุดแคน หมู่ 2 ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ที่มีนายทวี หนันรา ตั้งตัวเป็นพระบิดาของทุกศาสนา มีตำรับยาอุจจาระ ปัสสาวะ เสมหะ ขี้ไคล รวมถึงโอสถทิพย์ที่บรรจุในโอ่งมังกรนับร้อย ใครกินแล้วจะช่วยรักษาสารพัดโรค เพื่อนำศพ 11 ศพ ไปตรวจพิสูจน์

การตรวจพิสูจน์เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติ ทุกศพมีใบมรณบัตร เสียชีวิตจากมะเร็ง ติดเชื้อในกระแสเลือด และศพนานสุดถูกเก็บไว้ 5 ปี ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายศพทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ในสุสานอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และติดต่อญาติให้มารับกลับไปบำเพ็ญกุศล ขณะที่การสอบสวนญาติๆ ทราบว่าที่นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่สำนักของพระบิดา เพราะเชื่อว่าหากเก็บไว้ที่นี่ผู้เสียชีวิตจะได้ขึ้นสวรรค์ และเจ้าสำนักบอกว่าโลกจะแตกในอีกไม่นาน และผู้เสียชีวิตจะกลับเข้าสู่ร่างเดิมเมื่อเกิดบนโลกใบใหม่ และพระบิดาของเหล่าสาวก จะเป็นเจ้าลัทธิ


ส่วนการดำเนินคดีกับพระบิดาในเบื้องต้น พันตำรวจเอกวัฒนชัย จันทาทุม ผู้กำกับการ สภ.คอนสาร ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า มีเพียง 3 ข้อหา คือ บุกรุกป่า บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ และความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค ส่วนความผิดอื่นที่เข้าข่ายแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มคือ กระบวนการบำบัดรักษาอาการป่วย และการจัดการศพ ซึ่งภายหลังตำรวจคุมตัวพระบิดาส่งศาลฝากขัง ศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวไปด้วยวงเงิน 50,000 บาท โดยมีการคาดการณ์ว่าพระบิดาได้เดินทางกลับไปบ้านที่ขอนแก่น โดยคนที่นำเงินวางประกันตัวนายทวี คือ นายทองทิพย์ หนันลา อายุ 62 ปี น้องชายของพระบิดา

ทีมข่าวพยายามขอสัมภาษณ์นายทองทิพย์ บอกเพียงว่าหลังนำเงินไปประกันตัวพระบิดาออกมาจากนั้นพระบิดาก็ออกไปกับลูกศิษย์ ซึ่งขณะนี้ขอไม่บอกว่าไปอยู่ที่ไหน หากอยากรู้ให้หมอปลาไปควานหาเอาเอง เพราะเห็นว่าเก่งนักหนา หรือหากอยากเจอตัวจริงๆ ก็รอวันขึ้นศาล หรืออีก 12 วัน ส่วนอาการของพระบิดาตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะลูกศิษย์คนที่รับตัวไปก็ดูแลอย่างดีและไว้ใจได้ อีกทั้งพระบิดาไม่ได้มีอาการเครียดหรือกังวลลอะไร เพราะปล่อยวางแล้ว ถึงแม้เมื่อวานจะมีการยั่วยุจากหมอปลาก็ไม่ได้ติดใจอะไร แม้กระทั่งทรัพย์สินของท่านยังปล่อยวาง ตอนนี้ได้ยกที่ดินทั้งหมด 16 ไร่ ให้น้องชายคนเล็กครอบครอง ส่วนเรื่องที่มีการพบห่อยารักษาโรคไวรัสตับอักเสบบีนั้น ส่วนตัวว่าไม่เป็นความจริง เพราะท่านจะไม่ยอมกินยา นอกจากยาที่ปรุงเองเท่านั้น

ขณะที่ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่บ้านของนายบุญตัน หนันลา อายุ 77 ปี ซึ่งคาดว่าหลังจากพระบิดาได้รับการประกันตัวจะกลับมาบ้านพี่ชาย แต่ไม่พบ


นายบุญตัน เปิดเผยว่า พระบิดาไม่ได้กลับมาที่นี่ อาจจะไปอยู่กับลูกศิษย์ที่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง หรืออาจจะเป็น จ.อุดรธานี จ.มหาสารคาม ก็เป็นได้ แต่ส่วนตัวแล้วไม่ทราบจริงๆ ว่าน้องชายไปอยู่ที่ไหน และตอนนี้ไม่ได้เป็นห่วงแล้ว เพราะคิดว่าลูกศิษย์ต้องดูแลอย่างดี แน่นอน

ชาวบ้านโวยพระบิดาปล่อยน้ำเสียจากศพส่งกลิ่นเน่าเหม็น
นอกจากนี้ยังมีเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านกุดแคน หมู่ 2 ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากสำนักลัทธิประหลาดปล่อยน้ำเสียจากศพและจากการหมักสมุนไพรส่งกลิ่นเหม็น ทำคุณภาพชีวิตแย่มานานหลายปี

นายแสวง สุขขีอายุ 78 ปี บอกว่า เดิมทีรู้จักและเคยพูดคุยกับพระบิดา เจ้าสำนักประหลาด เพราะตนเองมีที่ไร่ที่นาอยู่บริเวณใกล้เคียงติดกับที่ดินสาธารณะที่เป็นที่ตั้งสำนักดังกล่าว แต่ตนไม่ค่อยชอบตรงที่ว่ามีการปล่อยให้พื้นที่มีขยะมาก ส่งกลิ่นเหม็น แถมขยะต่างๆ ที่นำมาหมักไว้ในโอ่งก็ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วป่า ยิ่งเวลามาทำไร่ทำสวนจะได้กลิ่นเน่าเหม็นเป็นประจำ

ทั้งนี้ พื้นที่ป่าดังกล่าวมีการทำรั้วปิดมิดชิด ไม่ค่อยปล่อยให้คนนอกเข้าไป ส่วนใหญ่จะมีการปลูกกระท่อมอยู่กันเฉพาะคนในกลุ่มของลูกศิษย์เป็นครอบครัวราว 20-30 หลังคาเรือน และตามแนวป่าก็จะมีการนำต้นกระบองเพชรมาปลูกเป็นแนวรั้วไว้เพื่อแสดงเป็นแนวเขตของสำนักประหลาด

ป่าไม้แจ้งจับพระบิดาพร้อมสาวกบุกรุกที่ป่า
ด้านนายสาโรจน์ บุญพร้อม หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าคอนสาร ออกมายืนยันว่าพื้นที่ที่เป็นสถานที่รวมกลุ่มของลัทธิประหลาด เป็นพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งตนเป็นผู้ดูแลอยู่ หลังทราบเรื่องตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางเข้าพื้นที่ตั้งแต่วันแรกแล้ว พร้อมเดินสำรวจเบื้องต้น จากการจับพิกัดยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตป่าสงวน และไม่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน นั่นหมายความว่าอยู่ในเขตป่าไม้ และตามมาตรา 4 (1) ที่ระบุที่ดินที่ยังมีผู้ได้มา ตามประมวลกำหมายที่ดิน ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่กรมป่าไม้ยังต้องดูแล ดังนั้น การเข้ายึดถือครอบครองทำประโยชน์โดยไม่ได้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ถือว่าเป็นการบุกรุกอย่างแน่นอน ขณะนี้ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ออกรางวัดพิกัดทั้งหมด เพื่อคำนวณเนื้อที่ว่าได้เนื้อที่เท่าไร ที่ทำความเสียหายในเขตรับผิดชอบของป่าไม้ จากนั้นจะนำข้อมูลทั้งหมดเข้าแจ้งความเพิ่มเติม ซึ่งจะใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 3-4 วัน ซจากภาพรวมและการตรวจสอบเบื้องต้น ยืนยันว่ามีการบุกรุกอย่างแน่นอน

สำหรับสำนักฤาษีประหลาดนี้ ลูกศิษย์เกือบทั้งหมดเป็นคนต่างถิ่น อาศัยอยู่ในพื้นที่ครอบครองเกือบ 30 ไร่ จากป่าชุมชนทั้งหมด 287 ไร่ คนในพื้นที่ศรัทธาเฉพาะช่วงแรกเกือบ 30 ปีก่อนที่ยังห่มเหลืองเป็นพระสงฆ์ แต่หลังจากเปลี่ยนเป็นฤาษี พร้อมปล่อยสูตรตำรับยาพิสดาร นำซากพืช ซากสัตว์ ผสมให้ลูกศิษย์ดื่มกิน ชาวบ้านในพื้นที่จึงถอยห่างตั้งแต่ตอนนั้น และภายในวันศุกร์นี้ อำเภอคอนสารจะนำประกาศมาติดว่าพื้นที่นี้รุกป่าสาธารณประโยชน์อย่างชัดเจน ไม่มีสิทธิเข้ามาอยู่อาศัย จะให้เวลาออกนอกพื้นที่ใน 7วัน หรือ 15 วัน หากไม่ออกก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]