รวบหนุ่มใหญ่คลั่งยาชักปืนขู่-ขับรถปาดหน้า

ชุมพร 10 พ.ค. – ชายวัย 50 ปี ขับรถกระบะ หัวร้อนชักปืนยิงขู่เพื่อนร่วมทาง ก่อนจะแซงปาดหน้าลงมาทะเลาะ ตำรวจเข้าระงับเหตุ ค้นรถเจอปืนเถื่อน-ยาบ้า และตรวจพบปัสสาวะสีม่วง


ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุคนขับรถกระบะ 2 คัน ทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนข่มขู่กัน บริเวณสี่แยกปฐมพร ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบชาย 2 คน ยืนทะเลาะกันอยู่บนเกาะกลางถนน ริมถนนสายเอเชีย 41 บริเวณหน้าตลาดสด ทางแยกเข้าเมืองชุมพร จึงเข้าตรวจสอบ พบนายกมลวิทย์ อายุ 40 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ และนายสาธิต อายุ 50 ปี คนขับรถกระบะคู่กรณี

นายกมลวิทย์ เล่าว่า ตนเองขับรถมาจาก จ.สงขลา โดยใช้ถนนสายเอเชีย 41 ขาขึ้น เพื่อจะไปส่งสินค้าให้กับลูกค้าที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะขับมาถึงพื้นที่ ต.วิสัย อ.เมือง จ.ชุมพร พบรถกระบะคู่กรณี คาดมีเรื่องทะเลาะกับรถบรรทุกพ่วงที่ขับตามกันมา โดยรถกระบะอยู่ในลักษณะขับขวางหน้าและพยายามเบรก เพื่อให้รถบรรทุกพ่วงชน ซึ่งตนเห็นรถกระบะทำแบบนี้อยู่นานมาก ในช่องจราจรด้านขวา ทำให้รถติดเป็นทางยาว จนกระทั่งตนเองมีโอกาสได้แซงขึ้นทางช่องจราจรด้านซ้าย แต่ไม่นานรถกระบะคู่กรณีได้ขับไล่หลังมา และพยายามจะแซงหน้ารถของตนเอง แต่ไม่สามารถแซงได้ ซึ่งตนไม่ได้คิดอะไร แต่ไม่นานก็สังเกตเห็นรถกระบะคันดังกล่าวพยายามจะแซงหน้า ขับไล่หลังมาและขับจี้เหมือนจะชนท้าย ทำให้ตนเองต้องเร่งความเร็วหนี แต่รถกระบะคันดังกล่าวยังขับไล่มาติดๆ พร้อมบีบแตรไล่ ก่อนจะชักอาวุธปืนออกมานอกรถ และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตนเองเห็นท่าไม่ดี จึงขับเลี้ยวเข้าเมืองชุมพร พร้อมหยิบโทรศัพท์โทรแจ้งไปยังศูนย์วิทยุ 191 เป็นช่วงเดียวกับที่รถกระบะคันดังกล่าวขับแซงขึ้นมาและปาดหน้า พร้อมเบรกกะทันหัน จนรถตนพุ่งชนท้าย และต้องจอดรถ ก่อนที่คนขับรถกระบะคันก่อเหตุจะเปิดประตูลงมา โชคดีที่จอดในเขตชุมชน มีผู้คนจำนวนมาก ทำให้นายสาธิต ไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่าด่าทอตนเอง กระทั่งไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาระงับเหตุ


หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุ ได้ขอตรวจค้นภายในรถของนายสาธิต พบอาวุธปืนพกสั้น ชนิดออโตเมติก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน ขนาด 9 มม. จำนวน 9 นัด บรรจุอยู่ในแมกกาซีน จึงยึดไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้ยังพบยาบ้า จำนวน 90 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส จำนวน 2 ถุง ซุกอยู่ในกล่องไฟฉาย

จากการสอบสวนนายสาธิต ให้การรับสารภาพว่า อาวุธปืนเป็นของเพื่อนให้มา แต่จำไม่ได้ว่าเป็นใคร ส่วนยาบ้าทั้งหมดเป็นของตนเอง เพิ่งซื้อมาจากนายนิด (นามสมมติ) แถว ต.วิสัย อ.เมือง จ.ชุมพร จำนวน 100 เม็ด ในราคาเม็ดละ 40 บาท และได้เสพไปแล้ว 10 เม็ด ก่อนจะขับรถออกมา เพื่อเดินทางไปทำงานขุดบ่อบาดาลให้กับลูกค้า แต่ระหว่างทางพบรถบรรทุกพ่วงขับกีดขวาง และยังมาเสียอารมณ์กับรถกระบะที่ไม่ยอมให้ตนแซง จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

พระโคกิน “น้ำ-หญ้า-เหล้า” น้ำท่าบริบูรณ์ การค้าขายดี เศรษฐกิจรุ่งเรือง

พระยาแรกนา เสี่ยงทายหยิบได้ผ้านุ่ง 5 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำปีนี้มีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ดี พร้อมพระโคกินน้ำ หญ้า และเหล้า โหรหลวงพยากรณ์ น้ำท่าบริบูรณ์ การค้าขายดี เศรษฐกิจไทยรุ่งเรือง

เตือนพายุฤดูร้อน ภาคอีสาน ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง

กรมอุตุฯ เตือนพายุฤดูร้อน ภาคอีสาน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าบางพื้นที่ ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

รู้จัก “งูทับสมิงคลา” พิษร้ายแรงเบอร์ 1 ของบรรดาพิษงูในไทย

หนุ่มถูกงูกัด รีบไปโรงพยาบาล แต่ถูกวินิจฉัยว่าไม่รุนแรง หมอให้กลับบ้าน ก่อนอาการทรุดเข้าไอซียู ด้าน สสจ.ระยอง แจงโรงพยาบาลไม่ได้ทิ้งคนไข้ แต่เพราะผลเลือดไม่พบพิษ ล่าสุดสัญญาณชีพปกติ

ได้พระสันตะปาปาองค์ใหม่ เป็นชาวอเมริกันคนแรก

คริสตจักรโรมันคาทอลิก ได้สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่แล้ว หลังจากคณะพระคาร์ดินัลผู้เลือกตั้ง 133 คน มีมติเลือกพระคาร์ดินัล โรเบิร์ต พรีโวสต์ จากชิคาโก สหรัฐฯ ให้ดำรงตำแหน่งต่อจากโป๊ปฟรังซิส ถือเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้