ชัยภูมิ 9 พ.ค. – ชาวบ้าน อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ รวมตัวขับไล่ลัทธิฤาษีประหลาด ด้านอธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้ลัทธิกินอุจจาระไม่เป็นวิทยาศาสตร์ กินเข้าไปมีแต่เชื้อโรค ห่วงวอนไปพบแพทย์ จิตแพทย์ชี้ความเชื่อแบบนี้เข้าข่ายงมงาย หลงผิดร่วม
ชาวบ้านและตัวแทนชุมชนรวมตัวกันหน้าที่ว่าการอำเภอคอนสาร จ.ชัยภูมิ พร้อมชูป้ายขับไล่ลัทธิฤาษีประหลาดที่ให้คนไข้กินปัสสาวะ และอุจจาระ ออกไปจากพื้นที่ นอกจากนี้ยังชูป้ายทวงคืนผืนป่าพื้นที่สาธารณะ ตอนแรกนึกว่ามาประท้วง แต่จริงๆ แล้วมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และหมอปลาที่เข้าตรวจค้นสำนักลัทธิประหลาด จากนั้นได้ยื่นหนังสือให้กับนายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด ซึ่งหลังรับมอบแล้วคณะรองผู้ว่าฯ นายอำเภอคอนสาร และหมอปลา ได้เดินทางไปที่ สภ.คอนสาร เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี หลังวันนี้เข้าค้นสำนักรอบสอง
ชำแหละลัทธิประหลาดกินปัสสาวะ-อุจจาระ
เรื่องนี้เริ่มจากหมอปลาได้ประสานนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชจังหวัดชัยภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง และตำรวจ บุกสำนักฤาษีประหลาด ตั้งอยู่ในที่ดินสาธารณะ หมู่บ้านกุดแคน หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ พบกับนายทวี หนันรา อายุ 75 ปี อ้างตัวเป็นเจ้าสำนัก ที่เปิดรับรักษาโรคทุกชนิด โดยการให้ผู้ป่วยกินปัสสาวะ กินอุจจาระ กินเสมหะและขี้ไคล รวมถึงยาที่ดองไว้นับ 100 โอ่งมังกร ให้กินเป็นยารักษาโรคต่างๆ ให้กับคนไข้ที่มาจากทั่วสารทิศ นอกจากนี้ยังพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในโลงศพ 11 ราย ที่อ้างว่ารอส่งขึ้นสวรรค์
เจ้าหน้าที่ก็ควบคุมตัวนายทวีไปดำเนินคดี ตรวจสอบข้อมูลพบว่านายทวี มีฉายาว่า โจเซฟ อายุ 75 ปี อ้างว่าตัวเองเป็นพระเมตไตรย เรียกอีกอย่างว่า พระบิดา อ้างว่าไม่ได้สอนอะไร และไม่ได้บังคับใครให้กินปัสสาวะ อุจจาระใดๆ แต่ลูกศิษย์เชื่อกันเอง กินกันเอง
สำหรับลัทธิประหลาดนี้ สาวกลัทธิเชื่อว่านำสิ่งที่มาจากพระบิดามากินเป็นโอสถ หรือเป็นยารักษาโรค โดยกินทั้งเหงื่อไคล ขี้ไคล ปัสสาวะ อุจจาระ น้ำลาย เสมหะ รวมทั้งก้นบุหรี่ วิธีการนอกจากดื่ม-กินแล้ว ยังเอามาพอกทาตามตัว หรือเอามาล้างหน้า เอามาอาบด้วย
เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาบุกรุกที่สาธารณะ ส่วนวันนี้แจ้งเพิ่ม สรุปแล้วแจ้งไป 3 ข้อหา คือ บุกรุกป่า บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค จากการไม่สวมหน้ากากอนามัย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย วันนี้มีการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่แล้ว และห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในพื้นที่
สธ.ห่วงคนที่กินปัสสาวะ-อุจจาระ วอนไปพบแพทย์
ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีลัทธิประหลาดกินปัสสาวะ-อุจจาระรักษาโรคว่า ขอตอบในหลักวิทยาศาสตร์ว่าปกติในอุจจาระ ปัสสาวะ ร่างกายของคนเรา เป็นของเสียที่ถูกขับออกมา ในอุจจาระมีเชื้อโรค แบคทีเรีย มีพยาธิ เชื้อรา แม้ปัสสาวะจะเป็นการกรองจากร่างกาย แต่ไม่สมควรรับประทานอยู่ดี ปกติคนที่มีโรคหรือมีการติดเชื้อทางเดินทางอาหาร การรับประทานอุจจาระสามารถได้รับเชื้อโรคจากอุจจาระได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่รับประทานทั้งอุจจาระ ปัสสาวะ เสมหะ หรือหนองเข้าไปแล้วรู้ผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการตรวจ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่สมควรบริโภค
จิตแพทย์ชี้ความเชื่อลัทธิกินปัสสาวะเข้าข่ายงมงาย แนะรัฐดูแล
ด้าน นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ความเชื่อในการกินอุจจาระ-ปัสสาวะ เป็นความเชื่อที่ขาดหลักเหตุผล เข้าข่ายงมงาย สาเหตุเกิดจากคนมี 3 ภาวะ คือ 1.มีความทุกข์มาก 2.วัฒนธรรมความเชื่อเฉพาะถิ่น มีไสยศาสตร์มาเกี่ยวข้อง และ 3.อิทธิพลจากเพื่อนหรือคนรอบข้างเป็นแรงเสริม ถ้ามี 3 อย่างนี้จะถือว่าเป็นความเชื่อที่เป็นความงมงายที่รุนแรง ยิ่งมีการรวมกลุ่มกันยิ่งเป็นการเสริมความเชื่อซึ่งกันและกัน วิธีการสลายความเชื่อนี้ต้องมีการสลายกลุ่ม เจ้าหน้าที่รัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือดูแล
สำหรับความเชื่อที่งมงายแบบนี้มีความหลงผิดเข้ามามีส่วนร่วม โดยอาจเป็นคนที่หลอกให้เชื่อ หรือคนที่ถูกหลอกก็มีความหลงผิด ดังนั้น เมื่อรัฐเข้ามาจัดการก็อาจนำคนเหล่านี้มาบำบัดรักษาได้ แต่หากไม่แล้ว โดยปกติคนเหล่านี้ไม่ได้ก่อเรื่องเดือดร้อนรำคาญ ก็จะไม่ถูกจับหรือนำตัวเข้ามาบำบัดรักษา หากมองเรื่องนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่จะได้นำเข้าสู่กระบวนการรักษา
“วิษณุ” ชี้ตรวจสอบลัทธิกินปัสสาวะได้
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พูดถึงกรณีที่เกิดลัทธิความเชื่อนี้ แม้จะเป็นเรื่องความเชื่อ แต่หากเป็นความเชื่อแล้วทำให้เกิดอันตรายก็สามารถดำเนินการตรวจสอบได้ ส่วนตัวยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้.-สำนักข่าวไทย