สสจ.ภูเก็ตชี้เคสเด็ก 12 ตาบอดไม่ได้เกิดจากวัคซีน

ภูเก็ต 9 พ.ค.- สสจ.ภูเก็ต ร่วมกับทีมแพทย์ แถลงข้อเท็จจริงกรณีปู่ย่าเด็กอายุ 12 ปี ร้องผ่านสื่อมวลชนว่า หลานชายได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนยี่ห้อหนึ่งจนทำให้ตาบอดไม่สามารถมองเห็น ซึ่งข้อสรุปของทีมแพทย์เผยมาจากไซนัสอักเสบเฉียบพลัน ไม่ได้เกิดจากวัคซีน 


กรณีปู่ย่าเด็กอายุ 12 ปี ในพื้นที่ ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า หลานชายได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนยี่ห้อหนึ่งจนทำให้ตาบอดไม่สามารถมองเห็น กลับไปเรียนหนังสือไม่ได้ ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐเข้าช่วยเหลือ เพราะครอบครัวมีฐานะลำบาก

ล่าสุดวันนี้ (9 พ.ค. 65) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายแพทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต พร้อมทีมแพทย์ที่ทำการรักษา ร่วมกันแถลงข้อเท็จจริงว่าไม่ได้เกิดจากวัคซีน แต่มาจากการเป็นไซนัสอักเสบเฉียบพลัน


ข้อมูลการรักษาที่ รพ.วชิระภูเก็ต วันที่ 6 ธันวาคม 2564 (หลังฉีดวัคซีนไปแล้ว 10 วัน) จนถึงวันที่ 10 มกราคม 2565 มีสรุปการวินิจฉัยโรค 1. ไซนัสอักเสบฉับพลันทุกไซนัส (Acute pansinusitis) จากเชื้อแบคทีเรีย สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) 2. เบ้าตาอักเสบและมีฝีหนองในเบ้าตาด้านขวา (Orbital cellulitis with retrobulbar abscess righteye) จากเชื้อแบคทีเรีย สแตปฟีโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) 3. เยื่อหุ้มสมอง และเนื้อสมองอักเสบ (Meningoencephalitis) จากเชื้อแบคทีเรีย สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) 4. กระดูกรอบๆ โพรงไซนัส และกระดูกรอบเบ้าตาอักเสบ (Osteomyelitis of orbital bone) และ  5. ภาวะอุดตันของแอ่งเลือดดำบริเวณฐานกะโหลก (Cavernous sinus thrombosis)

สำหรับสรุปการรักษาในโรงพยาบาล

1. ให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียทางหลอดเลือดดำที่ครอบคลุมเชื้อสแตปฟิโลคอกศัส ออเรียส ร่วมกับยาฆ่าเชื้อแบคที่เรียชนิดหยอดตา และให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดรับประทานต่อที่บ้าน


2. การรักษา โดยวิธีผ่าตัด 

– ผ่าตัดไซนัสโดยวิธีการส่องกล้อง วันที่ 7 ธันวาคม 2564 

– ผ่าตัดเพื่อระบายหนองในเบ้าตา วันที่ 10 ธันวาคม 2564 

– ผ่าตัดไซนัส โดยวิธีการส่องกล้องครั้งที่ 2 วันที่ 7 มกราคม 2565 เพื่อติดตามอาการ และตัดพังผืดในโพรงไซนัส ให้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ตามมาตรฐานการรักษาภาวะอุดตันของแอ่งเลือดดำบริเวณฐานกะโหลก และมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิดในหอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม เมื่ออาการคงที่แล้ว จึงย้ายมาหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม

นพ.คงกฤช กาญจนไพศิษฐ์  แพทย์ หู คอ จมูก โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่าสาเหตุที่ทำให้ตาบอด เกิดจากโรคไซนัสเฉียบพลัน โดยการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส โดยได้ผลการยืนยันจากการตรวจของการนำเชื้อจากเบ้าตา ฐานกะโหลก และไขสันหลังไปตรวจพบเชื้อแบคทีเรีย สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส เหมือนกัน หลังจากนี้มีแนวทางการดูแลรักษาฟื้นฟูต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]