ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงจับยาบ้า 1 ล้านเม็ดซุกรถขนแตงโม

เชียงใหม่ 6 พ.ค.-ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ เป็นยาบ้า 1 ล้านเม็ด ซุกซ่อนบนรถขนแตงโม รวบผู้ต้องหา 5 คน โดยมีเป้าหมายนำยาไปส่งต่อที่กรุงเทพฯ

วันนี้ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 5 นำโดยพลตำรวจโท ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือยาบ้า จำนวน 1 ล้านเม็ด ซุกซ่อนอยู่บนรถขนแตงโม โดยกล่าวว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้งหมดเป็นชาวภาคใต้ จับได้ที่ด่านตรวจยาเสพติดแก่งปันเต๊า ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว ของหน่วยสถานีตำรวจภูธร เชียงดาว เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างออกหมายจับอีก 2 คน ซึ่งเป็นชาวเชียงใหม่


โดยเจ้าหน้าที่หน้าด่าน สังเกตเห็นพฤติการณ์ต้องสงสัยของผู้ที่ขับรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีเขียว ทะเบียน บล5437 เชียงใหม่ หลังจากเรียกตรวจว่ามีอาการพิรุธ จึงตรวจปัสสาวะ พบเป็นสีม่วง จากนั้นจึงทำการตรวจค้นรถยนต์ที่ขนแตงโมมาเต็มคัน โดยละเอียด พบยาบ้าประมาณ 1 ล้านเม็ด ซุกซ่อนในกล่องพลาสติก 3 กล่อง โดยมีถุงแตงโมวางทับอยู่ และมีเป้าหมายนำยาเสพติดเข้าไปยังพื้นที่กรุงเทพ เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พร้อมของกลาง และตั้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือยาบ้า ไว้ในครอบครอง เพื่อการค้าโดยผิดกฎหมาย และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าในฐานะฝ่ายปกครอง การจับยาเสพติดรายสำคัญต้องได้รับความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย โดยเฉพาะคนในพื้นที่ ชุมชนต่างๆ ต้องช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตา หากพบบุคคลใดมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมายต้องสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อป้องกันบุตรหลานให้ห่างไกยาเสพติด เพราะยาเสพติดมีโทษร้ายแรงและทำลายประเทศชาติ ซึ่งหากยาเสพติดล็อตนี้ถูกขนไปได้ ก็จะส่งผลเสียเป็นวงกว้าง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย