สุราษฎร์ธานี 5 พ.ค.- ที่ร้านข้าวห่อ 10 บาท ริมถนนพระองค์ดำ บริเวณหน้าศูนย์บริจาคโลหิตแห่งชาติภาค 9 พิษณุโลก มีลูกค้าทั้งขาประจำและขาจร แวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย ด้วยสนนราคาที่ถูก 10 บาท และเมนูกับข้าวหลากหลายร่วม 30 กว่าอย่างในแต่ละวัน
ร้านข้าวห่อ 10 บาท เปิดขายเมื่อกลางปี 2564 โดยคุณเดือนเพ็ญ ชาว ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก แต่ละวันในทุกเช้า 06.00-09.00 น. จะมาตั้งร้านขายด้วยเมนูกับข้าวสารพัดเฉลี่ยวันละ 30 อย่าง อาทิ ผัดกะเพราไก่ ผัดกะเพราหมู ผัดฟักทอง ผัดหน่อไม้ น้ำพริกกะปิ ชะอม ไข่ดาว ไข่เจียว ข้าวต้มปลา น้ำส้ม ส่วนใหญ่ขายห่อละ 10 บาท มีบางเมนูที่ลูกค้าสั่งเป็นกับข้าวใส่ถุงขายถุงละ 10-20 บาท แล้วแต่ลูกค้าต้องการ และทุกเช้าจะมีลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานมาอุดหนุนอย่างไม่ขาดสาย
คุณเดือนเพ็ญ บอกว่าวัตถุดิบหลายชนิดปรับราคาขึ้นทั้งหมู น้ำมันพืช และไข่ไก่ แต่ตนก็ยังขายในราคาเดิม ยิ่งช่วงนี้สินค้าหลายชนิดขึ้นราคา ร้านของตนกลับได้รับการอุดหนุนจากลูกค้าขาประจำไม่ขาดสาย แต่ละวันทำกับข้าวมา 30 อย่าง ขายหมดทุกวัน
สำหรับลูกค้าสนใจอุดหนุนข้าวห่อ 10 บาท ทุกเช้าวันจันทร์-เสาร์ 06.00 -09.00 น. หยุดวันอาทิตย์ ร้านค้าตั้งริมถนนพระองค์ดำใกล้ๆ ศูนย์บริจาคโลหิตภาค 9 พิษณุโลก อ.เมือง จ.พิษณุโลก
ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ “ร้านข้าวแกงคุณยาย 10 บาท” ตั้งอยู่ในซอยข้างโรงแรมเพลิน ชุมชนหนองปรือ ต.ในเมือง อ.เมือง ซึ่งเปิดขายข้าวแกง 10 บาทมานานกว่า 2 ปี ยังยืนหยัดขายราคาเดิมคือ กับข้าวถ้วยละ 10 บาททุกเมนู ข้าวสวยจานละ 10 บาท ตักเองเติมได้ไม่อั้น ถึงแม้ราคาวัตถุดิบจะแพงขึ้นเกือบทุกอย่างก็ตาม โดยแต่ละวันทางร้านจะทำกับข้าว 7–8 เมนู อาทิ หมูและไข่พะโล้ แกงหน่อไม้ใส่ไก่ ไก่กระเทียมพริกไทย หน่อไม้หมูสับ ไก่คั่วตะไคร้ และแหนมผัดไข่ เริ่มเปิดร้านประมาณ 10 โมงเช้าไปจนถึง 1 ทุ่ม วันจันทร์- วันเสาร์ หยุดวันอาทิตย์ ซึ่งนอกจากจะขายข้าวแกง 10 บาทแล้ว ที่ร้านยังมีอาหารตามสั่ง และก๋วยเตี๋ยวในราคาเริ่มต้น จาน/ชามละ 35 บาท ให้ลูกค้าที่พอมีกำลังจ่ายได้เลือกรับประทานอีกด้วย ซึ่งแต่ละวันก็จะมีลูกค้าทั้งนักเรียน นักศึกษา พนักงานส่งสินค้า พนักงานบริษัท ผู้มีอาชีพจ้าง และประชาชนทั่วไป แวะเวียนมารับประทานไม่ขาดสาย
คุณศิริวิมล เจ้าของร้านข้าวแกงคุณยาย 10 บาท บอกว่าทุกวันนี้ที่ราคาข้าวของแพงขึ้นเกือบทุกอย่างก็ยิ่งแทบไม่เหลือกำไร แต่ก็ขายอาหารตามสั่งและก๋วยเตี๋ยวเสริมด้วยทำให้พออยู่ได้ ถึงแม้กำไรจะไม่มากแต่ก็สุขใจที่ได้มีส่วนช่วยเหลือสังคมโดยเฉพาะผู้ที่หาเช้ากินค่ำรายได้น้อย แค่เห็นเขากินอิ่มมีแรงที่จะสู้ต่อตนก็ดีใจแล้ว บางวันนักเรียนมีเงินมาไม่พอตนก็ให้กินไปก่อนแล้วค่อยมาจ่ายทีหลัง เพราะคิดว่าลูกค้าเหมือนคนในครอบครัวเราพึ่งเขาๆ ก็พึ่งเรา
หลังเกิดสถานการณ์โควิดระบาดก็ทำให้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง ได้เห็นถึงสัจธรรมชีวิตว่า แค่ตื่นขึ้นมายังมีลมหายใจได้เห็นหน้าครอบครัวหรือคนที่รักก็ดีใจแล้ว ชีวิตนี้ไม่ต้องหวังร่ำรวยเพราะตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ ทุกวันนี้มีแรงทำมาหากินได้อยู่กับครอบครัวและมีส่วนช่วยเหลือสังคมบ้างก็สุขใจแล้ว.-สำนักข่าวไทย