โจรควงมีดบุกจี้ชิงทองคนดูแลร้านซักผ้าหยอดเหรียญกลางเมืองระยอง

ระยอง 5 พ.ค. – โจรควงมีดบุกจี้ชิงสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท ของคนดูแลร้านซักผ้าหยอดเหรียญ กลางเมืองระยอง ก่อนหลบหนีลอยนวล


กล้องวงจรปิดจับภาพชายสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ มือถือมีดปลายแหลม บุกเข้าไปในร้าน otteri wash&dry หมู่ 2 ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ก่อนเดินปรี่ไปหานางสำรอง อายุ 54 ปี คนดูแลร้านซักผ้าหยอดเหรียญ ซึ่งเวลานั้นอยู่ในร้านคนเดียว พร้อมชักมีดปลายแหลมจี้บังคับชิงเอาสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท ของนางสำรองที่สวมอยู่ที่คอ ก่อนวิ่งออกจากร้านไปขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งเหตุจึงเดินทางไปสอบสวน พร้อมวิทยุประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจในพื้นที่ใกล้เคียงสกัดจับคนร้ายทันทีตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี แต่จนถึงขณะนี้ยังไร้วี่แวว ไม่พบเบาะแสคนร้ายแต่อย่างใด


นางสำรอง เล่าว่า ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ ตนอยู่ในร้านเพียงลำพัง จู่ๆ คนร้ายซึ่งเป็นผู้ชายรูปร่างสันทัด สูงประมาณ 165 เซนติเมตร สวมหมวกกันน็อกเต็มใบปิดบังใบหน้าจนมองไม่เห็น ใส่เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว เดินปรี่เข้ามาหา พร้อมทั้งชักอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 5 นิ้ว ออกมา และบอกให้อยู่เฉยๆ ห้ามโวยวาย ก่อนจะจี้บังคับให้ถอดสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท ที่สวมใส่อยู่ ด้วยความกลัวจึงรีบถอดให้ หลังจากนั้นคนร้ายเดินออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์สีแดงที่จอดอยู่ข้างร้าน ขี่ออกไปตามเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่ถนนเลียบชายหาดแสงจันทร์

อย่างไรก็ดี เวลานี้ชาวบ้านในพื้นที่ตัวเมืองระยอง ต่างหวาดผวาในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะที่ผ่านมามักเกิดเหตุลักทรัพย์และจี้ชิงทรัพย์บ่อยครั้ง และคนร้ายสามารถหนีไปได้ทุกครั้ง จึงต้องการให้ตำรวจกวดขันตรวจตรา เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย