“ตอง” เผยสัมพันธ์ทิดกาโตะ ลั่นฟังธรรมแล้วรู้สึกดี

นครศรีธรรมราช 2 พ.ค. – ร้อนยิ่งกว่าอากาศ คือ ข่าวฉาวในวงการผ้าเหลือง ภายหลังพระกาโตะ ยอมสึกกลางดึกแก้เกมคลิปเสียงปริศนาคุยสีกาตอง และวันนี้ “ตอง” ออกมายืนยันชัดหลายเรื่อง ทั้งบอกว่าป่วยไบโพลาร์จริง มีสัมพันธ์อดีตพระกาโตะจริง ส่วนพระกาโตะ ไม่ปฏิเสธสัมพันธ์ แต่อ้างถูกยั่ว และขู่เอาเงิน


กรณีนายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีตพระกาโตะ ที่ตกเป็นข่าวฉาวกรณีมีคลิปเสียงคนเหมือน สนทนากับสีกาตอง ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่ต่อมาพระกาโตะ ตัดสินใจย่องไปสึกกับพระอุปัชฌากลางดึก แม้สีกาตองจะออกมาให้ข้อมูลใหม่อ้างว่าเป็นไบโพลาร์ ให้ข้อมูลเท็จ ขอโทษที่ทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย ส่วนพระย้อยพระลูกวัดหน้าพระลาน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ที่เอาคลิปมาเปิดเผยกลับถูกเจ้าอาวาสไล่ออกจากวัด แต่สุดท้ายได้รับความเมตตาให้จำวัดต่อ แต่พระอุปัชฌาต้องทำหนังสือรับรองเพื่อคุมประพฤติไม่ทำให้วัดเสื่อมเสียอีก

ล่าสุดวันนี้ “ตอง” สาวในคลิปเสียง ออกมาเปิดใจกับ หมอปลา หรือนายจีรพันธ์ เพชรขาว โดยเล่าแบบหมดเปลือกว่า ไปวัดที่ทิดกาโตะบวชครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มกราคม เพราะต้องการไปทำบุญตามปกติกับคุณแม่ เพราะวัดอยู่ใกล้บ้าน แต่ก่อนหน้าก็ติดตามทิดกาโตะผ่าน IG มาตลอด เพราะชื่นชอบเกี่ยวกับคำคมธรรมะ พร้อมยอมรับ ป่วยเป็นโรคทางจิตเวช หรือ ไบโพลาร์ จริง มีหลักฐานการรักษาที่ชัดเจน ที่ผ่านมาต้องกินยาเยอะมาก แต่การได้ฟังธรรมะของทิดกาโตะทำให้รู้สึกดี และเมื่อไปเจอกันครั้งแรกก็ได้แอดไลน์คุยกัน เพื่อไว้นัด และเวลามาทำบุญที่วัด จากนั้นก็ได้คุยกันผ่านไลน์มาตลอด


ส่วนที่ไปมีสัมพันธ์กับทิดกาโตะบนรถ เกิดจากช่วงนั้นทิดกาโตะไลน์มาคุย บ่นว่า ไปนั่งเทศน์นาน ปวดเมื่อยเอวมาก อยากให้คนมานวด พอตองถามกลับไปว่า หากมีหมอนวดผู้หญิง (คนอื่น) มานวดแบบนี้จะบาปไหม ทิดกาโตะ บอกว่า ไม่บาป เพราะเรามีเจตนาดี เพื่อที่จะช่วยพระให้หายจากการปวดเมื่อย จากนั้นมีการนัดแนะให้มารับที่วัดช่วงกลางคืน หลังขับรถออกไปด้วยกัน ตองพยายามถามว่า การมาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 แบบนี้บาปหรือไม่ ทิดกาโตะยืนยันว่า “ไม่บาป” แต่พอไปถึงบริเวณสันเขื่อนกะทูน จุดที่ทิดกาโตะบอกอยากไป และเป็นจุดเกิดเหตุ ตองก็เริ่มนวด กระทั่งเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น

ตอง บอกว่า ยอมรับว่ามีส่วนผิดที่ทำเรื่องแบบนี้ แต่ยืนยันว่า ที่ทำไปไม่ได้หมายความว่า พาทิดกาโตะไปทำผิด โดยที่ทิดกาโตะไร้เดียงสา เพราะไม่ได้มีสัมพันธ์กันครั้งเดียว ส่วนก่อนหน้านี้ที่ออกมาบอกว่า ป่วยไบโพลาร์ และกุเรื่องขึ้น ยอมรับผิด ที่ทำให้ทิดกาโตะ เป็นเพราะกระแสสังคมทำให้เครียด และถูกพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งติดต่อมากดดัน โดยอ้างจะเป็นตัวกลางช่วยแก้ปัญหา พร้อมให้คำแนะนำว่าให้ไปพูดกับสื่อในลักษณะนี้ จะทำให้เรื่องจบด้วยดี ส่วนพ่อของทิดกาโตะก็ติดต่อมาบอกว่าจะมอบเงินให้ตอง 300,000 บาท แลกกับการจบเรื่อง

ด้านทิดกาโตะ ไม่ยอมถูกพาดพิงฝ่ายเดียว โดยโต้กลับว่า วันที่เกิดเรื่องในรถ พาตองไปเขื่อนกะทูนตอน 4 ทุ่มจริง แต่ทำไปเพราะผู้หญิงเค้ายั่ว เค้าเย้า ตั้งแต่รอบแรกก็โดนบังคับขู่เอาเงิน เพื่อที่จะไปต่อในรอบอื่นตลอด แม้จะบอกไปว่า มีหนี้ ผู้หญิงก็ไม่ยอม เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย บอกว่าต้องใช้เงิน ให้โอนเงินให้ตลอด ย้ำว่า ตอนนั้นยังเด็ก ยับยั้งไม่อยู่ พลาดเพราะมีสิ่งยั่วยุ ครั้งที่ 2 ก็ปฏิเสธทุกอย่าง แต่รู้ว่าถูกแบล็กเมล์แล้ว มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้หญิงบอกว่า ขาดเงิน 30,000 บาท แต่ปรากฏไม่จบ ยังขออีก 40,000 บาท ตัวเองก็ยอมให้ ยืนยันซ้ำๆ ยอมรับว่าพลาด แถมพอเรื่องรู้ถึงหมอปลา ผู้หญิงก็บอกว่าถ้าอยากให้จบให้โอนเงินมาอีก 100,000 บาท ซึ่งสุดท้ายโอนไปให้เรื่องก็ยังไม่จบ สุดท้าย ทิดกาโตะ ยืนยัน ไม่ได้หลงรัก แต่คึกคะนอง และเงินที่ให้ผู้หญิงไม่ใช่เงินวัด แต่เป็นเงินส่วนตัวที่ได้มาจากการเทศน์ และเรื่องสึกตั้งใจว่าจะสึกไว้นานแล้ว แต่ที่เตรียมไว้คือปลายปีนี้ แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว


ด้านตองพอได้ฟังประเด็นแบล็กเมล์ ยืนยัน ไม่ได้แบล็กเมล์ แต่เป็นการคบกันคุยกันของคน 2 คน ความสัมพันธ์เป็นเรื่องของสามีภรรยาไปแล้วก็ต้องพูดกันตรงๆ ไม่ได้ขู่ และประเด็นแค่นี้ว่าร้อนแล้ว ยังมีเรื่องสื่อท้องถิ่นรับเงิน 300,000 ด้วย เพราะจู่ๆ ตองและทิดกาโตะก็อ้างขึ้นมาว่า ได้จ่ายเงินให้กับนักข่าวในท้องถิ่น โดยทิดกาโตะจ่าย 3 แสนบาท เพื่อแลกกับการปิดข่าว ส่วนตองให้อีก 3 แสนบาท รวมเป็น 6 แสนบาท แต่สุดท้ายข่าวก็ยังออกมา ทำให้เรื่องนี้ต้องติดตามกันอีกยาว ๆ ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

แต่ที่แน่ๆ ทิดกาโตะ โพสต์เฟซบุ๊ก “ผมขอยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพราะด้วยการขาดความยับยั้งชั่งใจ และความคึกคะนองของผม วันนี้ผมต้องขอยุติการเป็นพระนักเทศน์ ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หลังจากนี้ไปผมจะหาคอนเทนต์ เรื่องราวดีๆ เรื่องตลกๆ ที่จะสร้างรอยยิ้มให้กับทุกท่านๆที่ติดตามผม ผมจะไม่ทิ้งแฟนคลับไปไหน ผมขอขอบคุณทุกๆท่านที่รักผมนะครับ #พี่หลวงกาโตะ”

และไม่พูดถึงไม่ได้ กับความคิดเห็นของพระพยอม เพราะวันนี้ หมอปลาเดินทางไปวัดสวนแก้ว กราบนมัสการพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เพื่อปรึกษาและขอคำแนะนำเรื่องทิดกาโตะ ที่ตอนนี้หลังจากสึกไปแล้ว แต่ยังมีพระผู้ใหญ่ยังคอยให้การช่วยเหลือ พร้อมถามว่าแบบนี้พระผู้ใหญ่จะมีความผิดด้วยหรือไม่ พร้อมทั้งอยากให้พระพยอมหันมาช่วยกันปราบพระที่ปฏิบัติตัวนอกลู่นอกทาง ซึ่งเชื่อว่ายังมีอยู่อีกมาก .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย