ออกหมายจับหนุ่มหึงโหดใช้ปืนยิงอดีตภรรยาดับ

กาฬสินธุ์ 2 พ.ค. – ออกหมายจับแล้ว หนุ่มหึงโหดย่องใช้ปืนส่องหน้าต่าง ยิงอดีตภรรยาเสียชีวิตคาบ้านพัก ญาติแฉประวัติเป็นนักล่า ชอบใช้ปืนไล่ยิงสัตว์ ขณะที่ยุติธรรมจังหวัดยื่นมือช่วยลูกกำพร้า วัย 5 ขวบ และ 2 ขวบ


ความคืบหน้ากรณีคนร้ายย่องเข้าหลังบ้านของ น.ส.พัชรินทร์ เชื้อบุญมี อายุ 21 ปี ก่อนใช้ปืนซุ่มยิงบริเวณช่องหน้าต่าง ทำให้ น.ส.พัชรินทร์ ถูกยิงศีรษะเสียชีวิตคาบ้านพัก ในพื้นที่บ้านดงน้อย อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เหตุเกิดช่วง 02.00 น. วันที่ 30 เมษายน 2565 โดยตำรวจคาดว่า มือปืน คือ นายไพโรจน์ ชิตุพา อดีตสามีของผู้เสียชีวิต เนื่องจากชาวบ้านและญาติให้ข้อมูลตรงกันว่า นายไพโรจน์ ถูกคนในครอบครัวและญาติๆ สั่งให้แยกกันอยู่กับผู้เสียชีวิต เนื่องจากแม้จะอยู่ด้วยกัน แต่นายไพโรจน์ก็ไม่ค่อยดูแลภรรยา ทั้งที่มีลูกชายด้วยกัน 2 คน อายุ 5 ขวบ และ 2 ขวบ

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่แยกกันอยู่ 3-4 เดือน นายไพโรจน์ เพียรพยายามแวะมาหาผู้เสียชีวิต และพยายามเข้ามาในบ้าน แต่ถูกกีดกัน เพราะพฤติกรรมยังไม่ดีขึ้น คาดว่านายไพโรจน์อาจเครียด และหึงหวงอดีตภรรยา ทำให้ตัดสินใจก่อเหตุ ซึ่งในคืนวันเกิดเหตุนั้น ญาติผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า ได้ยินเสียงดังปังออกมาจากห้องของผู้เสียชีวิต ตอนแรกนึกว่าเสียงแมวกระโดด แล้วทำสิ่งของตกหล่น แต่พอส่งเสียงดังไล่ กลับไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก ด้วยความเอะใจ จึงตะโกนเรียกผู้เสียชีวิต แต่เสียงก็ยังเงียบอยู่ จึงตัดสินใจพังประตูเข้าไป พบนางพัชรินทร์ ถูกยิงเสียชีวิตคาห้องนอน พร้อมย้ำว่า ก่อนจะได้ยินเสียงปัง ได้ยินเสียงนางพัชรินทร์ คุยโทรศัพท์เสียงดังเหมือนทะเลาะกับปลายสาย และคาดว่าปลายสายคืออดีตสามีที่คอยตามหึงอยู่บ่อยครั้ง


ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาด ได้นำเอกสารหลักฐานขอศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ออกหมายจับนายไพโรจน์ ชิตุพา ผู้ต้องหา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังลงพื้นที่ติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี คาดว่าจะสามารถจับตัวได้ในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ คนที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ ลูกเล็กๆ 2 คน ของนายไพโรจน์ และ น.ส.พัชรินทร์ ซึ่งนายอนันท์ คำแหงพล กำนัน ต.หนองอิเฒ่า กำนันในพื้นที่ บอกว่า คดีนี้สร้างความเศร้าสลดและสะเทือนใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยมีคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญแบบนี้ในพื้นที่ โดยเฉพาะคนก่อเหตุเป็นสามี เป็นพ่อของลูก และมาทำแบบนี้ ทำให้ลูก 2 คน ต้องกำพร้าทั้งพ่อทั้งแม่ และอาจต้องเป็นยายและญาติพี่น้องที่ต้องเลี้ยงดูกันต่อไป อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดูแลเป็นไปได้อย่างดีที่สุด ได้ประสานยุติธรรมจังหวัดเข้ามาให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว

ขณะที่นายอุบล พิมพ์พงษ์ ลุงของผู้เสียชีวิต ได้ออกมาแฉพฤติการณ์ของนายไพโรจน์ว่า เป็นคนชอบล่าสัตว์ มักใช้ปืนประดิษฐ์ยิงที่หัวหนูนา หัวปลา ซึ่งถือเป็นความถนัด และเป็นพฤติกรรมเคยชิน จึงเชื่อว่าตอนลงมือก่อเหตุยิงอดีตภรรยาเสียชีวิต ไม่ได้คิดอะไร ทำไปเพราะความเคยชิน


ด้านป้าของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลเพิ่มว่า นายไพโรจน์ เคยมีครอบครัวมาก่อน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ยอมรับครอบครัวทำใจไม่ได้ และจะไม่ยอมอโหสิกรรมให้แน่นอน อยากให้กระบวนการยุติธรรมลงโทษขั้นสูงสุดกับนายไพโรจน์ เพื่อที่ น.ส.พัชรินทร์ จะได้ตายตาหลับ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ บุกตรวจโกดังเก็บพลาสติกไฟไหม้สมุทรสาคร

“ทีมสุดซอย” ขยายผลตรวจโรงงานรีไซเคิลพลาสติกเถื่อนสมุทรสาคร ที่เกิดเหตุไฟไหม้ พบเปลือกหุ้มสายไฟหลอมเป็นเม็ดพลาสติก มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท อุตสาหกรรมจังหวัดฯ สั่งหยุดกิจการทันที พร้อมยึดใบอนุญาต ฟันข้อหาตั้ง-ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต

สนาม อบจ.ภูเก็ต แข่งขันเดือด คนทยอยใช้สิทธิ

ชาวภูเก็ตทยอยเข้าคูหาเลือกตั้ง อบจ. หลายฝ่ายจับตามองเป็นพิเศษ เพราะการแข่งขันดุเดือด ขณะที่ กกต. ตั้งเป้าผู้ใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 65