นราธิวาส 21 เม.ย. – อธิบดีกรมการปกครอง สั่งเด้งนายอำเภอรือเสาะ ช่วยราชการที่กรมการปกครอง หลังชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร้องเรียนถึงพฤติกรรม
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการช่วยราชการ คำสั่งกรมการปกครอง ที่ 751/2565 เรื่องให้ข้าราชการช่วยราชการ เพื่อประโยชน์ของทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 จึงให้นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ ตำแหน่งนายอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ช่วยราชการที่กรมการปกครอง โดยมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ที่วิทยาลัยการปกครอง เป็นการประจำ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2565 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 21 เมษายน 2565 ลงนามโดยนายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ทางชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้มีหนังสือร้องเรียนไปยังกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ถึงพฤติกรรมของนายอำเภอคนนี้ โดยในหนังสือระบุว่า ด้วยทางภาคประชาชนในพื้นที่ อ.รือเสาะ ได้มีการร้องเรียนมายังกระทรวงทหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ถึงพฤติการณ์ที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ประกอบกับวินัยข้าราชการพลเรือนอันไม่เหมาะสม มีดังนี้
ข้อ 1 มีพฤติกรรมปลุกปั่นปลุกระดมกำนันผู้ใหญ่บ้านชวนขับไล่ ผอ.สสจ.นราธิวาส และชักอาวุธปืนข่มขู่ต่อหน้าเพื่อนข้าราชการในขณะปฏิบัติหน้าที่
ข้อ 2 มีพฤติกรรมเชิงชู้สาวภายในที่ว่าการอำเภอ จนทำให้หญิงสาวรายหนึ่งต้องยื่นใบลาออกจากครูบัณฑิตอาสา เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของครอบครัว
ข้อ 3 ขาดการใส่ใจและตรวจสอบดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา เช่น กรณีนายแมแย แซะเลาะ กำนัน ต.สามัคคี ได้ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดจนบาดเจ็บสาหัสเกือบถึงแก่ชีวิต รวมถึงคดียิงผู้ใหญ่บ้านโคกสะตอ ไม่ได้รับการดูแลเยียวยาจากนายอำเภอรือเสาะ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ เนื่องจากบุคคลดังกล่าวนับถือศาสนาอิสลาม จึงเป็นที่รังเกียจและเป็นปรปักษ์ของท่าน จนทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหมดขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้งานราชการเสื่อมถอยลง
ข้อ 4 มีการข่มขู่ผู้นำศาสนาในพื้นที่ กรณีบุคคลที่ไม่เข้ารับวัคซีนโควิด-19 โดยวิธีการที่รุนแรง และกระทบต่อความรู้สึก ซึ่งไม่เคยปรากฏในพื้นที่ ตลอดจนประชาชนเกิดความหวาดกลัวในพฤติกรรมที่ปรากฏ
ข้อ 5 มีพฤติกรรมส่วนได้ส่วนเสียในโครงการต่างๆ ในพื้นที่ อันผิดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ
ข้อ 6 แสดงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมต่อวินัยราชการ โดยใช้วาจาหยาบคายและไม่สุภาพต่อประชาชนผู้ใช้บริการของรัฐ
ข้อ 7 มีการสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด ทำการล็อกประตูมัสยิดกลางรือเสาะ ในขณะที่ผู้นำศาสนาและบุคคลในศาสนิกกำลังประกอบกิจทางศาสนา โดยไม่มีการแจ้งเตือน จนเกิดการขัดแย้งระหว่างผู้นำศาสนาและประชาชนกับนายอำเภอรือเสาะ
ดังนั้น จึงให้นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอรือเสาะ ชี้แจงต่อสาธารณชนชาวรือเสาะในข้อประเด็นปัญหาข้างต้นต่อไป. – สำนักข่าวไทย