คนร้ายควงปืนจี้ชิงทอง 13 บาท กลางห้างดังปัตตานี

ปัตตานี 18 เม.ย. – คนร้ายอุกอาจใช้อาวุธปืนจี้ชิงทองที่ร้านทองกลางห้างดังเมืองปัตตานี ได้ทองรูปพรรณไปกว่า 13 บาท ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งติดตามไล่ล่า


เมื่อเวลา 18.15 น. วันนี้ (18 เม.ย.65) พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง ซึ่งอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ปัตตานี และได้ทองรูปพรรณไปด้วย จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งวิทยุด่วนให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนกระจายกำลังเร่งติดตามตัวคนร้าย

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบภายในร้านทองดังกล่าว พร้อมชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บลายนิ้วมือของคนร้าย โดยทางห้างสรรพสินค้าไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปทำข่าวในที่เกิดเหตุ


พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เบื้องต้นคนร้ายมีจำนวน 1 คน เป็นชายอายุประมาณ 35-40 ปี ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ใส่ชุดสีดำ สวมหมวกมีปีกด้านข้าง และใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า มีกระเป๋าอยู่ด้านหน้า เข้ามานั่งในร้านเพื่อรอเวลา เมื่อได้โอกาสจึงชักปืนออกมา และเดินเข้าไปยังแผงทองที่กระจกติดผนัง แล้วดึงออกมา 1 แผง ซึ่งเป็นแผงสร้อยคอทองคำหนัก 1.50 บาท คว้าทองไป 10 เส้น แต่หล่นที่พื้น 1 เส้น จึงได้ไปเพียง 9 เส้น น้ำหนักรวมประมาณ 13.50 บาท ตำรวจตรวจสอบลายนิ้วมือและกล้องวงจรปิด มีความคืบหน้ามากพอสมควร เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายมีเพียงคนเดียว แต่อาจมีผู้สมรู้ร่วมคิดเพิ่มก็ได้

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า คนร้ายทำทีเข้ามาเป็นลูกค้าที่ร้าน แต่พฤติกรรมของคนร้ายมีการเดินเข้าออกหลายรอบ จนกระทั่งมานั่งอยู่หน้าร้านประมาณ 20 นาที ขณะนั้นมีพนักงานของร้านทองและเจ้าของ รวม 4 คน คนร้ายจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิด เข้าไปข่มขู่พนักงาน และเข้าไปยังแผงทองที่อยู่ด้านหลัง แล้วหยิบทองรูปพรรณเป็นสร้อยคอ 9 เส้น น้ำหนักรวม 13.50 บาท ก่อนจะเดินออกจากร้านอย่างใจเย็น แต่มีพนักงานของห้างฯ เห็นและวิ่งไล่ตามคนร้าย คนร้ายจึงวิ่งออกจากประตูห้างฯ โดยพนักงานได้ดึงทองออกจากมือคนร้าย จนคนร้ายล้มลง คนร้ายจึงเล็งอาวุธปืนไปยังพนักงานคนดังกล่าว เพื่อขู่ไม่ให้ตามมา ก่อนจะวิ่งไปยังโรงจอดรถจักรยานยนต์ และขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีเขียว หลบหนีไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก