นครนายก 13 เม.ย. – เด็กวัดสุดแสบ แอบย่องเข้าศาลาวัดก่อนฉกเงินค่าเช่าที่ดินและเงินตู้บริจาคกว่า 30,000 บาท สุดท้ายขี่ จยย.ไปชนท้ายรถบรรทุกเสียชีวิตคาที่ หลังก่อเหตุได้ไม่ถึงชั่วโมง
เมื่อวานนี้ (12 เม.ย.65) นายกฤษณะ เสมานิตย์ อายุ 42 ปี ไวยาวัจกรวัดดง ตั้งอยู่บนถนนอุดมธานี ต.นครนายก อ.เมือง จ.นครนายก พาผู้สื่อข่าวไปดูภาพจากกล้องจรปิด ซึ่งเผยให้เห็นขโมยแอบเข้ามาในศาลาวัด แล้วใช้ผ้าปิดกล้องวงจรปิด แล้วก่อเหตุขโมยเงินจากตู้บริจาคและเงินค่าเช่าที่ดินของวัด กว่า 30,000 บาท หลบหนีไป จากนั้น นายกฤษณะ พาผู้สื่อข่าวไปดูที่ศาลาข้างโบสถ์ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายเครื่องบูชาวัตถุมงคล ด้านหลังศาลาพบว่า บานกระจกถูกงัดออก ส่วนกระเป๋าสีดำซึ่งเก็บเอกสารสัญญาเช่าที่ดินวัด โดยภายในมีเงินเช่าที่ดินเก็บอยู่ ถูกงัดจากมุมด้านขวาฉีกขาด
นายกฤษณะ ไวยาวัจกรวัดดง บอกว่า ตนเป็นคนดูแลวัดและศาลาที่คนร้ายมาลอบก่อเหตุในช่วงกลางดึก ตนทราบข่าวว่า นายพจน์ เพรชใส อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นเด็กวัด ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีขาว ไปชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ ที่แยกไฟแดงทหารไทย ในเขตเทศบาลเมืองนครนายก ห่างจากวัดดง ประมาณ 4 กิโลเมตร และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตอนนั้นตนนอนไม่หลับ กระทั่งตอนเช้าตนมาเปิดศาลาเพื่อจะเตรียมสถานที่ประกอบพิธีศพให้ นายพจน์ แต่พบว่ากระจกห้องถูกเปิดออกลักษณะคล้ายถูกงัด เมื่อตรวจสอบกระเป๋าซึ่งเก็บเงินค่าเช่าที่ดินวัด พบว่าเงินหายไป 32,000 บาท จากนั้นมาดูตู้บริจาคก็พบว่าถูกงัด โดยภายในตู้มีเงินอยู่ประมาณ 3-4 พันบาท เมื่อมาดูกล้องวงจรปิดก็พบว่า ผู้ก่อเหตุขโมยเงินวัด คือ นายพจน์ ซึ่งแอบเข้ามาจากด้านหลังแล้วมาหยิบกุญก่อนเปิดตู้ที่มีเครื่องบูชา แต่เห็นกล้องวงจรปิดจึงเดินไปหยิบผ้าขี้ริ้วมาปิดกล้อง
ขณะที่ พระครูประโชติ วีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดดง ยืนยันว่า ไม่ติดใจเอาความ และขออโหสิกรรมให้กับ นายพจน์ พร้อมให้นำศพ นายพจน์ มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดได้ เนื่องจากทางครอบครัวไม่มีเงินทองมากมาย ซึ่งเจ้าอาวาสวัด จะช่วยดูแลเรื่องงานศพให้ ส่วนหนึ่งที่ นายพจน์ ประสบเหตุ น่าจะมาจากเวรกรรม เพราะก่อนที่ นายพจน์ จะประสบเหตุเสียชีวิตเพียง 2 วัน ได้เคยพูดกับพระในวัดว่า จะไม่ลักขโมยของวัดนี้ ต่อหน้าท้าวเวสสุวรรณ โดยนายพจน์ก่อเหตุขโมยเงิน เวลา 23.12 น. และประสบอุบัติเหตุ เวลาประมาณ 23.30 น. ของคืนวันเดียวกัน โดยเวลาห่างกันเพียง 15 นาทีเท่านั้น
ด้าน นางประภาศรี เกตุชัยศรี อายุ 42 ปี หลานผู้เสียชีวิต บอกว่า ผู้ตายทำหน้าที่เก็บน้ำแดง เก็บดอกไม้ และกวาดลานวัด ส่วนที่ผู้ตายมาก่อเหตุขโมยเงินวัดนั้น ทางครอบครัวรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้ตายไม่น่าทำแบบนั้น เพราะเงินที่ขโมยไปเป็นเงินวัด พร้อมยืนยันว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ผู้ตายเอาไป ครอบครัวจะนำไปคืนวัดทั้งหมด
มีรายงานเพิ่มเติมว่า นายพจน์ ผู้เสียชีวิต เป็นคนในพื้นที่ โดยเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำมาได้ประมาณ 2 ปีกว่า ที่ผ่านมาทางวัดให้ นายพจน์ มาช่วยงานที่วัด โดยจะให้เงินค่าแรง 50-200 บาท เพื่อให้ได้มีรายได้ไปผ่อนรถ แต่กลับมาก่อเหตุลอบขโมยเงินวัด จนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในที่สุด.-สำนักข่าวไทย