ยโสธร 16 มี.ค. – อดีตพยาบาลวิชาชีพชำนาญการขอความเป็นธรรมให้ลูกชายวัย 42 ปี ดวงตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัดเจน เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตประจำวัน หลังฉีดวัคซีนโควิด
นางสาวธิติสุดา อายุ 62 ปี อดีตพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ขอความเป็นธรรมให้ลูกชายวัย 42 ปี หลังฉีดวัคซีนปรากฏว่าดวงตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัดเจน เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่ได้เคยทำหนังสือร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแล้ว ซึ่งลูกชายมีอาชีพเป็นช่างภาพ กราฟิกและตัดต่อให้กับรายการโทรทัศน์หลายช่องอยู่ในกรุงเทพมหานคร แต่พอโควิดระบาดได้กลับมาอยู่บ้านที่ยโสธร แต่ยังคงยึดอาชีพรับจ้างถ่ายภาพและตัดต่อ ซึ่งเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 64 ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 1 ที่โรงพยาบาลยโสธร แต่พอรุ่งเช้าวันที่ 23 ธันวาคม รู้สึกว่าสายตาเริ่มพร่ามัว มองเห็นไม่ชัดเจน หลายวันต่อมาจึงกลับไปตรวจที่โรงพยาบาลยโสธรอีกครั้ง แพทย์แจ้งว่ามีเลือดออกที่เยื้อหุ้มตา จึงเป็นสาเหตุให้มองเห็นไม่ชัดเจน และในวันที่ 19 มกราคม 65 จึงกลับไปรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ตามนัดของโรงพยาบาล หลังจากฉีดเข็มที่ 2 แล้วยิ่งทำให้สายตาพร่ามัวยิ่งขึ้นจนเกือบมองไม่เห็น
ขณะนี้ลูกชายมองเห็นวัตถุต่างๆ แค่เลือนรางเท่านั้น จนเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ และไม่สามารถดำรงชีวิตประจำวันได้ตามปกติ จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายด้วย.-สำนักข่าวไทย