ส่งกระดูก คดีฆ่ายัดถังที่สุราษฎร์ฯ ตรวจที่ มอ.

สุราษฎร์ธานี 25 มี.ค. – ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีลงพื้นที่ตรวจสอบจุดพบโครงกระดูกมนุษย์และรถจักรยานยนต์ ย้ำรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าเป็นใคร เช้าวันนี้ได้ส่งโครงกระดูกไปตรวจที่ มอ.เพื่อยืนยันว่าเป็นกระดูกมนุษย์หรือไม่


จากกรณีรถแบ็กโฮขุดบ่อน้ำพบโครงกระดูกมีลักษณะคล้ายโครงกระดูกมนุษย์ ซากรถจักรยานยนต์ ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ถูกเจาะรูร้อยโซ่กับเสาปูน ฝังอยู่พื้นที่ บ้านทุ่งเขาโคก หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

เมื่อวานนี้เวลา 17.30 น. (24 มี.ค.65) พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่เกิดเหตุ กล่าวว่า จากหลักฐานที่พบมีทั้งรถจักรยานยนต์ สายไฟ แกลลอนขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงกันกับการก่อเหตุ ตอนนี้ยังรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าเป็นใคร จากการสอบถามเบื้องต้นคิดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะไม่ได้มีการเตรียมการ เพราะจากพยานหลักฐานที่พบน่าจะเป็นหลักฐานที่หาได้ในพื้นที่เกิดเหตุ และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุยังตอบไม่ได้ว่าผู้ก่อเหตุมีกี่คน


ล่าสุด เช้าวันนี้ (25 มี.ค.65) พ.ต.อ.วันชัย ปะลาวัน ผกก.สภ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดทำงานเพื่อเตรียมคลี่คลายคดีนี้ พนักงานสอบสวนได้เชิญตัวนายบุญพัฒน์ เพชรสงค์ เจ้าของสวนและนายกฤษดา เดชเดโช อายุ 28 ปี คนขับรถแบ็กโฮรับจ้างขุดดินมาสอบปากคำ และในส่วนของผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์ได้มอบหมายให้ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีติดตามตั้งแต่เมื่อวานแล้ว และทราบว่าผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์เป็นผู้หญิงอยู่ในพื้นที่ ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ที่ได้ขายรถจักรยานยนต์ให้ชาวเมียนมา

ส่วนโครงกระดูกที่พบทางพนักงานสอบสวนส่งไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) ซึ่งมีความพร้อม เพื่อยืนยันว่าเป็นโครงกระดูกมนุษย์หรือไม่ สำหรับการค้นหาศีรษะ จนถึงขณะนี้ยังไม่พบ และในส่วนของการแจ้งความคนหายเพิ่มเติมก็ไม่มี นอกจากในปี 2559 ที่มีแรงงานเมียนมาที่ชื่อทักษิณหายไป 1 คนเท่านั้น

ขณะที่นายบุญพัฒน์ เพชรสงค์ เจ้าของสวน กล่าวว่า จากการดูโครงกระดูกที่พบเป็นกระดูกชิ้นยาว ๆ เหมือนกับคนรูปร่างสูงใหญ่ ไม่น่าจะใช่นายทักษิณ แรงงานเมียนมาที่หายไป เพราะนายทักษิณรูปร่างเล็ก ส่วนรถจักรยานยนต์ที่นายทักษิณใช้เป็นประจำตนเองจำหมวดอักษรไม่ได้. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่