ทำแผน 7 รุ่นพี่รับน้องโหดชกรุ่นน้องเสียชีวิต จ่อเเจ้งข้อหาเพิ่มรุ่นพี่อีก 25 คน

นครราชสีมา 17 มี.ค.- ตำรวจคุมตัว 7 รุ่นพี่รับน้องโหด ชกหน้าอกรุ่นน้องเสียชีวิตทำแผน พร้อมจ่อแจ้งข้อหาทำให้ขายหน้าต่อธารกำนัล กับรุ่นพี่ปี 2 รวม 25 คน ด้านเจ้าของไร่ที่เตรียมเอาผิดข้อหาบุกรุกพื้นที่ทำกิจกรรมรับน้อง


ความคืบหน้าคดีรุ่นพี่รับน้องโหด ชกหน้าอกน้องเปรม อายุ 19 ปี นักศึกษาปี 1 ปวส.ช่างกลโรงงาน มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา จนเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 13 มีนาคม รุ่นพี่ 7 คน ถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย (น้องเปรมเสียชีวิต) ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ (รุ่นน้องบาดเจ็บ 2 คน) และผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ (มั่วสุมดื่มสุรา)

ล่าสุด พนักงานสอบสวนควบคุมตัว 7 รุ่นพี่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุบริเวณไร่อ้อย บ้านโคกมะกอก ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ห่างจากมหาวิทยาลัยฯ 20 กิโลเมตร ทั้งหมดสารภาพว่ากิจกรรมรับน้อง คืนวันที่ 13 มีนาคม ตั้งแต่ 2 ทุ่ม – เที่ยงคืน โดยรุ่นพี่ 6 คน ผลัดกันชกหน้าอกและหน้าท้องของน้องเปรมคนละ 1 หมัด ส่วนอีกคนสั่งให้คลานปลาหมอ น้องเปรมถูกชกจนหมดสติ ชักเกร็ง จึงพาตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตช่วง 5 ทุ่ม โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาทำแผน 10 นาที ก่อนจะให้ผู้ปกครองพารุ่นพี่ (ผู้ต้องหา) กลับบ้านพัก ตำรวจไม่ได้ควบคุมตัวเอาไว้ เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี


ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มกับกลุ่มรุ่นพี่ชั้นปี 2 ทั้งหมด 25 คน ฐานความผิดทำให้ขายหน้าต่อธารกำนัล กรณีสั่งให้รุ่นน้องถอดเสื้อผ้า เปลือยกายล่อนจ้อนขณะทำกิจกรรมรับน้อง ซึ่งความผิดดังกล่าวรุ่นพี่ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน และกำลังพิจารณาความผิดอื่นๆ อีกเพื่อให้การดำเนินคดีครอบคลุมทุกประเด็น

ด้านนายศรัณย์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 14 บ้านโคกมะกอก เจ้าของไร่อ้อยที่รุ่นพี่พารุ่นน้องไปทำกิจกรรมรับน้อง เผยว่าช่วงค่ำๆ วันเกินเหตุ เห็นกลุ่มนักศึกษาหลายคน นั่งรถกระบะอัดแน่นเข้ามาในพื้นที่ แต่ไม่ทราบว่าไปทำอะไร จนกระทั่งทราบข่าวว่ามีการไปรับน้องในไร่อ้อยพื้นที่ของตน จนมีคนเสียชีวิต ทำให้ตนรู้สึกตกใจมาก พร้อมเผยการที่รุ่นพี่พารุ่นน้องมาทำกิจกรรมรับน้องที่ไร่ของตนเอง ไม่ได้มีการขออนุญาตใช้พื้นที่แต่อย่างใด ตอนนนี้กำลังปรึกษากับญาติว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มรุ่นพี่ข้อหาบุกรุกใช้สถานที่โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างกับคนอื่นต่อไป

จากการตรวจสอบไร่อ้อยที่เกิดเหตุของตำรวจก่อนหน้านี้ พบมีทั้งขวดเหล้า โซดา แก้วพลาสติก กระป๋องเบียร์ ขวดเบียร์ ขวดน้ำดื่ม บุหรี่ไฟฟ้า ซองบุหรี่ ไม้เรียว กล่องยากันยุง ถูกวางกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ ตำรวจจึงเก็บรวบรวมเป็นหลักฐาน ประกอบสำนวนดำเนินคดี


จากการสอบสวน ทราบว่า เป็นกิจกรรมรับน้องหลังสอบเสร็จ ก่อนนี้เคยจัดรับน้องมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 หากใครไม่เข้าร่วมจะไม่ได้รับการยอมรับ การรับน้องครั้งนี้นัดเจอกันภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยฯ ในตัวเมืองโคราช ใช้รถกระบะ 4-5 คัน บรรทุกรุ่นพี่และรุ่นน้องมายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัย 20 กม. มีการวางแผนจัดกิจกรรมอย่างดี ช่วงเวลา 2 ทุ่ม จนถึงเที่ยงคืน แต่เกิดเหตุรุนแรงเวลา 23.00 น. โดยทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้องที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนใหญ่ให้การสอดคล้องกันว่า รุ่นน้องทุกคนเต็มใจไปร่วมกิจกรรม ไม่ใช่การรุมทำร้าย เป็นการเรียงแถวหน้ากระดาน โดยรุ่นพี่บอกให้เกร็งหน้าท้องไว้ ก่อนชกที่หน้าท้อง 1 ครั้ง โดยรุ่นพี่เพิ่งใช้หมัดชกน้องเปรมไป 6 คน ส่วนอีกคนสั่งให้ไถปลาหมอ

ด้านคุณพ่อน้องเปรม เข้าพบตำรวจและเผยว่าได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากแพทย์สถาบันนิติเวช ระบุ สาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย มาจากถูกแรงกระแทกอย่างรุนแรงที่ทรวงอก เป็นไปตามข้อสันนิษฐานว่าลูกชายน่าจะถูกชกที่หน้าอกมากกว่า 1 หมัดอย่างแน่นอน แต่ยังต้องรอการรายงานผลสรุปอย่างเป็นทางการ ที่จะส่งมาให้ทางพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ถึงตอนนี้ยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย ที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกาย อาจเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม แต่ก็ไม่น่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทำให้ต้องสูญเสียลูกชายที่เป็นอนาคตเป็นความหวังของครอบครัว และทราบว่าลูกชายกำลังมีลูกกับแฟนสาว ทางครอบครัวต้องมาดูแลรับผิดชอบอีก ตอนนี้อยากเรียกร้องความรับผิดชอบจากทางมหาวิทยาลัย รวมทั้งกลุ่มรุ่นพี่ที่เป็นต้นเหตุ เพราะต้องสูญเสียลูกชายทั้งคน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]