แจ้งเพิ่ม 2 ข้อหา รุ่นพี่รับน้องโหด

นครราชสีมา 16 มี.ค. – ตำรวจเอาผิดรุ่นพี่โหดเพิ่มอีก 2 ข้อหา ตรวจที่เกิดเหตุพบขวดเหล้า-เบียร์เกลื่อน ขณะที่พฤติกรรมสุดโหดให้รุ่นน้องยืน ก่อนเรียงคิวเดินชกหน้าท้องทีละคน ใครทนไม่ได้จะไม่ได้รับการยอมรับ


ความคืบหน้าคดีรุ่นพี่รับน้องโหด เป็นเหตุให้ “น้องเปรม” อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส. ปี 1 แผนกช่างกลโรงงาน มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นมีการแจ้งข้อหารุ่นพี่ 7 คน ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย “น้องเปรม” จนเสียชีวิต ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย มีการสอบปากคำ รับทราบข้อกล่าวหา และปล่อยตัวไปแล้ว เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี

ล่าสุดวันนี้ (16 มี.ค.) ได้แจ้งข้อหาเพิ่มอีก 2 ข้อหา กับรุ่นพี่ทั้ง 7 คน คือ ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากมีรุ่นน้อง 2 คน ได้รับบาดเจ็บจากการรับน้องครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนได้เก็บรวบรวมหลักฐานวัตถุในที่เกิดเหตุ จุดที่จัดกิจกรรมรับน้อง พบถุงจำนวน 10 ถุง มีทั้งขวดสุรา 3 ยี่ห้อ โซดา แก้วพลาสติก กระป๋องเบียร์ ขวดเบียร์ 2 ยี่ห้อ ขวดน้ำดื่ม บุหรี่ไฟฟ้า ซองบุหรี่ ไม้เรียว กล่องยากันยุง ที่วางกระจัดกระจายอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ พร้อมรวบรวมเอกสารพิมพ์ลายนิ้วมือ นำไปประกอบสำนวนดำเนินคดี


อย่างไรก็ตาม จากแนวทางการสอบสวนพบว่า เป็นกิจกรรมรับน้องหลังสอบเสร็จ ก่อนหน้านี้เคยจัดรับน้องมาแล้ว 2 รอบ ครั้งนี้เป็นรอบที่ 3 หากใครไม่เข้าร่วมกิจกรรมจะไม่ได้รับการยอมรับจากรุ่นพี่และเพื่อนร่วมรุ่น การรับน้องครั้งนี้มีการนัดเจอกันภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยฯ ในตัวเมืองโคราช ใช้รถกระบะ 4-5 คัน ขนรุ่นพี่และรุ่นน้องมายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัย 20 กม. มีการวางแผนจัดกิจกรรมอย่างดี ช่วงเวลา 20.00 น. จนถึงเที่ยงคืน แต่เกิดเหตุรุนแรงตอน 23.00 น. “น้องเปรม” ถูกรุ่นพี่ 6 คน ชกหน้าท้องทีละคน จนหมดสติและเสียชีวิต ลักษณะเป็นรูปแบบการรับน้องที่ต้องใช้พละกำลังแบบลูกผู้ชาย โดยไม่ได้ตั้งใจทำให้ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิต

ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.มะเริง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เตรียมสอบปากคำกลุ่มรุ่นพี่ชั้นปี 2 ที่เหลืออีก 18 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์จัดกิจกรรมรับน้อง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน

ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) ได้สอบปากคำนักศึกษารุ่นพี่ 7 คน และกลุ่มนักศึกษารุ่นน้องปี 1 จำนวน 38 คน ทั้งหมดแล้ว จากแนวทางการสอบสวน ส่วนใหญ่ให้การสอดคล้องกัน เป็นการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมรับน้องนอกรั้วมหาวิทยาลัย ลักษณะไม่ใช่การรุมทำร้าย มีการเปิดโอกาสให้รุ่นพี่ทีละคนใช้สิทธิชกที่หน้าท้องของรุ่นน้องผู้ชายที่ยืนเรียงแถวหน้ากระดาน โดยรุ่นพี่บอกให้เกร็งหน้าท้องไว้ ก่อนชกที่หน้าท้อง 1 ครั้ง โดยมีรุ่นพี่เพิ่งใช้หมัดชกรุ่นน้องไปแค่ 6 คน ส่วนอีกคนไม่ได้ชก แค่สั่งให้รุ่นน้องไถปลาหมอ และมีกำหนดรับน้องตั้งแต่ 20.00 น. สิ้นสุดตอนเที่ยงคืน โดยรุ่นน้องทุกคนเต็มใจไปร่วมกิจกรรม


ส่วนกรณี “น้องเปรม” เสียชีวิต ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เชื่อว่า “น้องเปรม” ถูกรุ่นพี่ 6 คน ชกที่หน้าท้อง ก่อนมีอาการชักเกร็ง แม้รุ่นพี่และเพื่อนๆ พยายามช่วยชีวิต แต่สุดท้าย “น้องเปรม” ทนไม่ไหว เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 กิโลเมตร ตอนนี้ยังรอผลการผ่าชันสูตรที่ฝ่ายนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น