พัทลุง 11 มี.ค.- ผบ.ตร.ลงพื้นที่พัทลุง ประชุมคดีคนร้ายยิงดาบตำรวจเสียชีวิต 1 นาย พร้อมออกหมายจับคนร้ายทั้ง 4 คน โดยเเถลงว่าขณะนี้กำลังตำรวจพัทลุงเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อเนื่อง ขยายผลไปถึงใครก็จะมีการจับกุมโดยทันที ส่วนจะจับเป็นหรือจับตายขึ้นอยู่กับเหตุการณ์และสถานการณ์
กรณีเหตุการณ์คนร้ายกลุ่มของนายจำรัสขัดขืนการจับกุม วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจ ยังคงปฎิบัติการกดดันค้นหาล่าตัวคนร้ายที่ยังหลบหนี นำพ่อและแม่ รวมถึงญาติมาสอบเพิ่ม เพื่อหาเบาะแสที่กบดานของคนร้ายกลุ่มนี้ และเวลา 11.00 น.วันนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ลงพื้นที่ประชุมตำรวจ และแถลงข่าวถึงความคืบหน้าของคดีด้วยตนเอง โดยได้ร่วมประชุมกับชุดทำงานเป็นเวลานาน จนถึงประมาณบ่ายสองโมง ก็ออกมาแถลงข่าวถึงความคืบหน้าของคดี
ส่วนความคืบหน้าปฏิบัติการเช้านี้ ชุดเฉพาะกิจนำพ่อแม่และญาติของนายจำรัส มาสอบปากคำเพิ่มที่กองอำนวยการ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงรัตภูมิ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เพื่อหาเบาะแสที่กบดานของกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ หลังวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ หลังปะทะเจ้าหน้าที่ตำรวจจน 1ในกลุ่มคนร้ายได้รับบาดเจ็บ มาซ่อนไว้กลางสวนปาล์มหมู่ 9 ต.ชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ซึ่งติดกับเชิงเขาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด ซึ่งมีอาณาเขตป่าเชื่อมต่อกับจังหวัดสงขลา พัทลุง สตูล และสงขลา
และในช่วงเวลา 10.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจ นำตัวผู้ต้องหาที่จับกุมตัวไว้ได้ คือนายพงศกร สุวรรมะโน หรือ เจ อายุ 22 ปี ไปชี้จุดทิ้งปืนบริเวณคอกหมูและจุดนำรถกะบะมิตซูบิชิไททัน มาจอดทิ้งไว้ในวันเกิดเหตุหลัง ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณหลังวัดท่าควาย ต.ท่าควาย อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง โดยจุดทิ้งรถอยู่ห่างจากจุดปะทะ ประมาณ 5 กิโลเมตร และหลังจากชี้จุดทิ้งปืน และรถ จึงนำตัวผู้ต้องหารายนี้มาที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง
ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แถลงว่า นอกเหนือจากการออกหมายจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาไป 4 ราย ในข้อหาร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งเป็นข้อหลักแล้ว ยังมีการยึดของกลางในการกระทำความผิด ซึ่งเป็นอาวุธปืนสงคราม 2 กระบอก อาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง ฯลฯ มีการยึดรถยนต์ของกลุ่มผู้ต้องหา จำนวน 4 คัน ขณะนี้กำลังตำรวจพัทลุง กำลังเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ขยายผลไปถึงใครก็จะมีการจับกุมโดยทันที ส่วนจะจับเป็นหรือจับตายขึ้นอยู่กับเหตุการณ์และสถานการณ์ แต่เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องมีอาวุธปืนสงครามที่ร้ายแรง ตร.จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ไม่ว่าการจับเป็นหรือการจับตาย
ในส่วนของวันเกิดเหตุนั้นกลุ่มคนร้ายมีความตั้งใจที่จะยิงต่อสู้กับตำรวจที่เข้าจับกุม สำหรับผู้ต้องหาคนสำคัญนั้นมีประวัติร้ายกาจที่มีประวัติการก่อเหตุร้ายมาหลายคดี มีทั้งคดีฆ่าผู้อื่น คดีขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และเป็นเครือข่ายคดียาเสพติดรายสำคัญของจังหวัดพัทลุงที่มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ในส่วนของการปราบปราม การจับกุมผู้กระทำความผิดนั้นมี 4 กลุ่ม ประกอบด้วย การจัดการกับเครือข่ายขบวนการการค้ายาเสพติด กลุ่มการค้าขายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนสงครามในพื้นที่ และกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง
จากการสอบปากคำนายพงศกร (เจ) สุวรรณมะโณ ทราบว่าจบการศึกษาในระดับมัธยมต้น พยายามศึกษาระดับ ปวช.แต่เรียนไม่จบ ต่อมาได้คบหากับเพื่อนๆและจนเข้าสู่ระบบการค้ายาเสพติดของนายจำรัส โดยเป็นทั้งผู้เสพและผู้ขาย โดยนายจำรัส (ฉุย) จ่ายยาบ้าแทนค่าแรงงานในการปล่อยยาเสพติด โดยนายเจเผยว่าบางวันตนเองเสพยาบ้าที่ได้รับค่าตอบแทนการขายยาบ้าจากนายจำรัสวันละ 20 เม็ด
คนร้ายที่เหลือตอนนี้ ประกอบไปด้วย นายจำรัส หรือ ฉุย เขาจันทร์ นายอัฐพล หรือรวย อายุ 21 ปี เป็นชาว ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ที่ได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้าที่แขนซ้าย ตำรวจคาดว่านายอัฐพล น่าจะออกมาจากที่หลบซ่อน ออกมามอบตัว เนื่องจากรักษาบาดแผล หากทิ้งไว้อาจจะมีการติดเชื้อได้ ประกอบกับผู้เป็นแม่ได้ออกมาขอร้องให้ลูกชาย ออกมามอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย