ประกาศจับ “ฉุย เขาจันทร์” ยิงปะทะ จนท.-ผบ.ตร.สั่งชุดหนุมานลงพื้นที่

พัทลุง 10 มี.ค. – ตำรวจสอบสวนกลางออกประกาศจับ “ฉุย เขาจันทร์” ยิงปะทะเจ้าหน้าที่ที่พัทลุง ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย พร้อมขอความร่วมมือชาวบ้าน ร้านขายยา โรงพยาบาลในพื้นที่สงขลา พัทลุง หากพบคนแปลกหน้าบาดเจ็บในพื้นที่ ให้แจ้งเบาะแสทันที


ตำรวจสอบสวนกลางประกาศลงเฟซบุ๊ก MOST WANTED ประกาศจับนายจำรัส รักจันทร์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง และตามประกาศสืบจับ สตช. ปี 2564 ลำดับที่ 145 ซึ่งเป็นคนร้ายที่หลบหนีการจับกุมของตำรวจ หลังก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตที่ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง หากมีผู้พบเบาะแส แจ้งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ที่ Facebook : ตำรวจสอบสวนกลาง #ยิงปะทะ #เขาชัยสน #ประกาศจับ #ตำรวจสอบสวนกลาง #CIBPolice

ขณะที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้รับรายงานเหตุดังกล่าวแล้ว พร้อมสั่งการให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานลงพื้นที่เพื่อเร่งรัดติดตามคนร้ายรายดังกล่าวให้ได้โดยเร็ว พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการทุกนายให้ปฏิบัติการตามหลักยุทธวิธี อย่าประมาท เพื่อป้องกันการสูญเสีย


ขณะที่การไล่ล่าคนร้ายตั้งแต่ช่วงตี 3 ชุดไล่ล่าไปเจอรถกระบะมิตซูบิชิ ของคนร้ายจอดทิ้งไว้ในป่าสวนยางพารา ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 กม. รถอยู่ในสภาพติดหล่ม และยางระเบิด เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถพบรอยเลือดหลายจุด สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บไปด้วย แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเป็นตัวนายจำรัส รักจันทร์ หรือนายฉุย เขาจันทร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับที่เจ้าหน้าที่ต้องการตัวหรือไม่

จากการสอบถามชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ทราบว่าขณะที่คนร้ายขับรถมาติดหล่มที่ป่าสวนยาง มีรถเก๋งอีกคันขับมารับตัวหลบหนีไป ก่อนนำไปจอดทิ้งไว้ในสวนปาล์มน้ำมัน ริมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ตรวจสอบภายในรถมีร่องรอยเลือดตกอยู่ และใกล้กันพบสำลี ผ้าที่มีรอยเลือด ถูกเผาทิ้งข้างรถ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้หลบหนีขึ้นบนภูเขา ซึ่งทางชุดไล่ล่ากำลังติดตาม พร้อมนำเฮลิคอปเตอร์มาบนสำรวจทางอากาศ เพื่อกดดันผู้ต้องหาทั้ง 3 คน

จากนั้นช่วงบ่าย พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พร้อมด้วย พล.ต.ท.จริภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณสี่แยกท่านางพรหม อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี คาดว่า 1 ในคนร้ายได้รับบาดเจ็บ จึงให้เจ้าหน้าที่เขตรอยต่อระหว่าง จ.พัทลุงและ อ.รัตนภูมิ จ.สงขลา เฝ้าสถานพยาบาลทุกแห่ง และสอดส่องร้านขายยาเวชภัณฑ์ ซึ่งก่อนประชุมนั้น พล.ต.ท.จริภพ ภูริเดช ผบช.ก. ประกาศให้ประชาชนที่พบเห็นบุคคลแปลกหน้าได้รับบาดเจ็บและมีอาวุธปืน ทั้ง 2 พื้นที่รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที


พล.ต.ท.นันทเดช ผบช.ภ.9 กล่าวว่า การไล่ล่ากลุ่มคนร้ายในครั้งนี้แบ่งเป็น 2 ชุด คือ ชุดติดตามจับกุม และชุดดำเนินคดี พร้อมกำชับให้ชุดจับกุมปฏิบัติการด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท พร้อมส่งชุดไล่ล่าที่ผ่านการฝึกลงพื้นที่ติดตามจับกุมแล้ว เน้นย้ำให้ตำรวจเร่งสืบสวนจากกล้องวงจรปิด ร้านขายยาตามพื้นที่ต่างๆ ที่คนร้ายเข้าไปซื้อยา หากประชาชนพบเบาะแสขอให้แจ้งมายัง พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เบอร์ 08 1609 4445 ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ มีการประชุมทางระบบคอนเฟอเรนซ์ไปยังนายตำรวจทุกๆ โรงพักด้วย เพื่อให้ทุกพื้นที่ออกไล่ล่าคนร้าย

ส่วนตำรวจที่ถูกยิงเสียชีวิตนั้น ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะปูนบำเน็จให้กับ ด.ต.อนันต์ มีแสง สังกัดกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ตำรวจนายที่เสียชีวิต 5 ขั้น 4 ชั้นยศ เป็นพันตำรวจตรี พร้อมทั้งมอบเงินสวัสดิการเบื้องต้นเงินจากกองทุนสวัสดิการ จำนวน 500,000 บาท และยังมีเงินสวัสดิการจากส่วนอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง

สำหรับ ด.ต.ชัชชัย ศัญโย ถูกยิงแขนขวาบาดเจ็บ และอีกหนึ่งนายที่บาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วทั้ง 2 นาย สั่งปูนบำเน็จตามสิทธิของกองสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดไว้ รายละ 40,000 บาท

ส่วนกำหนดการสวดอภิธรรมศพ ด.ต.อนันต์ มีแสง ผบ.หมู่ กก.6 บก.ป. เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ในวันพรุ่งนี้ (11 มี.ค.65) เคลื่อนศพ จากนิติเวช รพ.มอ. ประมาณ 08.00 น. ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดโคกสมานคุณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีกำหนดพิธีรดน้ำศพ เวลา 13.00 น. และกำหนดฌาปนกิจศพในวันที่ 17 มี.ค.นี้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันแม่แห่งชาติ

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “พระพันปีหลวง” 12 สิงหาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานองคมนตรีและภริยา คณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง และผู้แทนภาคเอกชน ร่วมพิธี โดยเมื่อนายภูมิธรรม เดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายภูมิธรรม จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายคำนับและถวายธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน […]

เตือนทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง ‘ตะวันออก’ หนักสุด

กทม. 12 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง เตือนภาคตะวันออกรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศจีนในช่วงวันที่ 13 – 14 ส.ค. โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]