พบรถผู้ก่อเหตุยิง ฟันซ้ำในร้านส้มตำ จ.อุบลราชธานี

อุบลราชธานี 2 มี.ค. – ตำรวจรู้ตัวแล้ว แก๊งทวงหนี้โหดยิงฟันซ้ำในร้านส้มตำ จ.อุบลราชธานี พบรถที่ใช้ก่อเหตุมีอุปกรณ์เตรียมอุ้มพร้อม


เหตุอุจอาจที่อุบลราชธานี คนร้าย 2 คน ขับรถไล่ชนนายสัญชัย ที่เข้าไปหลบในร้านขายส้มตำ ก่อนใช้ปืน .22 ยิงเข้าแผ่นหลัง 2 นัด และใช้มีดสับไก่ของร้านฟันซ้ำที่แขนซ้าย แล้วยังลากตัวผู้บาดเจ็บออกมานอกร้าน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ตำรวจพบรถคันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุแล้ว โดยมี รปภ.ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กม. แจ้งตำรวจว่า พบรถมาสด้า 2 สีฟ้า ทะเบียนกรุงเทพฯ จอดติดเครื่องอยู่ลานจอดรถซี 4 คาดเป็นรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ


เจ้าหน้าที่เจ้าตรวจสอบพบบริเวณดวงไฟหน้ารถด้านขวา ตัวถังด้านซ้ายมีรอยเฉี่ยวชน มีคราบเลือด และรอยนิ้วมือจากกลางรถไปถึงท้ายรถ นอกจากนี้ บริเวณที่นั่งเบาะหลัง เจ้าหน้าที่ยังพบเชือกไนลอน พร้อมผ้าปิดตาแบบที่ใช้เวลานอน สภาพใหม่ทิ้งไว้ จึงเก็บหลักฐานลายนิ้วมือพร้อมของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

สำหรับผ้าปิดตา ตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะเตรียมมาใช้มัดและปิดตานายสัญชัย ผู้บาดเจ็บเพื่อจะอุ้มพาตัวไป แต่เนื่องจากนายสัญชัยขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี มาขอความช่วยเหลือจากร้านส้มตำ เมื่อคนร้ายพยายามลากตัวนายสัญชัยออกจากร้านมาที่รถ ก็มีคนมามุงดูเหตุการณ์ ขณะเดียวกันหนึ่งในสองคนร้าย ทำหมวกไอ้โม่งที่สวมอยู่เกิดหลุด อาจเกรงคนจำหน้าได้ จึงรีบพากันขึ้นรถขับหลบหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ

สอบถามคนที่พบรถ เล่าว่า เห็นรถคันนี้แล่นเข้ามาที่ลาดจอดรถเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ของคืนเกิดเหตุ และเมื่อวาน ตนเองมาทำงานก็ยังเห็นรถจอดอยู่ที่เดิม จนบ่าย 3 โมง ก็ยังเห็นจอดอยู่ที่เดิม จึงเริ่มสงสัยขี่รถเข้ามาดูใกล้ๆ พบว่ามีการติดเครื่องยนต์และมีคราบเลือดบริเวณตัวถังรถ จึงแจ้งให้หัวหน้างานทราบและแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ


จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ชื่อผู้ครอบครองรถ เป็นผู้หญิงมีอาชีพชิปปิ้ง มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอสามโคก จ.ปทุมธานี ขณะนี้ยังติดต่อมาให้ปากคำไม่ได้

ด้านชุดสืบสวนเข้าพูดคุยกับนายสัญชัย ที่ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทราบว่า มีอาชีพเป็นชิปปิ้งนำเข้าและส่งออกสินค้าของประเทศกัมพูชา และได้รับส่งสินค้าให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุที่รู้จักกัน แต่ปรากฏว่าลูกน้องของนายสัญชัย ตรวจเช็กสินค้าก่อนส่งไปยังประเทศกัมพูชา พบอาจเป็นของผิดกฎหมาย นายสัญชัยจึงสั่งไม่ให้นำส่ง ทำให้ปลายทางไม่ได้รับสินค้า กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ตามมาทวงถามขอสินค้าคืน หรือให้นำเงินมาชดใช้ตามราคาของสินค้าหลายครั้ง จนกระทั่งกลุ่มผู้ก่อเหตุได้มาเจอนายสัญชัย จึงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี แต่คนร้ายก็ขับรถเก๋งไล่ตามไล่ชน จนต้องหลบเข้าไปขอความช่วยเหลือจากร้านส้มตำ ส่วนสินค้าเป็นอะไร นายสัญชัยอ้างว่าจำไม่ได้ เพราะยังมีอาการเบลอจากการบาดเจ็บที่ถูกยิงและถูกฟัน ส่วนคนร้ายขณะนี้หลบหนีออกจากจังหวัดไปที่อื่นแล้ว

ด้าน พล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตอนนี้ทราบตัวกลุ่มคนร้ายแล้วว่าเป็นใคร ส่วนสาเหตุเป็นเรื่องของหนี้สิน แต่เป็นหนี้สินอย่างไร ผู้เสียหายยังไม่ความร่วมมือ ยังมีการปิดบังข้อมูลบางส่วนอยู่ แต่การสืบสวนจากพยานหลักฐานที่พบ สามารถมัดตัวผู้ก่อเหตุได้ คาดอีก 2-3 วัน น่าจะออกหมายจับตัวมาดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่าได้แน่นอน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

เปิดปมสังหารยกครัว 4 ศพ แค้นชู้สาว

เปิดปมเหตุสลดฆ่ายกครัว 3 ศพ ก่อนผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเป็นศพที่ 4 ใน จ.สมุทรปราการ พบข้อมูลว่าความแค้นครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว แต่ลูกชายของผู้ตายยังไม่เชื่อว่าแม่มีความสัมพันธ์กับมือปืน แต่ยอมรับมือปืนให้เงินแม่ใช้ทุกวัน

ศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” ชี้พฤติการณ์ร้ายเเรง

ทนายเผยศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” เพราะพฤติการณ์ร้ายเเรง เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกัน ด้าน “แม่สามารถ” วอนผู้มีอำนาจอย่าเอาความลูกชายตน ลั่นหลังจากนี้จะสู้เพื่อความยุติธรรม