ลำปาง 28 ก.พ.- ไปดูอาชีพเสริมของหนุ่มวัย 48 ปี คุณณุชนก บ้านแม่เฟือง ต.บ้านเอื้อม อ.เมือง จ.ลำปาง คือ การเลี้ยงหนูนา หรือ หนูพุก ซึ่งเป็นหนูเนื้อ ซึ่งเป็นที่นิยมรับประทาน เพราะเนื้อหนูนอกจากมีโปรตีนสูงแล้วยังมีไขมันต่ำด้วย ส่วนราคาจำหน่ายในร้านอาหารเท่ากับเป็ดหัน 1 ตัวเลยทีเดียว
คุณณุชนก พาเยี่ยมชมในฟาร์มหนูของตัวเอง ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 50 บ่อ โดยแยกเป็นบ่อที่ให้พ่อ-แม่พันธุ์ผสมพันธุ์ บ่อสำหรับแม่ลูกอ่อน และบ่อขุนพร้อมจำหน่าย ซึ่งหนูที่นี่มีขนาดตัวใหญ่อ้วนสมบูรณ์ บางตัวหนักเกือบ 2 กิโลกรัม
เจ้าของฟาร์มเผยว่าตนทำงานบริษัท และทำธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ ของตัวเอง ไม่เคยรู้ถึงเรื่องการเลี้ยงหนูพุกมาก่อน แต่พอเจอพิษโควิดรอบแรก งานที่ทำธุรกิจที่มีได้รับผลกระทบทั้งหมด และไปเห็นการเลี้ยงหนูพุกในยูทูบของกลุ่มคนเลี้ยงหนูจึงเกิดความสนใจ และสอบถามคนเลี้ยงจนมั่นใจว่าสามารถทำได้จริง จึงทดลองสั่งพ่อ-แม่พันธุ์หนูมาลองเลี้ยงครังแรก 5 คู่ ลงทุนไปคู่ละ 700 บาท ซึ่งบ่อมาวางซ้อนกัน 2 บ่อต่อ 1 คู่ 300 บาท และหาวัสดุที่มีในบ้านมาทำฝาปิดและอื่นๆ ซึ่งถือว่าการลงทุนน้อยมากกับสภาวะเศรษฐกิจที่เจอพิษโควิด จากนั้น 1 เดือน ก็ออกลูกแม่พันธุ์แต่ละตัวออกลูกอย่างน้อย 7 ตัว โดยแม่พันธุ์ก็จะผสมพันธุ์ไปเรื่อยประมาณ1 ปีหรือมากกว่านั้นอยู่ที่ความสมบูรณ์ของแต่ละตัว
ส่วนเรื่องอาหารไม่ยุ่งยาก หนูจะกินพืชผักทางการเกษตรเป็นหลักอาทิ ข้าวโพด ยิ่งเป็นข้าวโพดหวานยิ่งชอบ ก็จะซื้อจากเกษตรกรที่คัดแบบตกเกรดราคาถูก อ้อย หญ้า กล้วย ใบกระถิน กล้วย หนูกินได้หมด และจะเสริมอาหารสำหรับหนูบ้าง หนูจะกินอาหารไม่เยอะ และจะกินเพียงตอนเย็นเท่านั้น กินเสร็จก็จะผสมพันธุ์คือธรรมชาติของหนู ส่วนกลางวันจะนอน ดังนั้น คนเลี้ยงไม่จำเป็นต้องเฝ้า มาดูในตอนเย็นหากอาหารพร่องก็เติมอาหารเติมน้ำไว้เท่านั้น ที่เหลือหนูก็จะอยู่เองตามธรรมชาติ เมื่อขุนได้ 3-4 เดือน ก็ชั่งน้ำหนักดู หากน้ำหนักหนูได้ขั้นต่ำ 5-6 ขีด ก็จับขายได้แล้ว หากมีคนสนใจซื้อเป็นตัว ราคาขายหน้าฟาร์ม ตัวเป็นๆ เพื่อเอาไปเป็นพ่อ-แม่พันธุ์ คู่ละ 700 บาท หาก จะเลี้ยงเหมือนกับที่ฟาร์มของตัวเองที่เลี้ยงในขณะนี้ คือ 1 บ่อ ใช้พ่อพันธุ์ 1 ตัว แม่พันธุ์ 2 ตัว รวมเป็น 3 ตัว ราคา 1,000 บาท
ส่วนหนูเป็นเพื่อนำไปทำอาหาร กิโลกรัมละ 150-180 บาท ส่วนราคาขายแบบชำแหละพร้อมนำไปทำอาหาร ขายกิโลกรัมละ 200 บาท หากแปรรูปเป็นเมนูเรียบร้อย อาทิ หนูอบโอ่ง ซึ่งเป็นเมนูยอดฮิต ตัวละ 150 บาท ซึ่งลูกค้าก็จะสั่งซื้อทุกวัน ทั้งชาวบ้านในหมู่บ้านและร้านอาหาร ซึ่งร้านอาหารที่จำหน่ายบางร้านนำไปทำเมนูหนูหันจำหน่ายในราคาเท่ากับราคาเป็ดหันคือตัวละ 250 บาท กันเลยทีเดียว ซึ่งก็มีลูกค้าสั่งซื้อหมดตลอด โดยผู้ที่ทานหนูอบโอ่งหรือหนูหันจะบอกว่า รสชาตออร่อยกว่าเนื้อหมูหรือเนื้อไก่ เพราะหนังจะกรอบ เนื้อนุ่ม อร่อยมาก
คุณุชนกยังบอกอีกว่า อาชีพนี้ถือว่าสร้างรายได้อย่างดีและมีรายได้ทุกวันตลอดปี และขณะนี้หนูที่เลี้ยงมีไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค จึงอยากให้ชาวบ้านทั่วไปที่อยากมีรายได้สามารถเลือกการเลี้ยงหนูพุกนี้ได้ เพราะลงทุนต่ำมีรายได้ตลอดไป ตนเองพร้อมให้คำปรึกษาและจะจำหน่ายพ่อ-แม่พันธุ์ให้ในราคาพิเศษเพื่อนำไปสร้างอาชีพให้ได้ หรือหากอยากกินหนูก็สามารถสั่งซื้อและสั่งทำได้ทุกวันเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย