28 ก.พ. – น้ำเหนือจาก จ.ยะลา และนราธิวาส ไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานี ส่งผลบ้านเรือนกว่า 300 หลัง ถูกน้ำท่วมสูง การสัญจรยากลำบาก
สภาพอากาศในพื้นที่ จ.ปัตตานี เช้าวันนี้ท้องฟ้าเปิด ฝนหยุดตกตั้งแต่เมื่อคืน แต่ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีสูงขึ้นจากเดิม 1-2 เมตร มวลน้ำจากจังหวัดยะลาไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานี ก่อนไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทยเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ต่ำ พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำปัตตานี โดยเฉพาะ ม.1 ม.2 ม.3 บ้านจางา ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี หมู่บ้านกว่า 300 หลัง ถูกน้ำท่วม รถทุกชนิดสัญจรยากลำบาก ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะเดินทางเข้าออก
น้ำป่าหลากเทือกเขาบรรทัดเริ่มลดลง
พื้นที่ริมเทือกเขาบรรทัดพัทลุง อ.ตะโหมด อ.กงหรา อ.ศรีนครินทร์ และศรีบรรพต น้ำป่าที่ไหลหลากจากเทือกเขาบรรทัดลดลง ระดับน้ำที่ท่วมก่อนหน้านี้เริ่มคลี่คลาย แต่มวลน้ำป่าที่ไหลหลากลงมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ยังไหลหลากท่วมพื้นที่ลุ่มในหลายตำบล ก่อนไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 2 และ 5 ต.เขาชัยสน ที่รองรับน้ำจากอำเภอตะโหมด ระดับน้ำยังท่วมพื้นที่การเกษตร ส่วนพื้นที่ ต.หานโพธิ์ อ.เขาชัยสน ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับน้ำจาก อ.กงหรา หมู่ 8 ,9, 10 ทำให้ชาวบ้านหลายร้อยครอบครัวได้รับผลกระทบ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับทราบรายงานเหตุรถยนต์กระบะพลัดตกคอสะพานบ้านโนนสมบูรณ์ ม. 5 ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย นายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจต่อครอบครัว สั่งการเจ้าหน้าร่วมกับกองทัพลงพื้นที่เฝ้าระวังที่พื้นที่อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน รวมถึงจุดเสี่ยงตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะเส้นทางสัญจร กำชับให้นำเครื่องกีดขวางและนำป้ายประกาศมาติดตั้งไว้ เพื่อป้องกันอันตราย ขอให้ส่วนราชการในพื้นที่เป็นผู้แทนของรัฐบาล เร่งเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิที่ได้รับ รวมถึงสอบถามให้ความช่วยเหลือในการจัดพิธีผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ พร้อมกับขอให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ. – สำนักข่าวไทย