ยะลาอ่วม น้ำท่วมสูง-สะพานเข้าหมู่บ้านถูกตัดขาด

ยะลา 28 ก.พ. – อ.รามัน จ.ยะลา ยังอ่วม น้ำท่วมสูง สะพานเข้าหมู่บ้านถูกตัดขาด ผู้ว่าฯ ติดตามสถานการณ์ มอบถุงยังชีพและน้ำดื่ม พร้อมสั่งการเร่งช่วยเหลือประชาชนเต็มที่


สถานการณ์น้ำท่วม จ.ยะลา ทั้ง 4 อำเภอ ยังคงวิกฤติ หลังฝนตกตั้งแต่วันที่ 23-27 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อน ล่าสุดนายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยนายณัฎฐ์กร บุญโรภาคย์ นายอำเภอรามัน นายวีรวัฒน์ ศิริกุลพิพัฒน์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา ลงพื้นที่หมู่ 4 บ้านสุเป๊ะบือแน ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา นำถุงยังชีพ น้ำดื่ม ที่ได้รับการสนับสนุนจากทาง อ.รามัน ร่วมกับเทศบาลตำบลบาลอ ลุยน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร มอบให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

จากนั้นเดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่รอยต่อระหว่างหมู่ 5 และหมู่ 3 ต.บาลอ บริเวณสะพานเข้าหมู่บ้านถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวตัดขาด ทำให้ประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 3 กว่า 60 ครัวเรือน ไม่สามารถสัญจรได้ เบื้องต้นได้ประสานทางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ตชด.ที่ 44เทศบาลตำบลบาลอ รวมทั้ง ปภ.ยะลา จัดเตรียมเรือท้องแบน ติดเครื่องยนต์ เข้าพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ในพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านสะโต ต.อาซ่อง อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับแม่น้ำสายบุรี น้ำล้นหลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ผู้ว่าฯยะลา ลงพื้นที่นำถุงยังชีพ น้ำดื่ม มอบช่วยเหลือ ในเบื้องต้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ผู้นำชุมชนพร้อมทั้งได้สั่งจัดเตรียมอาหารปรุงสุก มอบให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นการด่วน


นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ยะลามีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 6 อำเภอ ซึ่งในพื้นที่อำเภอรามัน เป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมมากที่สุด ทั้ง 16 ตำบล โดยเฉพาะพื้นที่ ต.บาลอ ทาง อ.รามัน ทางเทศบาลตำบลบาลอ ช่วยกันอย่างเต็มที่ น้ำที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่เนื่องจากฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ต้นน้ำมาจาก จ.นราธิวาส ไหลลงแม่น้ำสายบุรี ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนใน อ.รามัน ขยายเป็นวงกว้าง ทางจังหวัดได้สั่งการดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ในการจัดเตรียมอาหารปรุงสุก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา รายงานพื้นที่ประสบอุทกภัยและวาตภัย จำนวน 6 อำเภอ 43 ตำบล 184 หมู่บ้าน 1 ชุมชน ประกอบด้วย อ.รามัน 16 ตำบล 75 หมู่บ้าน, อ.เมืองยะลา 13 ตำบล 58 หมู่บ้าน, อ.ยะหา 6 ตำบล 12 หมู่บ้าน, อ.กรงปินัง 3 ตำบล 12 หมู่บ้าน, อ.บันนังสตา 3 ตำบล 24 หมู่บ้าน, อ.ธารโต 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน

ประชาชนได้รับผลกระทบทั้งหมด 4,810 ครัวเรือน 18,380คน เสียชีวิต 1 ราย (ในพื้นที่ี ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา) อพยพ 14 ครัวเรือน 65 คน บ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วน 24 หลัง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ 1 แห่ง โรงเรียน 6 แห่ง มัสยิด 2 แห่ง วัด 1 แห่ง ถนน 15 สาย ฝาย 2 แห่ง คอสะพาน 1 แห่ง พื้นที่การเกษตร 1,711 ไร่ และบ่อปลา 41 บ่อ ขณะนี้ฝนในพื้นที่เริ่มเบาบาง ทางจังหวัดได้แจ้งเตือนให้ประชาชนติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท