บุรีรัมย์ 24 ก.พ. – ญาติโยมสุดทน ลงขันตั้งรางวัลนำจับโจรใจบาปบุกขโมยเงินบริจาคต้นกฐินและย่ามเจ้าอาวาสถึง 3 ครั้งในเดือนเดียว
ชาวบ้านและญาติโยมใน ต.สวายจีก อ.เมืองบุรีรัมย์ ทนไม่ไหว พากันลงขันคนละ 100-200 บาท ตามกำลังที่มี รวมเป็นเงินจำนวน 3,000 บาท เพื่อตั้งเป็นรางวัลนำจับให้กับคนที่แจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายใจบาป ที่บุกงัดหน้าต่างศาลาการเปรียญวัดหนองปรือ เข้าไปก่อเหตุลักขโมยเงินในตู้บริจาค ในบาตรพระ ต้นกฐินที่ชาวบ้านนำมาทอดถวาย รวมถึงย่ามเจ้าอาวาส ซึ่งมีทั้งเอกสารส่วนตัว บัตรเอทีเอ็ม และโทรศัพท์มือถือ โดยก่อเหตุถึง 3 ครั้ง ภายในเดือนเดียว โดยครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 วงจรปิดที่ติดตั้งไว้ภายในศาลา สามารถบันทึกภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน เป็นชายอายุประมาณ 40-50 ปี ครั้งแรกสวมเสื้อแขนสั้นสีขาว และมีเสื้อแขนยาวสีดำซ้อนข้างในอีกชั้น กางเกงขาสั้น ไม่สวมแมสก์ จึงเห็นหน้าตาอย่างชัดเจน ทุบกระจกหน้าต่างจนแตก แล้วย่องเข้ามาขโมยเงินและทรัพย์สินภายในศาลาการเปรียญ หลังจากได้ทรัพย์สินแล้วก็หนีออกไปทางหน้าต่าง โดยครั้งนี้พบคราบเลือดบริเวณหน้าต่างที่คนร้ายทุบกระจกด้วย คาดว่าน่าจะถูกกระจกบาด
ส่วนครั้งล่าสุดเป็นชายอายุประมาณ 40-45 ปี รูปร่างผอม สวมเสื้อสีเหลือง กางเกงขายาวสีดำ สวมหมวกไหมพรมสีเทา สวมแมสก์สีขาว แอบย่องเข้ามาทางหน้าต่างช่องเดิมที่คนร้ายคนก่อนทุบกระจกแตกมาก่อเหตุ และเพิ่งจะซ่อมเสร็จ แต่ยังล็อกไม่ได้ จากนั้นย่องเข้าไปหาเงินและทรัพย์สินตามจุดต่างๆ รวมถึงย่ามเจ้าอาวาส
พระสมพงษ์ ญาณทีโป พระลูกวัด บอกว่า ภายในเดือนเดียว มีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักขโมยเงินและทรัพย์สินต่างๆ ภายในศาลาที่เจ้าอาวาสจำวัดอยู่ถึง 3 ครั้ง คาดว่าได้เงินและทรัพย์สินไปประมาณ 10,000 บาท ถือเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจมาก เพราะครั้งที่ 2 และ 3 ห่างกันเพียง 2 วัน และที่น่าตกใจคือ คนร้ายเข้ามาก่อเหตุขณะที่เจ้าอาวาสก็จำวัดอยู่ แต่ท่านไม่รู้สึกตัว ซึ่งหากท่านรู้สึกตัวตื่นตอนที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุ ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้พระในวัดก็รู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะไม่รู้คนร้ายจะหวนกลับมาก่อเหตุอีกวันไหน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี จะได้ไม่ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนกับประชาชน หรือพระวัดอื่นอีก
ด้านนายสอน โกยรัมย์ ชาวบ้าน บอกว่า หลังทราบข่าวว่ามีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุขโมยเงินในวัดถึง 3 ครั้ง ก็ตกใจและเป็นห่วงเจ้าอาวาส เพราะหากบังเอิญมาเจอกับคนร้าย ก็อาจจะถูกทำร้ายได้ ญาติโยมจึงลงขันกัน เพื่อตั้งเป็นรางวัลนำจับให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแสของคนร้าย และได้โพสต์ทางสื่อโซเชียลต่างๆ หากใครพบเห็นหรือรู้เบาะแสคนร้ายแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ก็จะมอบเงินรางวัลดังกล่าวให้. – สำนักข่าวไทย