บ้านทรุด-นอนเต็นท์หนีตาย ไร้หน่วยงานเหลียวแล

นนทบุรี 23 ก.พ. – ชาวบ้านใน อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี สุดทน บ้านทรุด กำแพงถล่ม 6 หลัง โดยยังหาสาเหตุที่ไม่ได้ บางหลังติดป้ายขายแล้ว วอนหน่วยงานรัฐช่วยเหลือ


จากกรณีหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี กำแพงบ้านถล่มเสียหาย 6 หลัง ทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและคาดว่าจะมีการถล่มเพิ่มเติมอย่างแน่นอน พร้อมแนะนำให้ชาวบ้านตัดตัวเชื่อมจากทางหลังบ้านออก ถ้าเกิดมีการถล่มจะได้ไม่เป็นการไปดึงตัวบ้านให้มีรอยร้าว และแนะนำให้ลูกบ้านทุกคนอย่านอนบริเวณชั้น 2 ที่ติดกับตัวกำแพง ให้ลงมานอนชั้นล่าง บริเวณเกือบถึงหน้าบ้าน เพื่อความปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปดูชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านทั้ง 6 หลัง พบว่าเจ้าของบ้านต้องอยู่อย่างหวาดผวา ต้องนำเต็นท์ออกมากางนอนบริเวณหน้าบ้านของตัวเอง ไม่กล้านอนในบ้าน เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย บ้านทรุดตัวลงมาทับ


น.ส.ภัทรพร อายุ 36 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ตอนนี้พวกเราเจ้าของบ้านทั้ง 6 หลังรออยู่ คือแบบแปลนของบ้านและกำแพงจาก อบต.ไทรน้อย ที่ร้องขอไปตั้งแต่เมื่อวาน ได้รับคำตอบว่ายังค้นไม่เจอ กำลังค้นหาอยู่ รอเพียงแบบแปลนอันนี้อันเดียว แล้วเดียวบริษัทที่เราจัดจ้างเองจะลงพื้นที่ตรวจสอบให้ จะได้รู้กันไปเลยว่าใครผิดใครถูก สร้างได้ตามแบบหรือไม่ ตอนนี้ทางเราเต็มที่มากๆ ออกค่าใช้จ่ายกันเอง เหลือเพียงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเต็มที่ด้วย ตอนนี้พวกเรารอคอยอย่างมีความหวังว่าจะได้รับคำตอบว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ในครั้งนี้ จะโทษชาวนาว่าทำนาแล้วทำบ้านทรุดก็ไม่กล้าพูดเต็มปาก ถ้าพิสูจน์ได้ว่าใครผิดเราจะได้ดำเนินการต่อ ล่าสุดมีหน่วยงานท้องถิ่นแนะนำให้เราไปฟ้องศาลก่อน ซึ่งคุยกันแล้วว่าเวลาไปฟ้องศาลค่อนข้างจะใช้เวลานาน

น.ส.ภัทรพร ยังกล่าวเสริมอีกว่า บ้านบางหลังคานมีรอยร้าว ใต้พื้นบ้านเป็นโฟมและดินก็ยุบตัว บางคนซื้อบ้านได้เพียงแค่เดือนเดียวก็มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ยิ่งได้ยินคำตอบของทางหน่วยงาน อบต. แล้วยิ่งเสียใจ คือเขาปัดให้เราไปฟ้องศาลเอาอย่างเดียวเลย เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 4-5 ครั้ง เราก็ทนกันมาเรื่อยๆ

ส่วนเช้านี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าอีกรอบ พบว่าบ้านที่ทรุดบางหลังติดประกาศขายแล้ว เจ้าของบ้านกล่าวว่าอยากให้หน่วยงานราชการลงมาช่วย หากยังไม่มีการแก้ไข ลูกบ้านอาจจะไม่อยู่อาศัยอีกแล้ว เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา คงต้องขายบ้านทิ้ง เพราะมีแต่อันตราย ยิ่งหากมีฝนตกลงมาอีกอาจจะทำให้ดินสไลด์มากกว่าเดิม และบ้านอาจจะทรุดทั้งหลัง ทำให้ครอบครัวตนอยู่ในความเสี่ยงอันตราย จึงติดประกาศขายบ้าน ขอวอนหน่อยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยแก้ไขเร็วๆ ด้วย พร้อมกับพาผู้สื่อข่าวเดินดูบริเวณพื้นด้านหน้าทุกหลัง มีการระเบิดหมดทุกหลัง หรืออาการน้อยที่สุดเลยคือพื้นลานจอดรถจะเตี้ยลง บางหลังมีการรีโนเวทใหม่บ้าง แต่ตอนที่ตนจะมาซื้อบ้านหลังนีได้มีการสอบถามจากคนเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ก่อน หลายๆ คนเขาบอกว่ามันทรุดตั้งแต่ปีแรกๆ แล้ว 4-5 ปี ก็ทรุดแล้ว ส่วนตนเองนั้นเพิ่งมาซื้อบ้านหลังนี้ได้เพียงปีเดียวเท่านั้น ตอนแรกที่มาซื้อสภาพไม่ได้เป็นเหมือนตอนนี้ แต่มีทรุดอยู่บ้างตนได้ซื้อหินเอามาเก็บไว้ข้างๆ บ้าน เพื่อเอาไว้เติมเวลาบ้านมันทรุด ตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูที่บ้านของตนเลย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล