สระบุรี 23 ก.พ. – ผอ.โรงพยาบาลสระบุรี เร่งสอบสวนเหตุหญิงวัย 30 ปี เสียชีวิตจากการคลอดบุตร ยืนยันแพทย์ดูแลรักษาเต็มที่ และร่วมมือให้ข้อมูลเวชระเบียนตามที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตต้องการ
นพ.อนันต์ กมลเนตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระบุรี ชี้แจงกรณีหญิงวัย 30 ปี เสียชีวิตหลังจากการคลอดบุตร เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งครอบครัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิตและแจ้งความที่ สภ.เมืองสระบุรี ก่อนยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ รมช.สาธารณสุข เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น ทางโรงพยาบาลสระบุรีได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยผู้บริหาร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางสูติกรรม และสหสาขาวิชาชีพได้ร่วมกันทำการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าวทุกคน เพื่อทบทวนเหตุการณ์ และสันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตของมารดาเบื้องต้น จากภาวะน้ำคร่ำอุดตันหลอดเลือดในปอด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตเฉียบพลันได้ แต่อาจมีสาเหตุอื่นได้อีก ทั้งนี้ ต้องรอผลชันสูตรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนจะสรุปใบมรณะและนำไปพิจารณาถึงเรื่องการเยียวยาต่อไป
ผอ.รพ.สระบุรี ยืนยันทางโรงพยาบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้พยายามชี้แจงกับญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตตั้งแต่วันเกิดเหตุ โดยโทรศัพท์ไปแสดงความเสียใจ ไปร่วมงานสวดศพทุกคืน และร่วมเป็นเจ้าภาพงานศพ 1 คืน พร้อมทั้งนำเวชระเบียนตามที่ทางญาติร้องขอไปมอบให้ที่บ้านในวันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ รวมถึงแนะนำวิธีการ สิทธิประโยชน์ที่พึงได้ เช่น ประกันสังคม และมาตรการช่วยเหลือผู้รับบริการทางการแพทย์
“ช่วงแรกการสื่อสารอาจจะคลาดเคลื่อน เพราะหลังการช่วยฟื้นคืนชีพ สถานการณ์ขณะนั้น การอธิบายข้อมูลบางขั้นตอนที่ญาติสงสัยอาจแจ้งไม่ครบถ้วน และสภาพครอบครัวเสียใจมากไม่พร้อมรับฟัง ที่ทราบจากข่าวญาติไม่พอใจเรื่องส่งเข้านอนในตึกล่าช้า คือ หลังจากตอนเช้าที่ผู้ป่วยรู้สึกว่าเด็กไม่ดิ้น แพทย์ตรวจอัลตราซาวด์ 2 รอบ พบว่าเด็กในท้องเสียชีวิตแล้ว แต่มีการรอนานก่อนส่งเข้าตึก เพราะทาง รพ.ต้องคัดกรองตรวจหาโควิด ประกอบกับเมื่อญาติเผชิญภาวะวิกฤติที่ไม่คาดคิดจนมีการสูญเสีย ทำให้ญาติไม่พอใจ สงสัยว่าทำไมไม่ผ่าออกทันที ซึ่งแพทย์ได้แจ้งกับผู้ป่วยที่มีประสบการณ์คลอดมาแล้ว ว่าตามหลักวิชาการสามารถรอให้คลอดเอง ซึ่งหลังเหน็บยาช่วย ผู้ป่วยใช้เวลาประมาณ 11 ชม. ก็สามารถคลอดเด็กได้เอง และรู้สึกตัวดี หลังคลอดยังพูดคุยได้ปกติ และ 2 ชั่วโมงต่อมา ขณะที่แพทย์ดูผู้ป่วยอยู่ข้างๆ ผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลงทันทีจนต้องช่วยฟื้นคืนชีพ แพทย์พยาบาลช่วยกันปั๊มหัวใจกว่าชั่วโมงก่อนเสียชีวิต ไม่ใช่การตายทั้งกลมตามข่าวที่ญาติเข้าใจ”. – สำนักข่าวไทย