ไล่ล่าคนร้ายยิงถล่มนายก อบต.สาหัส-คนใกล้ชิดดับ 2

นครนายก 15 ก.พ. – ผบช.ภ.2 ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายยิงถล่มรถนายก อบต.บางสมบูรณ์ จ.นครนายก บาดเจ็บสาหัส ส่วนคนใกล้ชิดเสียชีวิต 2 ราย เบื้องต้นพุ่งประเด็นขัดแย้งการเมืองท้องถิ่นและความแค้นส่วนตัว


เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายขับรถไล่ยิงถล่มรถของนายก อบต.บางสมบูรณ์ จังหวัดนครนายก ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่รองนายก อบต. และคนขับรถที่มาด้วยกัน เสียชีวิตทันที

ที่เกิดเหตุอยู่ถนนบากท่อ-บางปรัง หมู่ 2 ช่วงโค้งตายศ ตำบลศรีจุฬา อำเภอเมืองนครนายก รถที่เกิดเหตุเป็นรถแวนยี่ห้อฮุนได รุ่น H1 สีดำ สภาพพุ่งข้ามเลนเข้าป่าข้างทางลึกกว่า 20 เมตร


ในรถพบผู้เสียชีวิต 2 คน คนแรกใส่เสื้อคลุมสีขาว เป็นคนขับ ชื่อนายวัชระ นุชแดง เป็นคนสนิทของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.บางสมบูรณ์ ผู้เสียชีวิตคนที่ 2 คือ นายสมชาย ม่วงกาศ เป็นรองนายก อบต.บางสมบูรณ์ นั่งอยู่เบาะหลัง หลังคนขับ ส่วนนายก อบต.บางสมบูรณ์ ซึ่งนั่งเบาะหลังเช่นกัน ถูกกระสุนยิงเข้าที่หัวไหล่และขา ได้รับบาดเจ็บสาหัส และอีกคนคือ นายวิชาญ เจริญรุ่งเรื่อง นั่งหน้าข้างคนขับ ปลอดภัย

ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เห็นรถขับมา 2 คัน โดยรถกระบะขับตามหลัง และเร่งเครื่องประกบรถของนายก อบต. ด้านข้างฝั่งคนขับ ก่อนใช้อาวุธปืนรัวยิงเป็นชุดมากกว่า 10 นัด โดยพฤติกรรมไม่ได้เป็นการขับขี่หนีกันมาแต่อย่างใด แต่ขับตามกันมาเรื่อยๆ หลังสิ้นเสียงปืน ตนและชาวบ้านคนอื่นยังไม่กล้าออกมาดู จนแน่ใจว่าปลอดภัย จึงวิ่งออกมาดู และมีการนำตัวนายก อบต. และคนที่โดยสารอีกคน ขึ้นรถนำส่งโรงพยาบาล

สอบถามนางบุญปลูก อบอวล นายก อบต.ศรีจุฬา บอกว่า ก่อนเกิดเหตุมีงานเลี้ยงรวมตัวนายก อบต. ในจังหวัดนครนายก นอกรอบ ก่อนจะมีการประชุมคัดเลือกคณะกรรมการต่างๆ ในจังหวัดนครนายก ในวันที่ 17 ก.พ.นี้ โดยนายก อบต.บางสมบูรณ์ และคณะ ได้ขอตัวกลับก่อน ส่วนตัวคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่น แต่ก็ยังมีประเด็นความแค้นส่วนตัวด้วย


ที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่จำนวนหนึ่ง จึงให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บไว้เพื่อตรวจสอบ จากนั้นตรวจสอบรถพบว่าตำแหน่งด้านขวาของตัวรถ ช่วงประตูรถมีรอยกระสุนปืนยิงทะลุหลายจุด ซึ่งเป็นตำแหน่งจุดบริเวณชายโคลงของผู้โดยสาร เป็นเหตุให้ผู้ที่นั่งอยู่ฝั่งขวาเสียชีวิตทั้ง 2 คน

วันนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างวางแนวทางการสอบสวน เบื้องต้นพุ่งประเด็นไปที่การขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่น

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าเส้นทางในบริเวณจุดเกิดเหตุค่อนข้างมืด ประกอบกับแสงสว่างน้อย และมีฝนตกในช่วงที่เกิดเหตุ มองว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม ขณะที่คนร้ายน่าจะมีการวางแผนและมีมากกว่า 2 คน คาดว่าน่าจะมาเป็นกลุ่มและมีการแบ่งงานกันทำ โดยคนร้ายมุ่งเป้าคนที่อยู่ในรถและนายก อบต. ส่วนเรื่องคดีต้องขอเวลา คาดว่าจะคลี่คลายคดีได้

นายชาญศิลป์ ม่วงกาศ อายุ 32 ปี ลูกชายรองนายก อบต. บอกว่า ตนทราบหลังจากมีคนโทรบอกหลังเกิดเหตุ โดยเมื่อวานมีประชุมรวมตัวนายก อบต. ในตัวเมืองนครนายก ซึ่งนายก อบต. และพ่อของตนออกไปตั้งแต่ตอนเย็น จนกระทั่งขากลับก็มาเกิดเหตุ ซึ่งเส้นทางที่เกิดเหตุใกล้บ้านของนายก อบต. อีกทั้งพ่อจอดรถไว้ที่บ้านของนายก ที่ผ่านมาพ่อไม่เคยพูดเรื่องเกี่ยวกับว่าอาจจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน อีกทั้งปกติพ่อเป็นคนระวังตัว เนื่องจากเข้ามาเล่นการเมือง ส่วนปมสาเหตุที่ญาติมุ่งคือ ปมการเมือง โดยคนร้ายหวังเอาชีวิตทั้งหมด 4 คนภายในรถ ที่ผ่านมาปกติเวลาไปไหนนอกพื้นที่จะไปด้วยกันหมดทั้ง 4 คน แต่หากอยู่ในพื้นที่จะแบ่งงานกัน เพื่อให้ดูแลพื้นที่ได้ทั่วถึง

ขณะที่เมื่อวานหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้ตนมาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่ตอนนั้นตนไม่ไหวจึงให้พี่ชายมาให้ปากคำก่อน เบื้องต้นให้ข้อมูลว่าเมื่อสองสามวันก่อนได้ไปไหนมาไหนบ้าง ส่วนวันนี้ตนเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม ส่วนอาการของนายก อบต. ตอนนี้ปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัย ส่วนศพของพ่อและคนขับรถ ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลนครนายก เพื่อรอผลตรวจโควิด ก่อนจะส่งศพไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มศว.องครักษ์

ขณะที่นายวัชระ นุชแดง คนขับรถ เป็นหนึ่งในสมาชิก อบต. หมู่ 4 ตำบลบางสมบูรณ์ ก่อนหน้านี้ได้บวชแก้บน 7 วัน และเพิ่งสึกมาได้ 1 วันก็กลับมาขับรถให้กับนายก

นางสำนอง นุชแดง อายุ 53 ปี ภรรยาคนขับ บอกว่า น้องชายโทรมาบอกว่านายกโดนยิง สามีอยู่กับตนจนถึงเวลา 4 โมงเย็น จากนั้นไปวิ่งส่งของต่อ จนกระทั่งเวลา 5-6 โมงเย็น นายก อบต. ได้โทรเรียกให้ขับรถให้ ที่ผ่านมาสามีไม่เคยพูดบอกว่ามีปัญหาอะไรกับใคร ล่าสุดบวชแก้บนได้ 7 วัน แก้บนเนื่องจากไม่สบาย และเพิงสึกมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และวันจันทร์ก็มาถูกยิงเสียชีวิต ตอนนี้ตนมุ่งสาเหตุการตายมาจากเรื่องการเมือง ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน ซึ่งนิสัยเป็นคนตรง เปิดเผย เข้ากันได้ทุกคน ตอนนี้ได้รับตำแหน่งที่ปรึกษานายก

ขณะที่นางสาวอุสา โท้ประยูร อายุ 39 ปี น้องสาวของนายก อบต. บอกว่า ล่าสุดหลังจากแพทย์อนุญาตให้เข้าเยี่ยมพี่ชาย ตอนนี้พี่ชายอาการค่อนข้างจะปลอดภัย แต่มีกระสุนฝังในร่างกาย 4 นัด ที่แขน หัวไหล ขา และมีบาดแผลบริเวณท้ายทอยจากกระสุนถาก 6-7 นัด โดยต้องรอดูอาการอีก 2-3 วัน วันเกิดเหตุพี่ชายมีนัดประชุมโหวตประธานสภานายก อบจ. จึงได้นัดพบปะกันก่อนจะมีการโหวต โดยประเด็นสังหารมุ่งเรื่องการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากก่อนหน้าที่พี่ชายมาลงการเมืองนั้น พี่ชายเป็นนักวิชาการและอาจารย์ ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใครมาก่อน และการสังหารที่เกิดขึ้นมุ่งเป้าสังหารทุกคนในรถ

นางสาวอุสา บอกต่อว่า หลังจากที่พี่ชายได้รับตำแหน่งก็จะระมัดระวังตัวอยู่ตลอด ไม่คิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเกิดขึ้น ปกติเวลาออกไปไหนจะไปกัน 2 คัน แต่วันเกิดเหตุเห็นว่าออกไปงานเลี้ยง ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุเลยไปด้วยกันคันเดียว

ส่วนเรื่องเหล็กไหลเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้มาจากอาจารย์ ดร.เพ็ญศรี มอบให้พี่ชายมาอีกที ที่ผ่านมาพี่ชายไม่เคยห้อยพระหรือวัตถุมงคลอะไรมาก่อน จนกระทั่งเข้ามาเล่นการเมือง

นางสาวอุสาได้นำสร้อยคอของพี่ชายมาให้ดู พบว่าบริเวณสร้อยจุดที่อยู่ท้ายทอยนั้นเป็นที่ห้อยรอบที่บรรจุเหล็กไหลได้แตกและหลุดหายไป และเป็นบริเวณเดียวกับที่พี่ชายถูกกระสุนปืน 6-7 นัดถาก ไม่เข้าบริเวณนี้ แต่ตอนนี้เหล็กไหลหายไป น่าจะมาจากกระสุนปืนที่ถากโดน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

คุมฝากขัง “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ค้านประกัน

27 ส.ค. – ตร.คุมตัว “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ส่งฝากขังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ และนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ออกจากห้องคุมขัง ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เจ้าหน้าที่ได้แยกควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ สวมเสื้อยืดสีน้ำตาลและกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนนำผ้าเช็ดตัวสีส้มมาห่มคลุมร่างกาย ขึ้นรถยนต์ตำรวจ ทันทีที่ออกมาทางอดีตพระอลงกตได้ยกมือซ้ายขึ้นมา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนขึ้นนั่งบนรถ โดยมีศิษยานุศิษย์ประคองด้านข้าง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกกังวลใจหรือมีอะไรอยากจะชี้แจงหรือไม่ พร้อมกับถามถึงความรู้สึกหลังจากที่ลาสิกขาแล้ว แต่อดีตพระอลงกต ได้แต่ยิ้มแย้มและยกมือปฏิเสธ ไม่ตอบคำถามใดๆ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า “ไปศาลใช่หรือไม่” อดีตพระอลงกต ตอบสั้นๆ ว่า “ไปศาล” ส่วนนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ได้แยกควบคุมตัวขึ้นรถกระบะของกองบังคับการปราบปราม โดยหมอบี ยังสวมใส่ชุดเดิม คือเสื้อแขนสั้นสีครีม และกางเกงขายาวสีน้ำตาล เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น.-419-สำนักข่าวไทย

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]