BIG STORY : รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่โจรปล้นทองพบพระ-พบหลักฐานสำคัญ

ตาก 13 ก.พ. – พบกระเป๋า ค้อนเหล็ก เสื้อผ้า และรองเท้าบูท ของ 3 คนร้าย ปล้นร้านทองกลางตลาดพบพระ ถูกถอดทิ้งไว้ในลำห้วยวาเล่ย์ที่กั้นระหว่างพรมแดนไทย-เมียนมา คาดผู้ก่อเหตุและช่วยเหลือสนับสนุนการปล้นทองครั้งนี้อาจมีมากกว่า 3 คน


ตำรวจยังคงไล่ล่า 3 โจรบุกปล้นร้านทองกลางตลาดพบพระ จ.ตาก กวาดทองไปกว่า 200 บาท โดยระดมปูพรมตรวจบ้านเป้าหมายและตรวจสอบรถกระบะคันที่ใช้คนร้ายใช้ก่อเหตุและนำไปจอดทิ้งไว้

กรณีคนร้าย 3 คน พร้อมอาวุธ บุกปล้นร้านทอง ชื่อห้างทองกรุงเทพ 4 พบพระ ถนนสายดอนเจดีย์-วาเล่ย์ หมู่ 1 ตำบลพบพระ จังหวัดตาก ใกล้กับทางเข้าออกหน้าโรงพยาบาลอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งตั้งอยู่ย่านใจกลางอำเภอพบพระ และเป็นย่านชุมชน โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่กระจกหน้าร้านทอง ใช้ค้อนทุบจนกระจกแตกละเอียด และยังยิงลูกค้าที่ซื้อทองขณะเกิดเหตุอยู่ภายในร้าน คือ นายชิอาก่า จนเสียชีวิต พร้อมกวาดทองคำกว่า 200 บาท ใส่กระเป๋าวิ่งออกจากร้านทองตรงไปขึ้นท้ายรถกระบะที่จอดสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ หลบหนีมุ่งหน้าไปแนวชายแดนไทย-เมียนมา


ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่าคนร้ายออกติดตามจนพบรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บง-1910 คันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ แต่ไม่พบคนร้ายทั้งสามและทอง โดยคนร้ายจอดรถยนต์คันก่อเหตุไว้บนเส้นทางบ้านผากะเจ้อ หมู่ 9 ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 6 กิโลเมตร และห่างจากแนวชายแดนไทย-เมียนมา กว่า 8 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยกรถของคนร้ายไปเก็บไว้ที่ สภ.พบพระ ก่อนที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตากเข้าเก็บวัตถุพยานหลักฐานภายในรถของกลางคันดังกล่าว พบวัตถุพยานหลักฐานสำคัญที่คนร้ายทิ้งไว้ในรถหลายรายการ

ตรวจพิสูจน์หลักฐานรถใช้ปล้นทองและรถเกี่ยวข้อง
ขณะที่ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.พบพระ และตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดตาก ได้ประสานขอชุดทหารนำสุนัขทหารดมหาวัตถุหลักฐานภายในรถยนต์กระบะคันที่ใช้ก่อเหตุ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดรถยนต์กระบะสีขาว ซึ่งเป็นรถยนต์ต้องสงสัยอีก 1 คัน ที่จอดทิ้งไว้ริมแม่น้ำเมย ห่างจากจุดพบรถยนต์คันแรกไปไกลกว่า 8 กิโลเมตร ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตากได้เข้าเก็บวัตถุพยานหลักฐาน และได้หลักฐานสำคัญภายในรถยนต์ทั้ง 2 คันที่เชื่อมโยงกัน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้

ขณะเดียวกันตำรวจยังเชิญตัวลูกชายอดีตตำรวจ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของรถที่คนร้ายใช้ขับมาก่อเหตุ โดยลูกชายอดีตนายตำรวจเจ้าของรถยนต์กระบะตอนเดียว ให้การว่า รถของตนเองถูกคนร้ายปล้นไปและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล้นทองดังกล่าว ขณะนี้ตำรวจได้กันไว้เป็นพยาน พร้อมสอบสวนเชิงลึกนานหลายชั่วโมง


ผบช.ภาค 6 ลงพื้นที่ติดตามคดี
ช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมทีมสืบสวนหลายชุดปฏิบัติการ ได้ลงพื้นที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุ พร้อมให้กำลังใจนางอำพร อยู่แก้ว เจ้าของร้านทองเกิดเหตุ

ตรวจค้นบ้านเป้าหมาย หวั่นคนร้ายหนีข้ามชายแดน
มีรายงานว่า ชุดสืบสวนได้นำหมายค้นเข้าไปปิดล้อมตรวจค้นบ้านกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ชายแดนอำเภอพบพระ พร้อมกัน 3 จุดโดยมีทีมตำรวจติดอาวุธครบมือเข้าตรวจค้นและไล่ล่าคนร้ายทั้งสามด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากคนร้ายทั้งสามมีอาวุธติดตัว และอาจจะมีความเป็นไปได้สูงว่าคนร้ายอาจหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน หรือไม่ก็ยังคงหลบซ่อนตัวในป่าแนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา

สำหรับการปล้นร้านทองในครั้งนี้เป็นการปล้นที่อุกอาจที่ไม่เคยเกิดในพื้นที่อำเภอพบพระ ซึ่งตำรวจระบุว่าคนร้ายเตรียมการมาเป็นอย่างดี และมีการทำงานเป็นทีม มีการวางแผนการขับรถหลบหนีได้แบบชำนาญเส้นทาง

รอง ผบ.ตร.บินด่วนตรวจพื้นที่โจรปล้นทอง
ต่อมาช่วงบ่าย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อม พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี และฝ่ายสืบสวนฝีมือดีหลายชุดปฏิบัติการในสังกัดตำรวจภูธรภาค 6 ได้ลงพื้นที่ สภ.พบพระ เพื่อประชุมความคืบหน้า ภายหลังการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.อ.สุชาติ ได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุที่ห้างทองกรุงเทพ 4 พบพระ พร้อมสอบสวนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เก็บวัตถุพยานหลักฐานให้ละเอียด จากนั้นได้เดินทางไปยังหมู่บ้านผากะเจ้อ จุดที่พบรถยนต์กระบะสีบรอนซ์เทา ซึ่งเป็นรถยนต์ที่คนร้ายปล้นมาจากนายหนุ่ย เจ้าของรถ ก่อนจะขับรถยนต์กระบะเข้าไปก่อเหตุ และตรวจบริเวณถนนทางการเกษตรท้ายหมู่บ้านยะพอ ซึ่งเป็นจุดพบรถยนต์กระบะสีขาว ซึ่งคาดว่าเป็นรถยนต์คันที่ 2 ที่กลุ่มคนร้ายขับมารับทีมปล้นทั้ง 3 คนออกจากจุดทิ้งรถยนต์กระบะจุดที่ 1 และขับนำพาคนร้ายทั้ง 3 คนไปส่งที่จุดที่ 2 ริมลำห้วยวาเล่ย์ ท้ายหมู่บ้านยะพอ

พบหลักฐานสำคัญคนร้าย
จุดนี้เจ้าหน้าที่พบหลักฐานสำคัญทางคดี โดยนำสุนัขดมกลิ่นทางยุทธวิธีของทหารมาช่วยค้นหาวัตถุพยานหลักฐาน จนสามารถพบกระเป๋าและค้อนเหล็กของคนร้ายอย่างละ 1 ชิ้น และยังตรวจพบเสื้อผ้าและรองเท้าบูทของคนร้ายทั้ง 3 คน ถูกถอดทิ้งไว้ในลำห้วยวาเล่ย์ ซึ่งเป็นลำห้วยกว้างเพียง 10 เมตร ที่กั้นระหว่างพรมแดนไทย-เมียนมา ท้ายหมู่บ้านยะพอ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตากเข้าไปเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และเก็บดีเอ็นเอของวัตถุพยานหลักฐานทุกชิ้นในทุกจุด เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีอย่างละเอียด พร้อมเร่งหาแหล่งร้านค้าที่คนร้ายไปซื้อทั้งเครื่องแต่งกาย พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุ ขณะนี้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมากตามลำดับ

เร่งเก็บหลักฐาน ประสานเพื่อนบ้านไล่ล่าคนร้ายอีกทาง
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายวางแผนการปล้นชิงทองมาเป็นอย่างดี ขณะนี้คาดว่าคนร้ายอาจจะหลบหนีเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน หรือซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งได้มีการประสานความร่วมมือไปยังประเทศเพื่อนบ้านให้ช่วยออกติดตามตัวคนร้ายแล้ว ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าผู้ที่ก่อเหตุและช่วยเหลือสนับสนุนในการปล้นทองครั้งนี้อาจมีมากกว่า 3 คน โดยฝ่ายสืบสวนจำนวนมากถูกระดมกำลังลงพื้นที่ชายแดนอำเภอพบพระ ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลทางคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา

ไทยรับคำเชิญ “อันวาร์” ถกปัญหาชายแดน “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. – รัฐบาลยืนยัน “อันวาร์” ประธานอาเซียน เชิญผู้นำไทยถกปัญหาไทย-กัมพูชา “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันการรักษาอธิปไตยของประเทศแม้ตารางนิ้วเดียวก็ให้ใครไม่ได้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เดินทางไปร่วมหารือ แนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568) ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคณะจะออกเดินทางจากกองทัพอากาศเวลาประมาณ 10.30น และเข้าหารือ เวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศมาเลเซีย คณะของทีมไทยแลนด์นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า […]

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]