เปิดคำพิพากษาศาลฎีกายกฟ้องพี่เขยข่มขืนสาวสุพรรณฯ

อสมท 9 ก.พ.- ที่นี่ที่เดียว! เปิดหมดเปลือก ทุกประเด็นศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องพี่เขยที่ถูกสาวสุพรรณฯ แจ้งความเอาผิดฐานข่มขืน ก่อนกลายเป็นเรื่องสลดใจเมื่อสาวสุพรรณฯ คิดสั้นกินยาฆ่าตัวตาย เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง

ความคืบหน้ากรณีสาวสุพรรณฯวัย 29 ปี แจ้งความดำเนินคดีกับพี่เขยว่าก่อเหตุข่มขืนตนในบ้านพักเมื่อเดือนเมษายน 2562 ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานกระทำอนาจารผู้อื่นและให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา แต่ต่อมาศาลฎีกาพิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องจำเลยในข้อหากระทำอนาจาร


หลังจากนั้น สาวสุพรรณฯ ผู้เสียหายได้ก่อเหตุกินยาฆ่าตัวตาย เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง ซึ่งญาติได้ประกอบพิธีฌาปนกิจที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนที่ล่าสุดเช้าวันนี้ (9 ก.พ.) สามีผู้ตายพร้อมญาติได้เดินทางมาที่ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กระทรวงยุติธรรม เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในเรื่องราวที่เกิดขึ้นเนื่องจากคดีนี้กำลังเป็นที่สนใจของสังคม สำนักข่าวไทย อสมท จึงขอนำรายละเอียดคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีนี้มานำเสนอ ดังนี้

คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 3912/2564 วันที่ 20 กันยายน 2564 คดีระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นโจทก์ ฟ้องนายดำ(นามสมมุติ) จำเลย ในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา


โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2562 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยข่มขืนกระทำชำเรานางสาว พ. ผู้เสียหาย โดยใช้อวัยวะเพศของจำเลยสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหาย เพื่อสนองความใคร่ของจำเลยโดยผู้เสียหายไม่ยินยอมและอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เหตุเกิดที่ตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276
จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดฐานกระทำอนาจารผู้อื่น และให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา เนื่องจากผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ไม่พบเชื้ออสุจิในช่องคลอดของผู้เสียหาย แต่พบหลักฐานว่ากางเกงของผู้เสียหายที่ใส่ในคืนเกิดเหตุ เมื่อนำไปตรวจพิสูจน์แล้วพบ DNA ของจำเลยอยู่ที่กางเกงตัวดังกล่าวโดยไม่พบอสุจิ จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278(เดิม) ลงโทษจำคุก 3 ปี และให้จำเลยชำระเงินแก่ผู้เสียหาย 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่เกิดเหตุจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ต่อมาจำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังได้ว่า จำเลยเป็นสามีของนางพจมาน ซึ่งเป็นพี่สาวของนายจีรศักดิ์ สามีของผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2562 ผู้เสียหายกับสามีไปแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ธนโชติ เล้าพูนผล พนักงานสอบสวน ว่าถูกจำเลยข่มขืนกระทำชำเราพร้อมกับนำกางเกงขาสั้นสีฟ้า ไปมอบให้ ร.ต.ท.ธนโชติ ได้ส่งตัวผู้เสียหายไปให้แพทย์ตรวจที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยกระทำความผิดฐานกระทำอนาจารผู้เสียหายตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 หรือไม่


โจทก์มีผู้เสียหายซึ่งเป็นประจักษ์พยานเบิกความว่า ในวันและเวลาเกิดเหตุผู้เสียหายมีอาการเมาไม่รู้สึกตัว นายจีรศักดิ์อุ้มผู้เสียหายขึ้นไปบนบ้านแล้วพาผู้เสียหายไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและพาผู้เสียหายเข้านอน เมื่อนายจีรศักดิ์ลงจากบ้านไปได้ไม่นาน นางประมวลตะโกนบอกว่าผู้เสียหายอาเจียนและปัสสาวะรดกางเกง นายจีรศักดิ์ขึ้นไปบนบ้านเปลี่ยนกางเกงให้ผู้เสียหายเป็นกางเกงขาสั้นเอวยางยืดสีฟ้า ไม่ได้นุ่งกางเกงใน แล้วเปิดไฟบริเวณหัวนอนไว้

ขณะนั้นจำเลยพานางพจมาน ภริยาจำเลย ซึ่งมีอาการเมาเช่นกันขึ้นไปบนบ้านในเวลาไล่เลี่ยกัน เวลาประมาณ 23 นาฬิกาเศษ ใกล้จะเที่ยงคืน ผู้เสียหายรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เนื่องจากมีคนมาคร่อมบนตัวของผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายลืมตาเห็นว่าเป็นจำเลยไม่ได้สวมเสื้อผ้า ผู้เสียหายร้องเฮ้ย จำเลยรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหลบหนีไป ผู้เสียหายใช้มือคลำอวัยวะเพศของตนรู้สึกแฉะบริเวณหัวหน่าว เมื่อนำขึ้นมาดมรู้ว่าเป็นกลิ่นน้ำอสุจิ ผู้เสียหายพยายามลุกขึ้นแต่ไม่มีแรง จึงคลานไปที่ห้องน้ำเอาน้ำราดศีรษะ และได้ความจากนายจีรศักดิ์ พยานโจทก์ ว่า เมื่อพาผู้เสียหายเข้านอนแล้วนายจีรศักดิ์ลงไปที่วงสุราประมาณ 10 นาที เห็นจำเลยกลับมาที่วงสุรานั่งอยู่ประมาณ 5 นาที จำเลยก็กลับขึ้นบนบ้าน

นายจีรศักดิ์สังเกตเห็นว่าไฟบริเวณหัวนอนถูกปิด และได้ยินเสียงคนในห้องน้ำ จึงเข้าไปที่ห้องน้ำพบผู้เสียหายนอนฟุบอยู่ ผู้เสียหายบอกให้นายจีรศักดิ์เอาน้ำราดศีรษะให้ ผู้เสียหายยันตัวเองขึ้นนั่งแล้วถอดกางเกงเอวยางยืดสีฟ้าออก นายจีรศักดิ์พาผู้เสียหายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ใหม่ ผู้เสียหายถามนายจีรศักดิ์ว่าได้ร่วมเพศผู้เสียหายหรือไม่ เมื่อนายจีรศักดิ์ปฏิเสธ ผู้เสียหายร้องไห้ นายจีรศักดิ์จึงคิดว่าคงมีคนแอบเข้ามาข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย

นายจีรศักดิ์ไปหยิบกางเกงขาสั้นสีฟ้าของผู้เสียหายที่อยู่ในห้องน้ำมาดมกลิ่น แน่ใจว่าเป็นกลิ่นของน้ำอสุจิ นายจีรศักดิ์จึงปลุกมารดา จำเลย และนางพจมาน ภริยาจำเลย แล้วนำกางเกงดังกล่าวมาให้ดม และนำไปให้เพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ในวงสุราดมด้วย

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มีผู้เสียหายเป็นประจักษ์พยานเพียงปากเดียว ศาลจึงต้องรับฟังด้วยความระมัดระวัง ผู้เสียหายเบิกความเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงว่า คืนเกิดเหตุผู้เสียหายเมาสุรามาก นายจีรศักดิ์ สามีของผู้เสียหาย อุ้มขึ้นมาอาบน้ำ แล้วพาผู้เสียหายไปนอนในห้องนอน ผู้เสียหายรู้สึกอึดอัดจึงถอดเสื้อออก สวมแต่เพียงกางเกงขาสั้นสีฟ้าเพียงตัวเดียวและไม่ได้สวมกางเกงใน
ประมาณใกล้เที่ยงคืน ผู้เสียหายรู้สึกตัวขึ้นมา เห็นจำเลยคร่อมอยู่บนตัวของผู้เสียหาย ผู้เสียหายใช้มือคลำดูที่อวัยวะเพศพบว่ามีน้ำอสุจิ เอาขึ้นมาดมดูก็ได้กลิ่นน้ำอสุจิ ผู้เสียหายร้องเฮ้ย จำเลยวิ่งหลบหนีไป ขณะเกิดเหตุจำเลยทำอะไรกับผู้เสียหายบ้าง ผู้เสียหายก็ไม่ทราบและผู้เสียหายอ้างว่าไม่รู้สึกตัว จะถูกเอาอวัยวะเพศชายสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายหรือไม่ ผู้เสียหายก็ไม่ทราบเพราะไม่รู้สึกตัว แตกต่างกับคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายกลับให้การว่าขณะผู้เสียหายรู้สึกตัวขึ้นมา มองเห็นจำเลยกำลังข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย โดยอวัยวะเพศของจำเลยอยู่ในช่องคลอดของผู้เสียหาย

คำเบิกความของผู้เสียหายจึงมีพิรุธน่าสงสัย ที่ผู้เสียหายเบิกความว่าหลังจากจำเลยวิ่งหลบหนีไป ผู้เสียหายพยายามโทรศัพท์หาสามี แต่โทรติดต่อไม่ได้นั้น ผู้เสียหายก็น่าจะตะโกนเรียกสามีซึ่งนั่งดื่มสุราอยู่กับพวกบริเวณหน้าบ้าน ทั้งสภาพห้องนอนผู้เสียหายมีเพียงตู้กั้นเป็นห้องนอน ไม่มีประตู ขณะเกิดเหตุนางประมวล มารดาของนายจีรศักดิ์ กับหลานและภริยาของจำเลยก็นอนอยู่บนบ้าน ผู้เสียหายก็น่าจะตะโกนเรียกบุคคลดังกล่าว เพราะก่อนหน้านั้นผู้เสียหายอาเจียนและปัสสาวะใส่กางเกง ผู้เสียหายยังตะโกนเรียกให้สามีมาเปลี่ยนกางเกงให้ และนางประมวลเป็นคนเรียกให้นายจีรศักดิ์มาเปลี่ยนกางเกงให้ผู้เสียหาย

ต่อมาเมื่อสามีผู้เสียหายขึ้นมาบนบ้าน ผู้เสียหายกลับไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้สามีทราบ ที่ผู้เสียหายอ้างว่าเหตุที่ไม่ยอมบอกสามี เพราะสามีเป็นคนใจร้อนกลัวจะมีเรื่องนั้น ไม่มีเหตุผลรับฟัง เพราะในตอนแรกเหตุที่ผู้เสียหายพยายามโทรศัพท์หาสามีนั้น น่าเชื่อว่าเพราะผู้เสียหายต้องการบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้สามีทราบ

ส่วนเหตุการณ์หลังจากนั้นที่ผู้เสียหายกับนายจีรศักดิ์พยานโจทก์ทั้งสองเบิกความทำนองเดียวกันว่า เมื่อกลับมานอนผู้เสียหายถามนายจีรศักดิ์ว่าร่วมเพศกับผู้เสียหายหรือไม่ นายจีรศักดิ์จึงหยิบอาวุธปืนมานั้น ก็มีพิรุธน่าสงสัย เพราะหากผู้เสียหายรู้สึกตัวขึ้นมาเห็นจำเลยซึ่งไม่ได้สวมเสื้อคร่อมอยู่บนตัวผู้เสียหาย ทั้งขณะนั้นผู้เสียหายรู้อยู่แล้วว่านายจีรศักดิ์ก็ไม่ได้อยู่ในห้องนอนและผู้เสียหายพยายามโทรศัพท์ติดต่อนายจีรศักดิ์ จึงไม่มีเหตุผลที่ผู้เสียหายจะถามนายจีรศักดิ์เช่นนี้ และผู้เสียหายกลับบอกกับนายจีรศักดิ์ว่าคงฝันไปมั้ง นายจีรศักดิ์พยายามคาดคั้น แต่ผู้เสียหายก็ไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมบอก นายจีรศักดิ์จึงไปหยิบกางเกงขาสั้นของผู้เสียหาย ซึ่งเปียกน้ำในห้องน้ำมาดมดูได้กลิ่นเหมือนน้ำอสุจิผู้ชายนั้น คำเบิกความของนายจีรศักดิ์ดังกล่าวมีพิรุธน่าสงสัย เพราะเป็นเรื่องผิดปกติวิสัยอย่างยิ่งที่สามีของผู้เสียหายจะมาดมกลิ่นน้ำอสุจิของชายที่ล่วงละเมิดทางเพศภริยาของตนเช่นนี้ ทั้งผลการตรวจพิสูจน์กางเกงของผู้เสียหายที่ผู้เสียหายกับนายจีรศักดิ์นำไปมอบให้พนักงานสอบสวน ก็ไม่พบคราบอสุจิที่กางเกงดังกล่าว และในเรื่องที่ผู้เสียหายเบิกความในตอนแรกว่า ผู้เสียหายคลำที่อวัยวะเพศของผู้เสียหายพบน้ำอสุจิ และเอาขึ้นมาดมได้กลิ่นน้ำอสุจินั้น ก็เป็นเรื่องผิดปกติวิสัยของผู้หญิง ซึ่งน่าจะรังเกียจการที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศดังกล่าว ไม่น่าจะนำเอาน้ำอสุจิของชายที่ล่วงละเมิดทางเพศตนมาดมเช่นนี้

นอกจากนี้ นางประมวล พยานโจทก์ เบิกความว่า พยานเข้าไปสอบถามผู้เสียหายในห้องนอนกับนายจีรศักดิ์ ผู้เสียหายบอกว่ามีคนข่มขืนกระทำชำเรา แต่ไม่ได้บอกว่าคือใคร พยานถามผู้เสียหายว่าเมาหรือเปล่า ผู้เสียหายยืนยันว่าถูกข่มขืนกระทำชำเราจริง แต่จำไม่ได้ จึงมีพิรุธว่าเพราะเหตุใดในขณะนั้นผู้เสียหายจึงไม่ยอมบอกว่า ผู้เสียหายถูกบุคคลใดกระทำดังกล่าว ส่วนผลการตรวจพิสูจน์พบดีเอ็นเอของจำเลยที่กางเกงสีน้ำเงินหรือสีฟ้า ซึ่งเป็นกางเกงที่ผู้เสียหายสวมใส่ในคืนเกิดเหตุนั้น จึงน่าจะมีดีเอ็นเอของผู้เสียหายอยู่ แต่ผลการตรวจพิสูจน์กลับไม่พบดีเอ็นเอของผู้เสียหายที่กางเกงดังกล่าว

พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมา มีพิรุธและยังมีความสงสัยว่าจำเลยกระทำอนาจารผู้เสียหาย โดยขึ้นคร่อมบนตัวผู้เสียหายและหลั่งน้ำอสุจิบนร่างกายผู้เสียหายหรือไม่ จึงให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 227 วรรคสอง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น

ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยฐานกระทำอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278(เดิม) และยกคำร้องของผู้ร้อง ค่าฤซาธรรมเนียมในส่วนแพ่งทั้งสามศาลให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 22 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก บึงกาฬ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก บึงกาฬ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ในวันนี้ (22 ก.ย. 68) คาดว่าในช่วงวันที่ […]

ส่องความเสียหายน้ำท่วมหล่มสัก ชาวบ้านหวั่นท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนร้านค้าหลายร้อยหลังเจอน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่ 2 ในช่วง 3 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านกังวลหล่มสักจะกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

ไรเดอร์ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ขี่รถประกบ-ข่มขู่

กทม. 21 ก.ย. – ไรเดอร์หนุ่ม สุดงง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจสายสืบขี่รถตามประกบ ข่มขู่ดำเนินคดีเป็นไรเดอร์เถื่อน ขณะ สน.หนองแขม ยันไม่ใช่ตำรวจในสังกัด “ต๊ะ” ไรเดอร์วัย 27 ปี โพสต์คลิปบนเฟซบุ๊ก และนำมาร้องสื่อ โดยบอกว่า ชายคนนี้อ้างตัวเป็นตำรวจ ขี่รถมาประกบ และจอดขวางขณะกำลังขี่รถมาถึงปากซอยเพชรเกษม 81/5 เพื่อไปรับงานส่งลูกค้า ส่วนตอนคนที่อ้างเป็นตำรวจ เดินลงจากรถจักรยานยนต์ ก็อ้างว่าที่เรียกตรวจ เพราะเห็นว่าเป็นไรเดอร์ แต่ไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ท้ายรถ ซึ่งชายคนนี้ตามตัวมีครบทั้งวิทยุสื่อสาร ไฟฉาย และเสื้อที่ปักว่า “สืบ” มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนคือนิสัยที่ไม่เหมือนตำรวจ ทำให้ “ต๊ะ” ตัดสินใจถ่ายคลิปไว้ป้องกันตัวเอง เพราะเหตุเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน หลังเกิดการโต้เถียงกัน สุดท้ายชายคนที่แอบอ้างเป็นตำรวจก็ไล่ “ต๊ะ” บอกจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวโดนร้องเรียนเอง “ต๊ะ” จึงขี่รถกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เพราะที่จะไปรับลูกค้าก็ไปไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อขี่รถออกมา ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจยังขี่รถตามมา “ด่า” จนถึงปากซอยทางเข้าบ้าน แล้วก็ขี่รถฉีกออกไปมุ่งหน้าไปทางอ้อมใหญ่ ทำให้ “ต๊ะ” ค่อนข้างมั่นใจว่า ชายคนนี้ไม่ใช่ตำรวจ […]

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]