สงขลา 9 ก.พ.- ตะลึง! พบหินภูเขาไฟกระจายเกลื่อนตลอดแนวชายฝั่งทะเล พื้นที่ 8 ตำบล ของจังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่ยันไม่เป็นอันตรายและไม่ส่งผลกระทบกับน้ำทะเลและสัตว์น้ำ แต่ยังไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ รอทางสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 4 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตรวจสอบชนิดและองค์ประกอบอย่างละเอียด
หินขนาดเล็กถูกคลื่นซัดขึ้นมากองรวมกันอยู่จำนวนมาก ตลอดแนวชายฝั่งทะเลของจังหวัดสงขลาหลายแห่ง เช่น ชายหาดชลาทัศน์ และชายหาดแหลมสมิหลา แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลา ทำให้บนพื้นทรายตลอดแนวชายหาดกลายเป็นสีดำ กระทบกับสภาพภูมิทัศน์ของชายหาด เจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 สงขลา, เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บตัวอย่างหินที่พบไปทดสอบ พบเป็นตะกอนหินขนาดเล็ก มีรูพรุนชัดเจน น้ำหนักเบา สีเทาปนเขียว ขนาดอนุภาคตะกอน 0.3 – 3 เซนติเมตร ลักษณะคล้ายหินพัมมิช หรือ ที่เรียกว่าหินภูเขาไฟ เป็นหินประเภท หินอัคนีพุ มีลักษณะเนื้อเป็นฟองและเบา เกิดจากการเย็นตัวของหินหลอมเหลว และแร่ธาตุต่างๆ ใต้พื้นโลก
สันนิษฐานว่าเป็นหินภูเขาไฟจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเล แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุแหล่งที่มาได้ ต้องส่งตัวอย่างไปตรวจสอบชนิด และองค์ประกอบ ที่สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 4 จ.สุราษฎร์ธานี อย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ หินที่พบไม่เป็นอันตรายและยังไม่ส่งผลกระทบกับน้ำทะเล หรือสัตว์ทะเล
สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า หินดังกล่าวกระจายอยู่ทั่วไปตลอดแนวชายหาดของจังหวัดสงขลา พบมากในพื้นที่ 8 ตำบล ชายฝั่งทะเลของอำเภอสทิงพระ ทั้ง ตำบลวัดจันทร์ บ่อแดง บ่อดาน จะทิ้งพระ กระดังงา สนามชัย ดีหลวง และชุมพล นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าเริ่มพบที่ชายหาดบ้านทอน จังหวัดนราธิวาส, ชายหาดปะนาเระ จังหวัดปัตตานี และชายหาดหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช และยังมีบางส่วนที่ลอยอยู่ตามผิวหน้าน้ำทะเลด้วย แต่เป็นหินภูเขาไฟคนละชนิดกับที่นำไปใช้เป็นวัสดุรองปลูกพืชผล หรือไม้ดอกไม้ประดับ ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟบนบก แต่ที่พบบริเวณชายหาดเป็นภูเขาไฟในทะเล ยังมีความเค็มหากจะนำไปใช้ก็ต้องแช่น้ำนานมาก.-สำนักข่าวไทย