ชัยภูมิ 7 ก.พ.-เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ชัยภูมิ ให้ข้อมูลไม่ตรงกันว่า ที่ดินเกือบ 200 ไร่ ของอดีตพระมหาสมปอง อยู่ในเขต ส.ป.ก. หรือไม่ ขณะที่ทีมข่าว พบว่า ที่ดินอีกนับ 100 ไร่ อยู่รอยต่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และป่าสงวนแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ “ติ๋ม ทีวีพูล” ผู้ก่อตั้งนิตยสารทีวีพูล เปิดเผยข้อมูลว่า นายสมปอง นครไธสง หรือ อดีตพระมหาสมปอง มีหนี้สินจากการกว้านซื้อที่ดิน ส.ป.ก. กว่า 300 ไร่ เพื่อปลูกยางพารานั้น
ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารของสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ ให้ข้อมูลว่า เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) ได้ส่งฝ่ายนิติกรลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว พบว่า ที่ดินราว 200 ไร่ ที่อยู่ในความครอบครองของญาตินายสมปอง พื้นที่อำเภอคอนสาร ตั้งอยู่นอกเขต ส.ป.ก.สามารถซื้อขายกันได้ ขณะนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียดชัดเจนได้ เพราะข้อมูลอยู่กับฝ่ายนิติกร พรุ่งนี้ (8 ก.พ.) พร้อมให้รายละเอียดที่สำนักงานฯ อย่างไรก็ตาม มีเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติให้ข้อมูลอีกด้านว่า ที่ดินผืนดังกล่าวประมาณ 190 ไร่ อยู่ในเขต ส.ป.ก. ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ฝ่ายไหนเป็นผู้ให้ข้อมูลผิด
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังพบว่า มีการครอบครองที่ดินอีกราว 100 ไร่ โซนหลังบ้าน เป็นป่าเตรียมการสงวนภูซำผักหนาม หมายเลข 10 แปลงที่ 1 ซึ่งอยู่รอยต่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และป่าสงวนแห่งชาติ
“ศรีสุวรรณ” ยื่น สปก. สอบที่ดิน”สมปอง”
อีกด้านหนึ่ง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ตนได้ยื่นหนังสือไปยังเลขาธิการสปก. แล้ว ขอให้ตรวจสอบ กรณีที่นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย (ติ๋ม ทีวีพูล) ออกมาแถลงข่าวว่านายสมปอง นครไธสง หรือ อดีตพระมหาสมปอง เอาเงิน 10 กว่าล้านบาทไปซื้อที่ดิน 300 กว่าไร่ ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เท่าที่สมาคมฯ ได้ไปตรวจสอบ พบว่าที่ดินที่อาจจะเกี่ยวข้องกัน ไม่ได้อยู่ในแปลงเดียวกันทั้งหมด และบางแปลงไม่ใช่ที่ดินของ ส.ป.ก. อย่างเดียว บางแปลงเป็นที่ดินของกรมป่าไม้ ซึ่งไม่กี่วันนี้ตนจะไปยื่นร้องต่ออธิบดีกรมป่าไม้เพื่อให้ตรวจสอบที่ดินที่นายสมปองหรือญาติของนายสมปองครอบครองอยู่ด้วย
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า นอกจากนั้นยังมีกรณีไปกว้านซื้อที่ดินหลายร้อยไร่อาจจะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการปราบปรามการฟอกเงินด้วย สมาคมฯ ก็จะนำความไปร้องต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อสอบสวน เพราะการที่เข้าไปทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถือว่าอยู่ในกฎหมายของ ปปง. และเป็นอำนาจของ ปปง. ในการตรวจสอบด้วย
นายศรีสุวรรณ ยังกล่าวอีกว่า ไม่ได้พูดคุยกับนางพันธุ์ทิพาเพิ่มเติมเพราะไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งตนก็ทราบมาจากสื่อมวลชน แต่เมื่อเขาชี้เบาะแส แล้วก็เป็นหน้าที่ของตนที่เข้าไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตามมีหลายคนที่ส่งข้อความมายังตน เพื่อให้ตนเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมาเคยให้สัมภาษณ์ว่าหนี้สินที่มีเป็นการนำเงินไปช่วยวัดช่วยโรงเรียน แท้จริงแล้วเป็นเช่นไร ประชาชนก็รับรู้ว่าพูดจริงหรือพูดเท็จ ทั้งนี้ช่วงบ่ายวันนี้มีกลุ่มดารา นักแสดงที่ให้นายสมปองมาช่วยไลฟ์ขายกล่องสุ่มเพื่อนำเงินไปช่วยวัดแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี เดินทางมาพบตนเพื่อให้ช่วยตรวจสอบเพราะเมื่อไลฟ์จบกลับมีการลบไลฟ์ออกจากหน้าเพจ จึงอาจจะขัดกันในเรื่องผลประโยชน์หรือไม่.-สำนักข่าวไทย