สุพรรณบุรี 7 ก.พ.- ตำรวจยังไม่นำตัวผู้ต้องหาฆ่ายัดกล่องดำ สาว 18 ไปชี้จุด เกรงถูกรุมประชาทัณฑ์ ยังไม่ปักใจเชื่อว่าทำคนเดียวตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ด้านเพื่อนคนงานทำบุญส่งวิญญาณให้ผู้ตาย
เพื่อนคนงานของสาวผู้เสียชีวิต ร่วมกันทำพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลส่งดวงวิญญาณให้กับนางสาวสุมิตา หรือน้องเต็น ที่ถูกคนร้ายฆ่ายัดกล่องพลาสติกสีดำ ซุกในพงหญ้าหลังบ้านพักคนงาน ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยนิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป มาร่วมทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ จากนั้นได้พรมน้ำมนต์ภายในห้องที่เกิดเหตุ ห้องพักคนงาน และบริเวณพงหญ้า ตรงจุดที่ทิ้งศพ และจุดที่เจ้าหน้าที่นำศพขึ้นมาวาง ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ
มีเรื่องแปลกเกิดขึ้นเมื่อมีเพื่อนคนงานบอกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้กลิ่นแปลกๆ เหมือนกลิ่นสาบเลือด ก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน เพราะห้องพักคนงานอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ วันนี้พื่อนคนงานจึงมาร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย ขอให้ดวงวิญญาณไปสู่สุขคติ
ยังไม่ทำแผนมือฆ่ายัดกล่องสาว 18 หวั่นถูกประชาทัณฑ์
เจ้าหน้าที่ยังควบคุมตัวนายธนกร ผู้ต้องหา ไว้ที่ห้องขัง สภ.เมืองสุพรรณบุรี เพื่อทำการสอบสวนต่อ มีรายงานว่าจะนำตัวมาชี้จุดเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้า แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการชี้จุด หรือทำแผนประกอบคำรับสารภาพแต่อย่างใด คาดว่าอาจหวั่นโดนรุมประชาทัณฑ์
โดยเมื่อวานนี้ (6 ก.พ.) พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ไปสอบปากคำผู้ต้องหาเองที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ก่อนเผยว่าผู้ต้องหารับสารภาพเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ และก่อนก่อเหตุได้เสพยาบ้าด้วย จึงสั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรสุพรรณบุรี เร่งสืบสวนขยายผลว่าซื้อยาบ้ามาจากไหน และมีใครร่วมก่อเหตุบ้าง ขณะนี้สามารถเก็บพยานหลักฐานได้แล้วกว่า 60 ชิ้น ส่วนมูลเหตุที่แท้จริงในการก่อเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน แม้ผู้ต้องหาจะรับสารภาพ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าจะทำคนเดียว ต้องมีการสอบสวนหาวัตถุพยานเพิ่มเติม
ขณะที่พ่อผู้เสียชีวิต ยังไม่เชื่อว่าลูกสาวจะมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับผู้ก่อเหตุตามที่เจ้าตัวกล่าวอ้าง เนื่องจากลูกสาวตนมีแฟนที่คบหากันอยู่แล้ว และตนกับลูกสาวสนิทกันมากมีอะไรก็เล่าให้ฟังเสมอ และลูกไม่เคยพูดถึงผู้ก่อเหตุเลยจึงเชื่อว่าเป็นการฆ่าข่มขืน
สำหรับคดีนี้ย้อนไปเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อคนงานพบกล่องพลาสติกสีดำในพงหญ้า ด้านหลังแคมป์คนงาน พร้อมกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจึงแจ้งตำรวจ กระทั่งเมื่อเปิดออกดูจึงพบร่างของผู้ตายถูกยัดภายในกล่อง ในสภาพถูกมัดข้อเท้า มีรอยช้ำตามร่างกาย โดยครอบครัวบอกว่าลูกสาวหายตัวไปจากห้องพักตั้งแต่คืนวันที่ 30 มกราคม จากนั้นพอเช้าวันที่ 31 มกราคม พ่อและครอบครัวช่วยกันออกตามหาแต่ไม่เจอ ญาติจึงประกาศหาตามหาทางโซเชียล พร้อมไปแจ้งความไว้ กระทั่งมีการระดมกำลังค้นหาและทราบข่าวร้าย กระทั่งตำรวจไปติดตามจับกุมระหว่างหลบหนีไปกบดานที่บ้านพักของภรรยาในจังหวัดกาฬสินธุ์.-สำนักข่าวไทย