ปทุมธานี 7 ก.พ.- อุทาหรณ์! หญิงสาวรายหนึ่งพ่นสเปรย์เเอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อเสื้อผ้าและร่างกายก่อนเข้าบ้าน เพื่อป้องกันและฆ่าเชื้อโควิด-19 จากนั้นจุดยากันยุงโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไฟลุกไหม้ตัวบาดเจ็บสาหัส ต้องรักษาตัวในห้อง ICU คาดเป็นเวลา 2 เดือน ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
เมื่อวันที่ 5 ก.พ.65 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ลงพื้นที่บ้านหลังหนึ่ง ถ.หทัยราษฎร์ แยก 2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุหญิงสาวถูกไฟไหม้ทั่วตัว เมื่อช่วงปลายมกราคม 2565 ที่ผ่านมา ขณะนี้ผู้บาดเจ็บนอนรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU รพ.ธรรมศาสตร์ฯ
แฟนหนุ่มผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค.65 เวลา 21.00 น. นางวิภาพร อายุ 30 ปี แฟนสาวกลับมาจากทำงาน เมื่อมาถึงบ้านก่อนเข้าบ้านได้พ่นสเปรย์แอลกอฮอล์ ตามเสื้อผ้าและร่างกาย เพื่อป้องกันและฆ่าเชื้อโควิดเป็นปกติทุกวัน เนื่องจากที่บ้านมีผู้สูงอายุจึงไม่อยากให้มีการติดเชื้อ หลังพ่นสเปรย์แอลกอฮอล์นางวิภาพร ได้เดินเข้าห้องนอนไปหยิบยากันยุงมาจุด ทันทีที่จุดไฟแช็ก จู่ๆ เกิดประกายไฟลุกไหม้เสื้อผ้าของแฟนสาวไปทั่วตัว ทำให้วิ่งทุรนทุรายออกมาจากห้อง ขณะนั้นไฟไหม้ขึ้นมาท่วมตัว ตนจึงวิ่งเข้าไปดึงเสื้อผ้าที่ติดไฟออก ทำให้ถูกไฟลวกทั้งมือ จากนั้นตนวิ่งเข้าไปตักน้ำในห้องน้ำออกมาราดตัวแฟนสาวจนไฟดับ และนำตัวส่งโรงพยาบาล
พี่สาวผู้บาดเจ็บกล่าวว่า ขณะนี้น้องสาวของตนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ โดยใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่เนื่องจากน้องสาวของตนถูกไฟไหม้เกินกว่า 60% ทำให้ต้องอยู่ห้อง ICU ทีมแพทย์แจ้งว่าต้องนอนประมาณ 2 เดือน โดยครอบครัวจะต้องจ่ายส่วนต่างเอง เช่น ค่าห้อง ICU , ค่าสายยาง และอื่นๆ ประมาณวันละ 5,000 บาท
ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า อยากให้ทาง สปสช. เข้ามาดูและช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้ผู้บาดเจ็บรายนี้ เนื่องจากใช้สิทธิบัตร 30 บาท รักษาทุกโรค ของ สปสช. เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้บาดเจ็บ.-สำนักข่าวไทย