ปทุมธานี 4 ก.พ. – สุดเศร้า! “น้องพอร์ช” เสียชีวิตแล้ว หลังถูกพ่อราดน้ำมันเผา ด้านตำรวจคาดพ่อซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุโดนปัญหารุมเร้า จึงหาทางออกด้วยการฆ่าตัวตายพร้อมลูก
เมื่อวานนี้เกิดเหตุการณ์สุดสลด เมื่อนายทอง อายุ 48 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง เกิดอาการเครียด ก่อนก่อเหตุราดน้ำมันราดก่อนจุดไฟเผาตัวเองและน้องพอร์ช ลูกชายวัยเพียง 4 ขวบ ภายในรถกระบะ ซึ่งจอดอยู่หน้าบ้านเช่าในซอยเรณูอุทิศ ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ขณะเกิดเหตุน้องพอร์ชเปิดประตูและวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในสภาพแขนขาและตามเนื้อตัวถูกไฟลวก ชาวบ้านจึงรีบออกมาช่วยดับไฟ ก่อนพาน้องพอร์ชส่งโรงพยาบาล ส่วนนายทองกระเสือกกระสนออกมานอนอยู่ข้างรถ ก่อนที่ชาวบ้านจะโทรแจ้งตำรวจให้เข้าตรวจสอบ
ล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีรายงานว่าน้องพอร์ชเสียชีวิตแล้ว ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านเช่าของนายทอง เพื่อพูดคุยกับเพื่อนบ้าน จากการสอบถามนางจิณิน อายุ 58 ปี เจ้าของห้องเช่าที่นายทองพักอาศัยอยู่ และเป็นคนเลี้ยงน้องพอร์ช มาตั้งแต่เล็ก บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกคนรู้สึกสลดใจและเสียใจ ยิ่งมารู้ว่าน้องพอร์ชเสียชีวิต ทำให้ทุกคนเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก สำหรับนายทองมาเช่าห้องของตนนานกว่า 10 ปี ตั้งแต่ยังไม่มีน้องพอร์ช โดยแม่ของน้องพอร์ช ชื่อนางเอวิน หรือ “เพ็ญ” อายุ 40 ปี เป็นชาวเมียนมา ก่อนแยกทางกับนายทองไปเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยทั้งคู่มีลูกด้วยกันทั้งหมด 2 คน คนโตเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 20 ปีเศษ กลับประเทศเมียนมาไปกับแม่ของเขา ส่วนน้องพอร์ชอยู่กับนายทอง โดยคืนวันเกิดเหตุพวกตนไม่รู้ว่านายทองขับรถไปเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์พ่วงแล้วมีผู้เสียชีวิต เมื่อนายทองขับรถมาจอดตรงจุดเกิดเหตุ ก่อนเดินมาถามตนว่าน้องพอร์ชอยู่ไหน ตนจึงบอกว่าอยู่ที่บ้านฝั่งตรงข้าม จากนั้นนายทองจึงเดินไปเรียกลูกแล้วพาไปขึ้นรถ ก่อนขับเข้าไปที่ท้ายซอย แล้ววนกลับมาก่อเหตุดังกล่าว
สำหรับอาการของนายทองยังสาหัส ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ส่วนเหตุจูงใจในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งไว้ 3 ประเด็น คือ ปัญหาชีวิตของนายทอง ซึ่งเลิกรากับภรรยาเก่าที่เป็นคนไทย และภรรยาใหม่ที่เป็นชาวเมียนมา และประเด็นเรื่องไม่มีงาน ทำให้ขาดสภาพคล่องเกี่ยวกับการเงิน รวมทั้งมาเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนคนตาย คาดว่านายทองคิดไม่ตก จึงก่อเหตุสลดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งประเด็นการก่อเหตุของในทอง ซึ่้งหนึ่งในนั้นคือการขับรถกระบะไปเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างจนมีคนเสียชีวิต ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปวัดบางเตยใน อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพของนางปราณี หลังถูกรถกระบะของนายทองเฉี่ยวชนจนรถเสียหลักข้ามไปตัดหน้ารถกระบะอีกคันที่วิ่งสวนมาอย่างจัง ส่งผลให้นางปราณี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนหลานชายที่นั่งมาด้วยคือ ด.ช.ทินภัทร หรือน้องมิกส์ วัย 4 ขวบเศษ กระเด็นออกจากตัวรถ แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ มีเพียงแขนมีรอยฟกช้ำเล็กน้อยเท่านั้น
สอบถามนายสมนึก อายุ 55 ปี สามีของนางปราณี ผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันเกิดเหตุภรรยาขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปเติมน้ำมัน โดยมีน้องมิกส์นั่งไปด้วย เมื่อไปถึงจุดกลับรถซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ถูกรถกระบะสีขาวเฉี่ยวชนจนรถเสียหลักพุ่งประสานงากับรถกระบะอีกคันที่วิ่งมาทางตรง ส่งผลให้ภรรยาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
นายสมนึก บอกอีกว่า รู้สึกตกใจเมื่อรู้ว่าคนที่ขับรถกระบะเฉี่ยวชนรถของภรรยาคือ นายทอง หนุ่มรับเหมา ซึ่งใช้น้ำมันราดตัวเองและลูกชาย ก่อนจุดไฟเผาในรถ สุดท้ายตัวเขารอดแต่ลูกชายตาย ส่วนเหตุการณ์เฉี่ยวชนตนไม่เชื่อว่านายทองจะเกิดอาการเครียดจนเป็นเหตุให้ต้องไปจุดไฟเผาตัวเองและลูก เพื่อหนีความผิด เพราะอย่างน้อยรถเขาก็ต้องมีประกัน จึงไม่เชื่อว่าจะคิดสั้นและฆ่าตัวตายแบบนี้ ส่วนเรื่องของคดีต้องให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ.-สำนักข่าวไทย