ภูเก็ต 31 ม.ค. – บอร์ดควบคุมการขนส่งทางบกภูเก็ต เรียกตัวแท็กซี่พูดจาข่มขู่นักท่องเที่ยวและเรียกเก็บค่าแท็กซี่สูงเกินจริง เข้าชี้แจง เพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาในภาพรวม ขณะที่ขนส่งฯ เตรียมเรียกเสียค่าปรับ 1,000 บาท พร้อมอบรม 3 ชม. เหตุมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
นี่เป็นคลิปเหตุการณ์ที่ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก นายเฆวินทร์ พล นักท่องเที่ยวชาวไทย ขณะโต้เถียงกับคนขับรถแท็กซี่ หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ถึงค่าแท็กซี่ที่สูงเกินจริงถึง 600 บาท ซึ่งแพงกว่าเรียกแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชันค่อนข้างมาก พร้อมโชว์ค่าแท็กซี่จากแอปฯ ให้ดูราคาแค่ 168 บาท โดยทางผู้โพสต์คลิปได้ต่อว่าคนขับรถแท็กซี่ทำนองว่าเป็นการโกงกัน จนเกิดการโต้เถียงกัน และคนขับรถแท็กซี่แสดงท่าทางข่มขู่จะทำร้าย เพราะโกรธที่ถูกกล่าวหาว่าโกง หลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก โดยเฉพาะประเด็นปัญหาแท็กซี่ภูเก็ตที่มีราคาแพง ซึ่งเมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ก็ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และขนส่งจังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบข้อเท็จจริง
วันนี้ (31 ม.ค.) ขนส่งจังหวัดภูเก็ต และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้เชิญตัวนายเจษฎา คาหะปะนะ คนขับแท็กซี่ มาให้ข้อมูล และมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งวางแนวทางแก้ไขไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างนักท่องเที่ยวกับผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต
นายจตุรงค์ แก้วกสิ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ผลการประชุมในวันนี้ มีมติเร่งประชาสัมพันธ์อัตราค่าโดยสารแนะนำที่กำหนดโดย จ.ภูเก็ต ให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบทุกช่องทาง ทั้งที่สนามบินภูเก็ต ด่านท่าฉัตรไชย และพื้นที่โรงแรมต่างๆ โดยจะจัดทำเป็นสติกเกอร์ และแผ่นพับประชาสัมพันธ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดราคาแนะนำต่างๆ ได้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งจะให้ผู้ให้บริการรถแท็กซี่ ใช้ราคาดังกล่าวเป็นราคากลางในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการเก็บค่าโดยสาร และป้องกันการเอาเปรียบผู้โดยสารต่อไป
ส่วนการลงโทษผู้กระทำผิด ในเรื่องของการใช้กิริยาท่าทางวาจาที่ไม่สุภาพต่อผู้รับบริการ ลักษณะการข่มขู่คุกคาม แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ หน้าที่ของผู้ขับรถที่กระทำผิด ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ตจะเรียกไปสอบสวน และลงโทษเปรียบเทียบปรับ 1,000 บาท และให้เข้าอบรม 3 ชั่วโมง ส่วนการข่มขู่คุกคาม ในส่วนของผู้โพสต์ ได้มีการแจ้งความที่ สภ.กมลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ตามความผิดทางอาญา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเพื่อให้เป็นทางเลือกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว อนาคตจะให้มีการเรียกใช้รถผ่านแอปพลิเคชันเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง จ.ภูเก็ต จะต้องเตรียมแผนรองรับในเรื่องนี้ และจะต้องแก้ปัญหา เมื่อนักท่องเที่ยวเรียกใช้รถแล้ว รถไม่สามารถเข้าไปรับผู้ใช้บริการได้ ดังนั้น ขอให้สังคมมีความเชื่อถือเชื่อมั่น จ.ภูเก็ต ตั้งใจที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ จ.ภูเก็ต ยังคงต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ขณะที่นายเจษฎา คาหะปะนะ คนขับแท็กซี่ กล่าวว่า จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งตนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น เพื่อต้องการรักษาภาพลักษณ์ของกลุ่มอาชีพแท็กซี่ทั่วทั้งภูเก็ต และตนก็ไม่ได้รู้เรื่องราวของกฎหมายว่าเป็นอะไรอย่างไรบ้าง จึงขอปฏิเสธ เพื่อไปปรึกษาคนที่รู้เรื่องราวกฎหมายก่อน และจะเข้าไปหาเจ้าหน้าที่อีกครั้ง ยอมรับมีความกังวลเล็กน้อยว่า ภาพลักษณ์ที่ออกไปอาจจะทำให้เพื่อนร่วมอาชีพดูเสียหายในภาพรวม อันที่จริงกลุ่มคนขับแท็กซี่ไม่ได้เลวร้ายอย่างภาพในคลิปที่ออกไป แต่อาจจะเป็นเพราะเหตุและผลที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้น
และวันนี้ (31 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ไปสัมภาษณ์ ดร.สุนิล พล หรือ หมอสุนิล พ่อของนายเฆวินทร์ พล ซึ่งเดินทางมาพักผ่อนที่ จ.เชียงราย พูดถึงกรณีที่เกิดขึ้นกับลูกชายว่า ตนเป็นคนสั่งสอนและบอกลูกตลอดว่า หากอะไรที่ไม่แฟร์ ถูกเอาเปรียบ อย่าไปยอม จะต้องเอาชนะให้ได้ และตนเองบอกลูกเสมอว่า ชอบเกาะสมุย เคยบอกลูกแล้ว ให้ทำ State Quarantine ที่เกาะสมุย แต่ลูกก็ไม่เชื่อ ยังไปทำที่ภูเก็ต ตอนนี้ตนได้บอกลูกว่าให้กลับมาอยู่กับตน เพราะตนจะกลับมาทำธุรกิจที่เชียงราย เพื่อดึงนักท่องเที่ยวมาเชียงราย บ้านเกิดของตัวเอง ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ขอให้ทุกคนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดต้องรู้. – สำนักข่าวไทย